ข่าวโซเชียล
สุดยอดทีมเวิร์ก! โซเชียลชื่นชมทีมแพทย์ 2 รพ.ร่วมมือช่วยชีวิตเด็กหญิง 5 ขวบ เผลอดื่มไซยาไนด์จนปลอดภัย
โดย paranee_s
9 ม.ค. 2567
232 views
กรณีที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Ramathibodi Poison Center ได้เผยแพร่เรื่องราวน่าประทับใจ เมื่อทีมแพทย์ 2 โรงพยาบาล ได้ช่วยชีวิตเด็กจนรอดชีวิต โดยระบุข้อความว่า "โพสต์นี้แอดขอเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ชื่นชมและขอบคุณ ทีม รพ.ขุนยวม และ รพ. ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ช่วยเหลือประสานงานการส่งตัวผู้ป่วยเด็กที่หมดสติ และมีเลือดเป็นกรดรุนแรง จากพิษไซยาไนด์จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน"
ซึ่งไซยาไนด์ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ทำให้อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับยาต้านพิษทันเวลา การได้รับยาต้านพิษทันเวลาสำคัญต่อการกู้ชีวิตเด็กคนนี้มากๆ เรียกว่าทุกวินาทีมีค่า ด้วยว่าเป็นภาวะที่เกิดไม่บ่อย (ตลอดชีวิตการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์บางท่าน อาจยังไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ) ยาต้านพิษนี้จึงจะไม่ได้มีในทุก รพ. แต่มีระบบการเก็บไว้ในโรงพยาบาลจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ให้มีการส่งหรือยืมเพื่อช่วยผู้ป่วยตามระบบของโครงการยาต้านพิษ
การที่ทีมทั้งสอง รพ. ตัดสินใจให้ทาง รพ.ขุนยวม มีแพทย์และพยาบาลอีก 2 ท่านออกรถไปกับเด็ก ขณะเดียวกันทาง รพ.ศรีสังวาลย์ก็ออกรถนำยาต้านพิษ (sodium nitrite และ sodium thiosulfate) มาพบกันครึ่งทาง และให้ยาต้านพิษบนรถพยาบาลกลางทาง แล้วรับตัวน้องเด็กไปดูแลต่อที่ไอซียู ทำให้ประหยัดเวลาและรักษาชีวิตคนไข้ได้อย่างทันท่วงที แม้เส้นทางจะคดเคี้ยวหรือทำเวลาได้ยาก แต่ด้วยการประสานพบกันกลางทางนี้ ก็ทันเวลาที่จะช่วยคนไข้ให้ฟื้นตัวและตื่นรู้ตัวเป็นปกติได้ในเวลาต่อมา
- ขอบคุณที่ให้ทีมศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไข้ในครั้งนี้
- ขอบคุณที่ให้พวกเราได้เห็นตัวอย่างการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมระหว่างหน่วยงาน
- ขอชื่นชมทีมทั้งสองโรงพยาบาล พวกคุณสุดยอดมากครับ พร้อมติดแฮชแทค ขอคารวะทั้งสองทีมจากใจจริง
ซึ่งในโพสต์นี้ รวมถึง ประกาศของโรงพยาบาลขุนยวม ได้ขอบคุณโรงพยาบาลรามาด้วย ว่า ในนามโรงพยาบาลขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ของขอบคุณทางศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี เป็นอย่างสูง ที่ให้คำแนะนำปรึกษาในภาวะฉุกเฉิน เคสผู้ป่วยเด็ก ที่หมดสติและมีเลือดเป็นกรมรุนแรงจากพิษไซยาไนด์ จนเด็กรอดชีวิตปลอดภัย
ซึ่งโรงพยาบาลขุนยวมเป็นรพ.ชุมชนพื้นที่ห่างไกล การส่งต่อยากลำบาก ทีมแพทยืและเจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกอุ่นใจที่คณาจารย์ให้คำปรึกษา ด้วยดีมาตลอด ทำให้ผู้ป่วยห่างไกลได้รับการรักษาถูกต้องทันเวลา
ขณะที่ชาวโซเชียลต่างชื่นชม ทีมแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาล และขอบคุณศูนย์พิษวิทยารามาเป็นพิเศษ เป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าแพทย์ตาดำๆ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ รศ.พญ.สาทริยา ตระกูลศรีชัย อ.ประจำศูนย์พิษวิทยา ซึ่งให้คำปรึกษาทั้ง 2 โรงพยาบาล เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มกราคม ช่วง 4 โมงเย็น หลังเด็กดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงินแล้ว ชัก ไม่รู้สึกตัว ถูกนำส่งรพ.ขุนยวม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ผลตรวจเลือดพบเป็นกรด คาดเกิดจากไซยาไนด์
เมื่อทางรพ.ขุนยวมปรึกษามา ก็แนะนำให้ไปเอายาต้านพิษ ที่รพ.ศรีสังวาลย์ ซึ่งอยู่ใกล้สุด 60 กิโลเมตร แต่ด้วยเส้นทางคดเคี้ยว ต้องใช้เวลา เกรงไม่ทัน ได้รับยาภายใน 1 ชั่วโมง จึงช่วยประสาน รพ.ศรีสังวาลย์ นำยามาให้พบกันครึ่งทาง และให้ยาในรถผู้ป่วย จนน้องมีอาการดีขึ้น และไปรักษาต่อที่รพ.ศรีสังวาลย์ หลังจากนั้นก็ให้ยาซ้ำอีกครั้ง ในช่วงกลางคืน จนกระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมาอาการดีขึ้น และตอนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งขอชื่นชมทั้ง 2 รพ.ที่วิเคราะห์ได้ทันท่วงทีว่า เป็นเกิดจากยาไซยาไนด์ และช่วยชีวิตน้องได้
สำหรับยาต้านพิษ อยู่ในโครงการยาต้านพิษแห่งชาติ เป็นยาที่ผลิตโดยสภากาชาดไทย ไว้ไปประจำที่โรงพยาบาลจังหวัดและรพ.ห่างไกล เพื่อช่วยในภาวะฉุกเฉินและไม่มีขายในท้องตลาด
ด้าน เฟซบุ๊ก "ธีระดา วงค์ใจ" ได้โพสต์เล่า เมื่อ 2 วันก่อน ว่า "เด็กน้อยอายุ 5 ปี มาด้วยอาการไม่รู้สึกตัว แน่นิ่งไม่ตอบสนองใดๆ แม่ให้ประวัติ ดื่มน้ำยาแช่เครื่องเงินประมาณ 1 อึก ซึ่งน้ำยาเป็นสารไซยาไนด์" รพ.ที่ไปรักษาเป็น รพ.ชุมชน ซึ่งไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน อย่าว่าแต่ รพ.ชุมชนเลย เราที่อยู่ รพ.จังหวัด ทำงานมานานก็ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลย หมอจึงรีบโทรไปหาศูนย์พิษรามาฯทันที เพื่อปรึกษาเรื่องการรักษาพิษจากไซยาไนด์
อาจารย์แพทย์ที่ศูนย์พิษรามาฯได้มีคำสั่งการรักษาผู้ป่วย ด้วยยาหลายตัว ยาบางตัวมีให้ได้เลย แต่…ยาที่เป็นพระเอกใช้แก้พิษไซยาไนด์ ไม่มีใน รพ.ขนาดเล็กๆ แบบนี้ ต้องพาเด็กไปรักษาที่ รพ.จังหวัด ห่างออกไป 60 กม. ทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดขับเร็วไม่ได้ ทำเวลาไม่ได้ เอาล่ะสิ ยุ่งแล้ว
- หมอปุ้ยโทรปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และกุมารแพทย์เพื่อจะมารักษาต่อที่นี่ และกระโดดขึ้นรถรีเฟอร์พร้อมพยาบาลอีก 2 คน เพื่อดูแลเด็กระหว่างทาง
- หมอกรีคำนวณเวลาแล้ว กว่าเด็กจะมาถึง ไซยาไนด์คงทำพิษต่อร่างกายเสียหายไปมาก และเด็กอาจจะเสียชีวิตระหว่างทาง หมอกรีจึงมีคำสั่งให้เอายาแก้พิษไซยาไนด์ 2 ตัว ให้พนักงานขับรถ นำยาไปส่งให้ทีมหมอปุ้ยที่กำลังเดินทางมา เพื่อที่จะได้รีบให้ยาแก้พิษทันที
- หมอปุ้ยและทีมรีเฟอร์ รพ.ขุนยวม เมื่อได้รับยาจาก พชร. แล้วก็ให้ยาแก้พิษ จากนั้นเด็กเริ่มตื่น ดิ้น จากที่นอนแน่นิ่งไม่ตอบสนองใดๆ
- หมอฉุกเฉิน Kreetha Kamniam หมอแพรซึ่งเป็นหมอเด็ก มารอเตรียมรับผู้ป่วยที่ ER
- พอมาถึงที่นี่ ให้ยาแก้พิษซ้ำไปอีก เจาะเลือด ติดตามพิษในเลือด ติดตามสัญญาณชีพ ส่งเด็กนอนรักษาต่อที่ ICU ลุ้นให้เด็กน้อยรอด / เช้านี้ติดตามอาการ เด็กน้อย ตื่นดี ถอดท่อช่วยหายใจแล้ว E4V5M6
- การรักษาเด็กน้อยครั้งนี้ เปรียบเสมือนการวิ่งแข่งกับสารพิษไซยาไนด์ ที่เข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกาย โดยเราปล่อยยาแก้พิษ (sodium nitrite และ sodium Thiosulfate) เข้าสู่กระแสเลือดให้วิ่งเข้าไปจับไซยาไนด์ล็อกไซยาไนด์ไว้ให้สิ้นพิษ เฮ้อ…แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
สรุป.. พวกเราชนะว๊อยย….. เย้!!
พร้อมมีคำเตือน ในท้ายโพสต์ ว่า ใครมีลูกเล็ก ควรจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ไซยาไนด์มีพิษร้ายแรงมาก สามารถฆ่าคนในเวลาไม่กี่นาที
คำเตือนอีกข้อ หากผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น กดหัวใจได้ แต่อย่าจุ๊ฟปากผายปอด เพราะอาจจะได้รับไซยาไนด์ด้วย ตายอ๊องไปด้วยกัลลเรย
คำเตือนสุดท้าย ยังไม่เชยนะ อย่าประมาทไปทานข้าวกับคนแปลกหน้า นะคะ"
แท็กที่เกี่ยวข้อง