ครอบครัวมือกราดยิงพารากอนวัย 14 ยอมให้รักษาตัวต่อ รองอธิบดีกรมพินิจฯ ไม่สามารถตอบได้ต้องรักษานานเท่าไหร่

สืบเนื่องจากกรณีที่พนักงานอัยการส่งสำนวนฟ้องคดี เหตุการณ์ยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอนกลับไปยังพนักงานสอบสวน เนื่องจากกระบวนการสอบสวนเยาวชนอายุ 14 ปีผู้ก่อเหตุไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากครบระยะเวลากำหนดผัดฟ้องเมื่อวานนี้ (31 ธันวาคม 2566) ซึ่งตามกฎหมายเมื่อไม่สามารถดำเนินการฟ้องภายในระยะเวลาที่มีการผัดฟ้อง ก็ต้องปล่อยตัวชั่วคราวเยาวชนผู้ก่อเหตุ


โดยมีรายงานข่าวว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ นัดหมายหารือกับผู้ปกครองเยาวชนผู้ก่อเหตุ เพื่อร่วมวางแผนในการรักษาตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุให้หายขาด จนสามารถต่อสู้คดีหรือสอบสวนทางคดีได้


สำหรับบรรยากาศล่าสุดเช้าวันนี้ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ยังไม่พบมีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใดนอกจากสื่อมวลชนที่มาเฝ้าทำข่าว ทั้งนี้สังเกตเห็นว่า มีรถตู้คันหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีการติดสัญลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เข้าไปในพื้นที่ที่พักรักษาผู้ป่วย โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ในละแวกนั้น เปิดเผยสั้น ๆ ว่า วันนี้มีการประชุมกัน เกี่ยวข้องกับเยาวชนผู้ก่อเหตุยิงที่สยามพารากอน ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ภายในพื้นที่หวงห้าม แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้


ต่อมาประมาณ 10.50 ปรากฏว่ามีรถยนต์ที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกับครอบครัวเยาวชนผู้ก่อเหตุ เดินทางออกมาจากส่วนพักรักษาตัวของสถาบัน โดยไม่มีการลงมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด


ด้าน น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเยาวชน ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันระหว่างตัวแทนกรมพินิจและคุ้มครองเยาวชน ครอบครัวเยาวชน ประกอบไปด้วยพ่อแม่ของเด็ก และแพทย์ของสถาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


โดยทางครอบครัวยินยอมให้เยาวชนผู้ก่อเหตุอยู่ภายใต้การรักษาตัวของสถาบันต่อไป ซึ่งคาดว่าทางครอบครัวจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล โดยบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทางครอบครัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


ส่วนจะรักษาตัวนานเท่าใดและมีแผนการรักษาอย่างไร ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นดุลพินิจของแพทย์ แต่ตอนนี้กรมพินิจฯ ได้หมดอำนาจการควบคุมตัวแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของทางแพทย์กับครอบครัว ส่วนเรื่องคดี แพทย์จะเป็นผู้ทำการวินิจฉัยการประเมินสุขภาพต่าง ๆ และนำส่งให้กับทางพนักงานสอบสวนต่อไป