อุทยานฯ หาดเจ้าไหม จัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว เดือนเดียวพุ่งเกือบ 2 ล้าน

นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม คนใหม่ และเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ได้ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยการท่องเที่ยวทะเลตรัง เนื่องจากขณะนี้ทะเลอันดามันเป็นช่วงไฮซีซัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งเกาะกระดาน และถ้ำมรกต ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของทะเลตรัง รวมทั้งยังเดินทางไปสังเกตุการณ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเที่ยวชมเขตอุทยานฯ ด้วย เนื่องจากมีชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งที่ลงเรือจากท่าเรือปากเมง จ.ตรัง และเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลเชื่อมโยงเข้ามาจากจังหวัดใกล้เคียงฝั่งอันดามัน เช่น กระบี่ สตูล ภูเก็ต ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หน่วยเกาะกระดาน ต้องจัดกำลังมาคอยดูแลความปลอดภัย และจัดเก็บค่าธรรมเนียมบริเวณหน้าถ้ำมรกต เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางส่วน จะไม่ไปเที่ยวเกาะกระดาน จุดซึ่งมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบนฝั่ง แต่จะโฉบมาเที่ยวถ้ำมรกต แล้วเดินทางกลับไปเลย ซึ่งเป็นไปตามการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวของผู้ประกอบการจังหวัดใกล้เคียง

นายแสงสุรี กล่าวว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเที่ยวชมเขตอุทยานฯ หาดเจ้าไหม ยังคงเป็นแบบตั๋วฉีก ซึ่งมี 2 จุด คือ ที่ท่าเรือปากเมง และที่เกาะกระดาน แต่ในปีนี้ มีการปรับแผนการจัดเก็บ โดยเฉพาะบริเวณหน้าถ้ำมรกต ที่เรือนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก โดยจะพานักท่องเที่ยวมาเข้าถ้ำ แต่ไม่ได้แวะเกาะกระดาน จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยเกาะกระดาน มาดูแลความปลอดภัย และลอยลำจัดเก็บค่าธรรมเนียมในจุดนี้ด้วย โดยมีการจัดชุดสายตรวจส่วนกลาง มาร่วมสนับสนุน สับเปลี่ยนกำลังดูแลนักท่องเที่ยว และช่วยจัดเก็บค่าธรรมเนียมด้วย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เหนื่อยล้าเกินไป เพราะต้องลอยลำเรืออยู่ตลอดเวลา แต่ในอนาคตจะมีการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บต่อไป ส่วนการจัดเก็บแบบค่าธรรมเนียม E-tickit ขณะนี้ทางกรมอุทยานฯ กำลังวางแนวทางนำมาใช้ในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนมาตรการ โดยให้เจ้าหน้าที่ 2 ชุด เข้ามาจัดเก็บค่าธรรมเนียม ทำให้รายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือดีด้วย


อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจสอบรายได้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเที่ยวชมเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เฉพาะในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 5 วัน นับจากวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 2 มกราคม 2567 พบว่า มีรายได้ทั้งหมด 461,445 บาท และเฉพาะเดือนธันวาคม เดือนเดียว รายได้พุ่งถึง 1,734,010 บาท หรือเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่สูงลิบและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากเพิ่งมีการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานฯ คนเก่า และย้ายคนใหม่มาทำงานแทน เพราะได้มีการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่รัดกุมมากขึ้น ทั้งบนบกและในทะเล โดยช่วงก่อนเดือนธันวาคม 2566 พบว่า รายได้การจัดเก็บค่าธรรมเนียม บางวันได้แค่หลักพัน หรือสูงสุดรายเดือน ประมาณ 30,000 บาทเท่านั้น แม้แต่ในช่วงที่เกาะกระดาน มีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีด หลังติดอันดับ 1 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2566 ของเว็บไซต์ World beach guide ซึ่งถูกประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 จนมีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มุ่งหน้าสู่เกาะกระดานวันละหลายพันคนก็ตาม แต่กลับมีรายได้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมน้อยกว่าช่วงนี้เยอะ