ข่าวโซเชียล

ความพยายามสุดท้าย หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 53 ตามหาแม่ชาวอีสานที่ไม่เคยพบหน้า

โดย nicharee_m

3 ม.ค. 2567

443 views

แม่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวหน้าอู่ตะเภา พ่อเป็นทหารอเมริกันในสงครามเวียดนาม หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 53 วอนสื่อไทยช่วยเหลือตามหาแม่แท้ๆ ชาวอีสาน ที่ไม่เคยพบหน้า

เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2567 สื่ออีสาน The Isaan Record เผยแพร่บทความของ เจนนี่ หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 53 ปี ที่ติดต่อขอความช่วยเหลือตามหาแม่แท้ๆ ชาวไทย ที่ไม่เคยพบหน้าและไม่รู้จักชื่อ โดยเธอเล่าว่า

ช่วงที่สงครามเวียดนามมีความเข้มข้นตึงเครียดที่สุด มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในประเทศไทยราว 50,000 คน บางคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงไทยที่อาศัยอยู่รอบฐานทัพ พลทหารอเมริกันเหล่านี้จำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ต่อในประเทศไทยหลังสงครามจบลง ขณะที่ส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศ และหลายคนไม่รู้ตัวเลยว่า หลายครั้งไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องเป็นพ่อและทิ้งลูกกำพร้าพ่อไว้ข้างหลัง

ในช่วงกลางทศวรรษที่ 2510 พลทหารชัค (พ่อแท้ๆ ของเจนนี่) ประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศสนามบินอู่ตะเภาในประเทศไทย ได้รับแจ้งว่า ต้องเดินทางกลับบ้านในทันที ก่อนที่จะครบกำหนดปลดประจำการ

เหตุผลก็คือน้องชายของเขาจะมาประจำการแทนตำแหน่งของเขา นโยบายของกองทัพในขณะนั้นกำหนดว่า ชัคจะต้องเดินทางกลับมาก่อนที่น้องชายของเขาจะถูกส่งตัวออกมาได้ เขาไม่มีทางเลือก ชัคไม่รู้เลยว่าในอีก 7 เดือนให้หลัง ลูกสาวของเขาจะลืมตาดูโลก

หลังจากคลอด แม่ของเจนนี่ยกลูกให้ครอบครัวอุปการะ ทำให้เจนนี่ไปอยู่กับแม่อุปถัมภ์คนไทยเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะได้รับอุปการะโดยครอบครัวชาวสวิสที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

ปัจจุบัน เจนนี่ อายุ 53 ปี ไม่รู้จักพ่อแม่ที่แท้จริง และคอยแต่สงสัยเรื่องนี้อยู่เรื่อยมา เธออาศัยอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองถูกรับมาเลี้ยง เจนนี่ก็เฝ้าตามหาแม่ที่แท้จริง แต่เธอเพิ่งได้ข้อมูลที่พอจะเป็นประโยชน์เมื่อไม่นานมานี้

แต่อุปสรรค คือ เอกสารการรับอุปการะไม่ถูกเขียนอย่างครบถ้วน ใบเกิดของเจนนี่บันทึกเพียงชื่อของแม่อุปถัมภ์ชาวไทย ก่อนที่จะได้รับอุปการะ แทนที่จะเป็นแม่ที่คลอดเธอมา เท่าที่เจนนี่รู้ แม่อุปถัมภ์น่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่รู้จักชื่อแม่แท้ๆ ของเธอ และแม่อุปถัมภ์ของเธอก็เสียชีวิตไปแล้ว

เจนนี่กลับเมืองไทยเมื่อปีที่แล้วและเดินทางไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่แม่เคยทำงานอยู่ แต่ร้านถูกปิดไปแล้ว คนที่อาจรู้เรื่องร้านนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือล้มหายตายจากไป แม้แต่คนที่อาจรู้เกี่ยวกับคนพวกนั้นก็ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว

เจนนี่ ยังไม่ละความพยายาม เธอได้ตรวจดีเอ็นเอ และเข้าไปตรวจกับเว็บไซต์ Ancestry.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของอเมริกาที่ศึกษาการลำดับวงศาคนาญาติ ก็ยังหาแม่ไม่เจอ แต่ต้องประหลาดใจที่มันทำให้เธอพบพ่อของเธอ เขายังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ที่อเมริกา เจนนี่รู้ชื่อและที่อยู่ของพ่อ และเขียนจดหมายไปหาเขาเพื่อบอกว่า เธอมีตัวตน

แต่เรื่องกลับตาลปัตร พ่อของเธอถึงกับช็อก เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีลูกสาว ชัคบอกว่า แม่ของเจนนี่เป็นสาวสวยที่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวให้เขาที่ร้านที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามประตูใหญ่ของฐานทัพ (อู่ตะเภา ระยอง-พัทยา) เขาไม่รู้เลยว่าเธอคลอดลูก เจนนี่ยิ่งผิดหวังเมื่อได้รู้ว่า “เขาไม่เคยถามชื่อของแม่เลย” และไม่รู้เลยว่าแม่เป็นใครมาจากไหน

ในความพยายามเฮือกสุดท้าย เจนนี่ ได้ติดต่อไปยัง The Isaan Record เธอคิดว่าแม่ของเธออาจจะมาจากอุบลราชธานี ถ้าได้เจอกัน เจนนี่อยากบอกกับแม่ว่า

“ฉันคงจะบอกแม่ว่า ฉันไม่เป็นไร ฉันจะเล่าให้แม่ฟังว่า เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันมีชีวิตที่ดี และทุกอย่างก็เป็นไปได้สวย ฉันไม่ได้โกรธแม่และจำทำเพียงแค่ – มันยากที่จะบอกสิ่งที่จะบอกจริงๆ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นอารมณ์ของเราจะเป็นแบบไหน”


ภาพของเจนนี่ หลังได้รับอุปการะในขณะเป็นทารก

ขอบคุณ : The Isaan Record


แท็กที่เกี่ยวข้อง  The Isaan Record ,ลูกครึ่งตามหาแม่

คุณอาจสนใจ