เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ไม่แฮปปี้ ปมค่าแรงขึ้นน้อย ถามกลับ คกก.ไตรภาคี ขอให้นึกถึงใจเขาใจเรา ไม่ใช่เอาแต่เรื่องกฎหมาย

โดย thichaphat_d

28 ธ.ค. 2566

101 views

วานนี้ (27 ธ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ยังไม่จบ ต้องพิจารณาตอบสายงานอีกว่า แน่นอนผมไม่มีความสุข ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้มีความสุขและอึดอัดเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มันก็มีกลไกในการกำหนดค่าแรงอยู่ อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกความเหมาะสม ของแต่ละประเทศ อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) ก็ได้เจอกับ นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ซึ่งบอกกับตนเองว่าถ้าเกิดไม่สามารถโยกค่าแรงขั้นต่ำ ความเจริญเติบโตของประเทศก็จะต่ำไปด้วยซึ่งเมื่อคืนได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่าค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา 300 บาท วันนี้ 337 บาท ขึ้นไป 12% ซึ่งได้เปรียบเทียบ ว่าในทางกลับกัน หากลูกของผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย หรือคนที่เรียนจบเมืองนอกเมื่อ 9 ปีที่แล้วเงินเดือน 30,000 บาท มาถึงวันนี้เงินเดือนขึ้นเพียง 33,700 บาท จึงถามกลับว่าขึ้นมาแค่กว่า 10% แฮปปี้ไหม อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา เรื่องของไตรภาคีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของกฎหมายและข้อบังคับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลายหลายเรื่องคนไทยอยู่ด้วยกัน ด้วยความอยากให้ทุกคนมีความสุข และมีกินมีใช้ตามความเหมาะสม

อย่างในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นไปเพียงแค่ 2 บาทต่อเดือนเอง ซึ่งทุกคนจะพูดยังไงว่าตนหรือนายกไม่มีอำนาจ แต่การขึ้นค่าแรงมันเป็นเรื่องของไตรภาคีหรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนตัวเข้าใจหมดทุกอย่าง แล้วก็รู้ว่าทุกคนเข้าใจเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมันไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย จึงอยากให้เอาความเข้าใจซึ่งกันและกันมาพูดคุยกันได้ไหม ในภาวะที่เดือดร้อน

สำหรับเงื่อนไขในเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนายกฯ จะมีการหารือกันแบบผู้ใหญ่คุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายกกล่าวว่า ก็จะต้องพยายามต่อไป ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็ต้องพูดจาให้มันมีความชัดเจนและต้องขอร้องอ้อนวอน วิงวอน ถึงเหตุผล แล้วอย่าเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด เช่นประเด็นการย้ายฐานการผลิตมาพูด เพราะมันไม่ใช่

เมื่อถามว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละปีสามารถขึ้นได้หลายหลายรอบใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถปรับได้หลายรอบตามความเหมาะสม จากที่ผ่านมาเราเคยพูดหลายจังหวัดรายอำเภอซึ่งบางอำเภอนั้น ก็อาจจะมีความต้องการแรงงานที่แตกต่างกันออกไป เราเองก็ต้องฟังจากฝั่งนายจ้างเช่นเดียวกัน ไม่ใช่จะไม่ฟัง และต้องฟังตามอาชีพตามความต้องการตามความชำนาญด้วย ซึ่งมีหลายมิติที่จะต้องพูดคุยกัน ส่วนตัวไม่ได้อยากใช้พื้นที่ของสื่อมวลชนมากดดันทุกๆฝ่าย

“ผมคิดว่าเราควรที่จะพูดจากันด้วยจิตใจอุปมาปราศรัย เราก็เห็นใจซึ่งกันและกัน ”

เมื่อถึงความคาดหวังกับเศรษฐกิจในปีหน้านายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็หวังว่าจะดีขึ้น ผมมาทำงาน ผมมาอยู่ตรงนี้ เพื่อต้องการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ให้ดีขึ้น ก็ต้องทำให้ดีขึ้นในหลายหลายมิติผมไม่ได้มาทำแค่ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว ยังต้องดูเรื่องการลงทุน การเจรจา สนธิสัญญาการค้า และต้องดูเรื่องสิทธิพื้นฐาน เพศสภาพ การประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพเล็กๆ เช่นเรื่องของสภาพอากาศที่สะอาด ซึ่งทุกคนล้วนต้องการ”

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังปีใหม่ยังมีกำหนดการที่จะเดินทางไปพื้นที่ภาคเหนือ ไปช่วยกำกับ ว่าเรื่องสภาพอากาศก็จะต้องดีขึ้น ซึ่งมีหลายมิติที่ต้องทำ ทั้งนี้หลังปีใหม่ ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ ที่จะต้องช่วยทำงานและช่วยดูแลพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/b8NbdqJlmPc


คุณอาจสนใจ

Related News