สังคม

ฮือฮา ปรากฏการณ์ฟ้าแดงก่ำ เหนือท้องฟ้าลำปาง

โดย paranee_s

7 ม.ค. 2567

151 views

เช้าวันนี้ (7 มกราคม 2567) ประชาชนที่ตื่นตอนเช้า นอกจากจะได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิพื้นราบเฉลี่ย 18 – 19 องศาเซลเซียส ก็ยังพบเห็นฟ้าแดง ที่เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่ ในช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น โดยเมื่อเวลา 06.15 น. ท้องฟ้า และเมฆทางทิศตะวันออก เริ่มเป็นสีแดง จากนั้นก็กลายเป็นสีแดงสด และแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ สร้างความแปลกตาแก่ประชาชนที่พบเห็นอย่างมาก ที่เกิดปรากฏการณ์ฟ้าแดงขึ้นในตอนเช้า


และเมื่อวานนี้ ในช่วงเย็นก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าแดงก่ำ ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก ในช่วงค่ำ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ จ.ลำปาง ที่พบเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติดังกล่าวต่างถ่ายรูป และแชร์ลงโซเชียลมีเดียให้หลาย ๆ คนได้เห็นภาพดังกล่าว กระทั่งมาเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้


ทั้งนี้ การเกิดฟ้าสีแดง ตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่า หากเกิดปรากฏการณ์ท้องฟ้าสีแดง เป็นการเตือน หรือชี้คำทำนายตามความเชื่อพื้นบ้าน ว่าพายุกำลังจะมา แต่ตามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ของ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) และผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ เผยแพร่ ในเรื่องดังกล่าว เคยอธิบายไว้ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ท้องฟ้าสีแดง ระบุว่า ปรากฏการณ์ท้องฟ้าสีแดง เพราะเกิดจากการกระเจิงของแสง (scattering) เนื่องจากการกระเจิงของแสงนั้น จะเกิดขึ้นได้ดีกว่าในแสงที่มีความยาวคลื่นสั้น แสงที่มีสีฟ้า จึงจะสามารถกระเจิงได้ง่ายกว่าสีแดงเป็นอย่างมาก การกระเจิงของแสงสีฟ้านี้เอง ที่ทำให้เราเห็นท้องฟ้าในเวลากลางวันเป็นสีฟ้า


แต่ในเวลาเช้าหรือเย็นนั้น แสงอาทิตย์ต้องเดินทางเฉียดผิวโลกมากขึ้น ทำให้ต้องผ่านชั้นบรรยากาศที่หนาขึ้น จึงมีการกระเจิงเพิ่มขึ้น เมื่อแสงความยาวคลื่นสั้นอื่นๆ ถูกกระเจิงไปหมดแล้ว เราจึงสังเกตเห็นแสงสีแดงที่กระเจิงได้น้อยกว่า ในปริมาณที่มากกว่าแสงความยาวคลื่นอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงสังเกตเห็นท้องฟ้าในยามเช้าหรือเย็นเป็นสีส้มแดง เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Atmospheric Extinction หรือ Reddening


เนื่องจาก การกระเจิงของแสงนั้น ขึ้นอยู่กับฝุ่นในชั้นบรรยากาศของโลก ในบางครั้งที่มีฝุ่นเยอะเป็นพิเศษ เช่นในบริเวณที่มีเถ้าภูเขาไฟหรือไฟป่าลอยมา เราอาจจะพบว่า แสงสนธยามีความแดงเป็นพิเศษ ความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะมีฝุ่นมากหรือไม่ แต่แสงอาทิตย์สนธยานั้นก็แดงอยู่ทุกวัน แต่เราอาจจะไม่เห็นเมฆเป็นสีแดงทุกวัน เพราะว่า ถ้าหากวันไหนฟ้าใสไม่มีเมฆเลย เราก็จะไม่สามารถเห็นแสงสีแดงของอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปแล้วสะท้อนอยู่บนฟ้า


ในทางตรงกันข้าม ถ้าวันไหนเต็มไปด้วยเมฆทั้งหมด ก็อาจจะบดบังดวงอาทิตย์ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแสงอาทิตย์ได้เช่นกัน ดังนั้นการที่จะเห็นเมฆสีแดงตอนอาทิตย์ตกได้ เราจำเป็นต้องมีเมฆอยู่เบื้องบน แต่ไม่มีเมฆระหว่างทางที่จะมาบดบังแสงอาทิตย์

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ