สังคม

เปิดใจหญิงหม้าย ผู้เสียหายถูกเสี่ยกำมะลอหลอกให้รัก ก่อนทำร้าย เหตุฉุนขอเงินไม่ได้

โดย paranee_s

9 ม.ค. 2567

381 views

วันนี้ (9 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายละมัย อายุ 54 ปี ชาวต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี อ้างเป็นเสี่ยร้อยล้านมีที่ดิน 400 ไร่ มีธุรกิจรถแบคโฮ ไปคบกับแม่หม้ายคนหนึ่งที่บ้านดงหวาย แต่ก่อเหตุมีดแทงและปาดคอ ผู้บาดเจ็บชื่อนางบัวไร อายุ 48 ปี ชาวบ้านดงหวาย ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เหตุขอยืมเงินไปงานศพญาติที่อุบลธานีไม่ได้



จากนั้นได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีดำ หมายเลขทะเบียน สิงห์บุรี หลบหนีไป แต่เกิดซิ่งมาด้วยความเร็วแหกโค้งบ้านดงบาตรชนกับเสารั้วบ้านของชาวบ้านจนรถพัง จากนั้นนายละมัยได้หลบหนีเข้าป่าอ้อยพร้อมอาวุธปืน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตร.สภ.บ้านดุงปิดล้อมป่าอ้อยหาตัวยังไม่เจอ



ก่อนเสี่ยร้อยล้านกำมะลอจะมารู้จักนางบัวไร ซึ่ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 23 ธ.ค. 66 นายละมัยได้ไปขอให้พระอาจารย์ปัญญา ที่วัดจันทร์ศรีมงคล บ้านมีชัย ต.บ้านตาด ให้บวชให้ โดยตอนโกนหัวนายละมัยร้องไห้ทั้งดีใจและเสียใจ บอกว่าขอให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ อย่าได้จองเวร มีแต่คนประณามผม หนีร้อนมาพึ่งเย็น ชีวิตนี้ผมขอมอบให้กับผ้าเหลือง แต่บวชได้เพียงสัปดาห์กว่าก็สึกแล้วมาติดพันหญิงหม้ายจนก่อเหตุใช้มีดปาดคอหวังฆ่า เพราะขอเงินไม่ได้ จนขับรถซิ่งและหนีเข้าป่าอ้อย



ขณะเดียวกันพ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.บ้านดุงนำกำลังตร.ชุดสืบสวนเดินทางไปป่าอ้อยอีกครั้ง โดยตร.ได้เดินเข้าไปป่าอ้อยพื้นที่ 5 ไร่แต่ยังไร้วี่แววนายละมัยไม่พบตัวแต่อย่างใด





และบ่ายวันนี้ นางบัวไล ผู้เสียหายเปิดใจกับนักข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และที่มาที่ไปที่ได้เจอกับเสี่ยร้อยล้านกำมะลอรายนี้ ว่า รู้จักกันเพราะมีคนในหมู่บ้านได้แนะนำให้รู้จัก ขณะไปขุดปูนา โดยมีคนในหมู่บ้านและอดีตกำนัน มาบอกว่า จะแนะนำให้รู้จักกับเสี่ยนักธุรกิจร้อยล้านคนหนึ่ง ชื่อนายละมัย ซึ่งเราก็ดีใจ เพราะไม่มีสามีมาหลายสิบปี ก็วาดฝันชีวิตคู่เพราะเขาบอกว่าเป็นเสี่ยร้อยล้าน มีธุรกิจหลายอย่าง ตอนแรกก็เชื่อ แต่อยู่ด้วยกันสักพักเริ่มเอะใจ เพราะมีหลานสาวมาแอบบอกว่า เพจบ้านดุงอัพเดตลงว่า ชายคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นหลอกพระมาหลายที่



โป๊ะแตกเลยทีนี้ แต่ตนก็เก็บความลับเอาไว้ เพราะกลัวเขาจะรู้ และที่เราเป็นแฟนเขา เพราะสงสาร เขาบอกไม่มีใคร และป่วยด้วย ส่วนที่จะมาหมั้นหมาย และแต่งกาย เขาพูดเองว่าจะให้สินสอด หกหลัก มีการตกลงกัน 100,000 บาท แต่ต่อมเขาขอลดเหลือ 80,000 บาท ตอนแรกตนไม่ยอม วันต่อไปก็เลยโทรไปหาเขา เขากลับมายอมรับ เราก็มีอะไรกันแล้ว



ก่อนหน้าจะเกิดเหตุนายละมัยฯ ชวนไปเยี่ยมญาติที่เสียชีวิตที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยบอกว่าญาติคนนี้คนนี้นับถือมากเขาเลี้ยงและดูแลตนมา โดยบอกให้ตนไปยืมเงินกับแม่อ้อยจำนวน 5,000 บาท ซึ่งตนก็บอกกับว่าไปยืมไม่ได้หรอกตนไม่ได้ทำงานจะหาเงินที่ไหนมาคืนเขา สักพักเขาก็นั่งบ่นพูดออกมาว่าปรึกษาเมีย เมียก็ช่วยไม่ได้



ตนได้ยินแบบนั้นก็เถียงกลับจะให้ช่วยยังไง แม้แต่ตัวฉันก็ยังเอาไม่รอด พามาอยู่ด้วยไม่ใช่เอามาสร้างปัญหา พูดจบตนก็เดินเข้าห้อง จากนั้นเขาก็บ่นออกมาว่าพูดดังๆ ลอยๆ ออกมาว่า “กูฆ่ามาหลายคนแล้วจะฆ่าอีกสักคนจะเป็นไรคุก กูก็ติดแล้ว” พอได้ยินแบบนั้นก็หวาดระแวง ทั้งนี้ตนกับนายละมัยรู้จักกันผ่านเพื่อนรุ่นน้องตั้งแต่ช่วงปีใหม่เห็นตอนแรกก็ไม่ใช่สเปคไม่ถูกใจแต่ก็คบๆ ดูๆ กันก่อน



นางบัวไรฯ บอกอีกว่า จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. ก็ถูกนายละมัยใช้มีดแทงที่บริเวณท้องและถูกมีดจี้ที่คอ ตอนนั้นตนก็ดิ้นรนต่อสู้ตั้งสติเอาตัวรอดออกมาได้แล้วร้องตะโกนพูดดังเรียกชื่อหลานว่า ซาร่าๆ ตำรวจมาหรือยัง ตำรวจถึงหรือยัง จากนั้นนายละมัยก็วิ่งขึ้นรถครับหนีออกไปประสบอุบัติเหตุหลบหนีไป



ซึ่งนายละมัยเริ่มเข้ามาอยู่บ้านกับตนตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 67 ถึงกระทั่งวันเกิดเหตุ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนายละมัยชอบพูดอวดอ้างมีที่ตรงนั้นมีที่ตรงนี้เยอะแยะมากมาย เคยพาตนไปดูไร่มันสำปาหลัง สวนปาล์ม ทั้งที่ไม่ใช่ของตัว ซึ่งตนก็เฉย รู้อยู่ว่าเขาเป็นไง แต่เท่าที่สังเกตเงินในกระเป๋าก็ไม่มีสักบาท แต่ตนก็ไม่ได้ใส่ใจ ขอแค่อย่าสร้างปัญหา ช่วงที่มาอยู่ที่บ้านชวนไปไหนก็ไม่ไป ตนก็เริ่มผิดสังเกต ไม่นานมีคนโพสต์ลง Facebook ว่า นายละมัยไปโกหกเอาเงินพระ จึงให้หลานติดต่อแจ้งเบาะแสขอให้คนมาจับตัวและมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น



ด้านนายสมควร อายุ 45 ปี น้องชาย บอกว่า เรื่องพี่ไรกับนายละมัยนั้นเท่าที่รู้ เขารู้จักกันโดยมีคนแนะนำกันมา ก่อนหน้าที่จะมีเรื่อง ตนได้ถามนายละมัยว่า ทำไมถึงมาคบกับพี่สาว ทางฝ่ายชายก็พูดมาและอวดอ้างว่ามีบ้านหลังใหญ่ร่ำรวยมีบ้านทรงไทย 2 หลัง มีรถแบคโฮ



ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อเพราะว่าเขาพูดไปหลบตาไป โดยวันที่คุยกันตอนนั้นนายละมัยจะมาขอพี่สาวแต่งงาน พาผู้ใหญ่มาสู่ขอเจรจาเรื่องสินสอด ตอนนั้นฝ่ายหญิงเรียกร้องค่าสินสอดไป 100,000 บาท ส่วนฝ่ายชายก็ต่อลงเหลือ 80,000 บาท แต่ทางฝั่งพี่สาวก็ไม่เอา เมื่อตกลงกันไม่ได้หลังก็แยกย้ายกันไป



มารู้อีกทีเขาก็ยังคบกันไปไหนมาไหนด้วยกัน วานนี้ตอนเย็นตอนตั้งใจว่าจะมาคุยกับพี่สาวอีกครั้งแต่ก็มาเกิดเรื่องซะก่อน สำหรับพี่สาวเพิ่งขายที่นาได้ประมาณ 450,000 บาท ส่วนตัวคิดว่าผู้ชายคนนี้รู้ว่ามีเงินจึงเข้ามาหวังหลอก ทั้งนี้พี่สาวเป็นคนขี้สงสารเห็นคนทุกข์ยากก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมฝากถึงนายละมัยถ้าเจอหน้า จะขอซักสักที



ขณะที่ป้าอ้อย บอกว่า นางไรมาขอยืมเงิน 5,000 บาท บอกว่าจะให้ว่าที่สามีไปงานศพญาติที่อุบลราชธานี แต่ดูคนแล้วไม่น่าไว้วางใจตนเองเลยไม่กล้าให้ยืม จนมีเรื่องมีราว เห็นนางไรวิ่งร้องตะโกนขอความช่วยเหลือและมือกำที่คอ ตนคิดแล้วคงเกิดแบบนี้ก็เกิดจนได้ เพราะดูนายคนนี้ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ อ้างว่าตัวเองเป็นเสี่ยร้อยล้านมีรถแบคโฮ มีที่ดิน 300-400 ไร่ แถมมาอยู่กับนางไร สั่งตู้กับข้าว ตู้เสื้อผ้าใหม่ ที่นอนใหม่เพื่อจะมาร่วมหอลงโรง ราคา 13,000 บาท แต่สุดท้ายไม่จ่าย เสี่ยอะไรเป็นแบบนี้ เงินติดตัวก็ไม่มีสักบาท แถมมายืมเงินคนเขาไปทั่ว โม้คำโตนั่นเอง





ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประวัติของนายละมัย สง่างาม ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเป็นชาวจังหวัดลพบุรี เคยมีเมียที่บ้านนาคำ อ.บ้านดุง มีคดีฉ้อโกงติดตัวอยู่ 5 คดี ถูกตำรวจจับติดคุกและเพิ่งพ้นโทษและมาบวชจากนั้นสึกออกมาและมาอยู่กับนางไรได้ 5 วัน และมาก่อเหตุดังกล่าว ขณะที่นายละมัยหลังหลบหนีเข้าป่าอ้อยตอนนี้ดำดินหายตัวยังไม่โผล่แต่อย่างใด

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ