นักศึกษาได้มือถือ-โน้ตบุ๊กคืนแล้ว หลังแม่ครูรู้ข่าวลูกหลอกยืมของ เอาไปจำนำก่อนเผ่นหนี โร่กู้เงินไถ่ของคืน

วันนี้ (11 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.พรสวรรค์ (ขอสงวนสกุล) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี พาลูกสาว น.ส.รุ้ง อายุ 19 ปี นักศึกษาที่วิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี เข้าแจ้งความกับ ตร.สภ.เมืองอุดรธานี และร้องเรียนกับสื่อมวลชนถูก น.ส.ชนภ์นิภา หรือครูมิ้ว ชาว อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร หลอกยืมโน้ตบุ๊กราคา 18,000 บาทและโทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็ก ราคา 59,000 บาท รวมมูลค่า 77,000 บาท แต่สุดท้ายเอาไปจำนำหอบเงินหนี


พอสอบถามจะขอมือถือและโน้ตบุ๊กคืนกลับถูกครูสาวบ่ายเบี่ยงตลอด เลื่อนไปตลอด สุดท้ายก็หนีหายเข้ากลีบเมฆ ล่าสุดวันนี้ น้องรุ้งได้ไปไถ่โทรศัพท์คืนจากร้านมือถือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางร้านใจดีไม่คิดดอกเบี้ย ขณะที่น้องรุ้งและคุณแม่สุดแสนจะดีใจ อยากจะขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่มีส่วนช่วยเหลือให้ได้มือถือและโน้ตบุ๊กกลับคืนมา


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วิทยาลัยเกษตรฯ พบกับน.ส.พรสวรรค์ และน้องรุ้ง ลูกสาว พร้อมกับโชว์มือถือให้ดู


น.ส.พรสวรรค์ อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า หลังที่ได้เป็นข่าว ทางครูมิ้วก็ไม่ติดต่อมาเลย ได้ยินข่าวว่า ลาออกจากการเป็นครูอัตราจ้าง และหนีหน้าหายไปเลย แต่มีครูโจที่สอนที่วิทยาลัยเกษตรฯ แห่งนี้ และมีบ้านที่อยู่อ.เดียวกันกับครูมิ้ว ได้ติดต่อไปยังคุณแม่ของครูมิ้ว บอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณแม่ของครูมิ้ว ตกใจและเสียใจที่ลูกสาวมาทำแบบนี้ ทำให้แม่เสียหน้า จึงตัดสินใจไปหยิบยืมกู้และนำเงินจำนวน 43,400 บาทใช้หนี้แทนลูกสาว พร้อมกับฝากเงินจำนวนดังกล่าวกับครูโจมาให้ โดยแยกเป็นค่าจำนำมือถือ 22,000 บาท จำนำโน้ตบุ๊ก 4,000 บาท เงินยืม 7,400 บาทและให้ค่าน้ำมันมาอีก 10,000 บาท จากนี้ไม่คงไม่ติดใจ จะไปถอนแจ้งความกับตร.ต่อไป


ขณะที่น้องรุ้ง ยกมือไหว้ ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนให้หนูได้มือถือและโน้ตบุ๊กที่ครูหลอกไปจำนำแล้วได้คืนมา ต่อมาคงไม่ให้ใครยืมอีกแล้ว เข็ดแล้วค่ะ น้องรุ้งกล่าวตอนท้าย


ทางด้าน พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รองผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้แม่ของคุณครูผู้ก่อเหตุได้นำเงินมาชดใช้เยียวยากับทางผู้เสียหายแล้ว ทั้งโทรศัพท์มือถือคอมพิวเตอร์ Notebook และเงินที่ยืมไปทางแม่ของผู้ก่อเหตุได้นำเงินมาชดใช้ให้ครบจำนวนแล้ว เรื่องคดีความนั้นถ้าผู้เสียหายไม่ติดใจก็สามารถถอนคำร้องทุกข์ได้


แต่ทั้งนี้ผู้เสียหายยังคงติดใจอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายได้เช่นกัน