เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 8 ม.ค.67 คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่-ปฏิบัติการรังสิตมันร้าย-มาเฟียวัดพระธาตุพนม

1.พ่อร่ำไห้กอดรูป ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณน้องนาย

แพทย์เผยผลชันสูตรศพน้องนาย พบเมล็ดข้าวเหนียว 2 เม็ดในหลอดลมส่วนบน อีก 10 กว่าเม็ดที่บริเวณในปาก คาดเด็กกินข้าวเหนียวเกิดอาการสำลัก มีเม็ดข้าวหลุดไปในหลอดลม ทำให้ระบบหายใจติดขัดขาดอาการหายใจตาย ขณะที่พ่อไม่เชื่อข้าวเหนียวติดคอ ร่ำไห้เคาะโลงเรียกลูก ยันจะแจ้งความทำร้ายย้อนหลัง ก่อนทิ้งท้ายว่าอยากจะบอกว่าพ่อรักลูกมาก ขณะที่ปู่อู๊ด ย้ำเด็กถูกพ่อเลี้ยงทุบตีทุกวัน แม้ว่าจะไม่เห็นแต่ได้ยินเสียงทุกการกระทำ ส่วนก้อยพร้อมครอบครัวร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ ถูกญาติตะโกนด่าทอ ด้าน ตร.เผย ปู่ไม่โดนข้อหาอุบัติเหตุ ไม่ใช่เจตนา

2.ปค. บุกจับผับเถื่อนย่านรังสิต พบเด็กต่ำ 20 กว่า 489 คน

กรมปกครอง เปิดปฏิบัติการ รังสิตมันร้าย บุกจับผับ HEAVEN Rangsit พบนักเที่ยวราตรีต่ำกว่า 20 ปี 489 คน โดยเด็กสุดอายุเพียง 16 ปี และไร้ใบอนุญาต อธิบดีกรมการปกครอง ย้ำเพื่อเป็นการสนองนโยบาย มท.1 ปราบสถานบริการเถื่อน และเร่งจัดระเบียบสังคม ย้ำห้ามมีเด็ก ยา อาวุธ ด้าน ผกก.สภ.คลองหลวง จัดหนัก เตรียมเสนอปิด 5 ปี หลังปล่อยให้เยาวชน เข้าใช้บริการ พร้อมประสานเจ้าของมาสอบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา

3. หนุ่มท้าชน นักธุรกิจสาว ลั่นไม่ใช่เจ้าพ่อเงินกู้แต่ถูกหลอกให้ลงทุน

หนังคนละม้วน หนุ่มชาวอุทัยธานี โชว์เอกสารเปิดหน้าขอท้าชนนักธุรกิจสาว หลังถูกนักธุรกิจสาวร้องถูกข่มขู่เอาชีวิตครอบครัว ก่อนยันเป็นคนตัดอ้อยไม่ใช่เจ้าพ่อเงินกู้ พร้อมหอบเอกสารหลักฐานโต้ ไม่ใช่การกู้เงินนอกระบบ แต่เสนอร่วมลงทุนให้ผลกำไรตอบแทนสูง ก่อนเบี้ยวไม่ยอมจ่าย ชี้การที่นักธุรกิจสาวไปร้องเพจดัง หวังจะให้เป็นข่าวและไม่ต้องใช้หนี้เท่านั้น โดยวันนี้ตนพร้อมผู้ร่วมลงทุนจะเดินทางไปพบนายชาดา ไทยเศรษฐ์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

4. เทสลาซิ่ง ชนวินาศกลางพิษณุโลก ทำรถพังยับ 12 คัน

นาทีระทึก โซเชียลแห่แชร์คลิปหนุ่มเมาแอ๋ขับเทสลาซิ่งกลางเมืองพิษณุโลก พุ่งชนรถที่จอดข้างทางแต่ไม่หยุดขับหนีต่อไปด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนรถชาวบ้านพังยับ 12 คัน จนไปต่อไม่ได้ ขณะที่ตำรวจนำตัวดำเนินคดี ขณะที่ผู้เสียหายเล่านาทีระทึก ชี้เห็นผู้ก่อเหตุขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนท้ายรถดังสนั่นจึงรีบออกมาดู เห็นสภาพพังยับทั้งคันแบบไม่เหลือซาก คาดว่าคนขับน่าจะไม่รอด ปรากฏว่าคนขับออกมาจากรถไม่เป็นอะไรเลย

5. สั่งล้างบางระบบ มาเฟีย หากินกับวัดพระธาตุพนม

นายอำเภอธาตุพนม ประกาศกร้าวสั่งล้างบางระบบมาเฟียหากินกับวัด หลังชาวบ้านร้องเจอมาเฟียวัด ฉวยโอกาสเปิดแผงเช่าตั๋วผี เก็บเงินเข้ากระเป๋าสูงถึง 30,000 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ด้านนายกเทศมนตรียันการเช่าช่วงไปโก่งราคา ชี้เป็นการสมยอม ขณะที่ คกก.วัดยังไม่มีข้อสรุปในการจัดแผงเช่า พร้อมเดินหน้าแก้ระบบผูกขาดมานานกว่า 30 ปี พบเงินสะพัดปีละเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมหาทางจัดประมูลตัดวงจรเอื้อประโยชน์มาเฟีย

6. อุ๊งอิ๊ง ภูมิใจ ต่อยอดนโยบาย 30 บาท

เศรษฐา – อุ๊งอิ๊ง Kick off 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ร้อยเอ็ด ส่วนประชาชนแห่เข้าร่วมงานหมื่นกว่าราย ขณะที่คนร่วมงาน หวังเป็นโยบายช่วยคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้านอุ๊งอิ๊งบอกจุดกำเนิดเริ่มจากรัฐบาลทักษิณ เมื่อ22 ปีก่อนท่ามกลางข้อครหา-วาทกรรมมากมาย จนสำเร็จให้วันนี้ได้ต่อยอด

7.พีระพันธุ์ ชี้ค่าไฟงวดใหม่ พ.ค. ไม่เกิน 4.20 บ.

พีระพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน แจงค่าไฟฟ้างวดใหม่ พ.ค. ให้ รอ กกพ.ประกาศ ในวันที่ 10 ม.ค. นี้ แต่การันตีตัวเลขกรอบเดิม คาดอยู่ที่ 4.17-4.19 บาทต่อหน่วย พร้อมระบุ พบสัญญาณดี หลังก๊าซในอ่าวไทยฯ เริ่มกลับมาตามแผน 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 67 ชี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลมาถึงค่าไฟฟ้าในระยะต่อไปด้วย



เรื่องเล่าการเมือง

-อุ๊งอิ๊ง ยันไม่มีชื่อนั่งเก้าอี้ รมต. ในการปรับ ครม. ลั่น ยังไม่พร้อม

กระแสข่าวเรื่องปรับ ครม.และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร อาจจะเข้ามาอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้วย เมื่อวานอุ๊งอิ๊ง ยืนยันว่า ไม่จริง และยังไม่พร้อมเป็นรัฐมนตรี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการนำร่อง "30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว" ที่ จ.ร้อยเอ็ด ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า ไม่มีชื่อของตนแน่นอน

ส่วนใน 4 ปีของรัฐบาลชุดนี้จะมีโอกาสนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ยังไม่ทราบ ช่วงนี้ขอทำงานเพื่อนโยบายต่าง ๆ ทั้ง Soft Power และ โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่

เมื่อถามย้ำว่าถ้ามีชื่อเป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม.รอบนี้ พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ย้ำว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เกิดขึ้น ฉะนั้นยังไม่พร้อมแน่นอน และจะรู้สึกเซอร์ไพรส์มากถ้าจะมีชื่อ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าอุ๊งอิ๊ง จะเข้ามาเป็นนายกฯแทนคุณเศรษฐา แกนนำพรรคเพื่อไทยยังออกมาปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยบอกว่า เป็นเพียงข่าวที่พูดกัน แต่ในพรรคไม่เคยมีการพูดแบบนี้

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ระบุว่า การเป็นหัวหน้าพรรคก็มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องรอให้ถึงวาระ แล้วค่อยตัดสินใจ ซึ่งยังเหลือเวลาอีกยาว เพราะรัฐบาลนี้เพิ่งเริ่มต้นทำงาน และคิดว่าจะอยู่ยาวให้ครบวาระ



-สมศักดิ์ - สุริยะ - ประเสริฐ เตรียมไขก๊อก สส.ปาร์ตี้ลิสต์

ขณะที่ นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า 3 แกนนำเพื่อไทย เตรียมลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ

โดยเป็นการลาออกเพื่อเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็น สส. ยืนยันว่า ไม่ใช่ลาออกเพราะจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น คือ

1.สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี

2.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

3.ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ต่อมา นายสมศักดิ์ ยอมรับ จะลาออกจาก สส. บัญชีรายชื่อ พร้อมกับนายสุริยะจริง เนื่องจากมีงานในตำแหน่งรัฐมนตรีมาก จึงต้องการเปิดทางให้คนอื่นทำหน้าที่ สส.แทน โดยในวันนี้จะทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขอลาออกอย่างเป็นทางการ

เช่นเดียวกับนายประเสริฐ ที่ยอมรับรับว่าเป็นเรื่องจริงที่จะลาออกจาก สส. บัญชีรายชื่อ ด้วยเหตุผลทำนองเดียวกัน

สำหรับผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น สส.แทน คือ ผู้สมัครในลำดับที่ 32-34 ประกอบด้วย

1.น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา

2.นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา

และ 3.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง



-บิ๊กป้อม นำทีม พปชร.ลงพื้นที่ ยันพรรคยังเหนียวแน่น

ส่วน พลเอกประวิตร ที่หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ เมื่อวานนำรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ บอกที่เงียบหายไปเพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ยืนยันพรรคพลังประชารัฐยังเหนียวแน่น

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ในกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจร เป็นครั้งแรก เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ

พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า เป็นการมาชี้แจงการทำหน้าที่ของตนเอง และพรรคพลังประชารัฐ ว่าตลอด 7-8 ปีทีผ่านมา ได้ทำอะไรไว้บ้าง ซึ่งพลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงเข้ม สีหน้าจริงจัง

และเมื่อถามว่าการลงพื้นที่มีนัยยะทางการเมือง ว่า พลเอกประวิตร จะคัมแบ็คกลับมาสู่เวทีการเมืองหรือไม่ พลเอกประวิตร ตอบกลับเสียงดังว่า ไม่ใช่การคัมแบ็ค เพราะตนเองไม่ได้ไปไหน แต่ที่เงียบหายไปนาน เพราะไม่ได้เป็นรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีแล้ว ส่วนที่ไม่ค่อยได้ไปประชุมสภาฯ เพราะเจ็บขา เพิ่งหายได้ 2 วันเอง

พอถามว่าจะไปงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ท่านก็ตอบเสียงดังว่าไม่ไป เพราะไม่ใช่หัวหน้า ซึ่งตอนหลังก็บอกว่าหมายถึงหัวหน้าทีมรัฐมนตรี

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าตนเองจะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาก็มีการประชุม สส.พรรคทุกวันพุธ และมีการขับเคลื่อนในพรรคตลอด



-เฉลิมชัย วอนเลิกพูด ปชป. พรรคอะไหล่ ยันไม่มีซูเอี๋ย

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งแรก นายเฉลิมชัย ขอร้องให้เลิกพูดว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่สักที ยืนยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ ไม่มีซูเอี๋ย

เมื่อวาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ถือฤกษ์เวลา 09.09 น. สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อขอพรในการเดินหน้าทำงานของพรรค ภายหลังได้รับการรับรองจาก กกต. เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา

ก่อนประชุม นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ ก่อนประชุม ถึงการทำงานของพรรคนับจากนี้ ยืนยันว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่นายเฉลิมชัยย้ำ คือ ขอให้เลิกพูดสักทีว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่ ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่มีซูเอี๋ย

ขณะที่ระหว่างการประชุมกรรมการบริหารนัดแรก ช่วงหนึ่งนายเฉลิมชัย ได้กล่าวว่า ขอให้ทุกคนสวมบทบาทนักรบ นำพาพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า และ มั่นใจว่ากรรมการบริหาร และ สส.พรรคปัจจุบันจะมีความเป็นเอกภาพมากที่สุด ซึ่งความเป็นเอกภาพเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเดินหน้าไปสู่ความมั่นคง อาจจะต้องเหนื่อยกัน แต่ถ้าเหนื่อยแล้วผลตอบแทนออกมาคุ้มก็คุ้มค่ากับการที่จะเหนื่อย



- สว.เตรียมทิ้งทวน ขอเปิดอภิปรายรัฐบาล ก่อนหมดวาระ

ประเด็นล่าสุดที่น่าจับตา สว.เตรียมจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลครั้งแรก ก่อนจะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม ระบุ 4 เดือนไร้ผลงานเป็นรูปธรรม บอกทิ้งทวนทำหน้าที่ก่อนหมดวาระ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยว่าในการประชุมกรรมาธิการวันนี้ (8 ม.ค.) จะพิจารณาเรื่องการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน “โดยไม่มีการลงมติ” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153

ซึ่งนายเสรี เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯได้หารือเป็นการภายใน และได้สอบถาม สว. มาก่อนหน้านี้ และมองว่า สว.ควรทำหน้าที่ขอเปิดอภิปรายให้รัฐบาลชี้แจงในประเด็นปัญหาสำคัญ การทำงานตามนโยบายตามที่หาเสียง ที่พบว่า 4 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และเบื้องต้นเห็นว่าการอภิปรายฯ น่าจะเป็นช่วงก่อนปิดสมัยประชุมในเดือนเมษายน นี้ ซึ่งการขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 153 จะต้องมี สว.เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 คน

อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดเวทีอภิปรายจริง ๆ ก็จะถือได้ว่าเป็นการทิ้งทวนของ สว.ชุดนี้ก่อนจะหมดวาระในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเป็นการของอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 เป็นครั้งแรกของ สว.ชุดนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/W7jrjN6kZ2U