เลือกตั้งและการเมือง

สื่อตั้งฉายาสภาปี 66 “สภาลวงละคร” ฉายาวุฒิสภา “แตก ป. รอ Retire” - ‘พิธา’ คว้าดาวดับ

โดย paweena_c

27 ธ.ค. 2566

56 views

หลังจากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้กับรัฐบาลไปแล้ว วันนี้ (27 ธ.ค. 2566) ถึงคิวของสื่อประจำรัฐสภา ตั้งฉายาให้กับสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา


ปีนี้สภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา “สภาลวงละคร” สะท้อนถึงการชิงไหวชิงพริบเพื่อเป็นเจ้าของอำนาจ หักเหลี่ยมเฉือนคม ตั้งแต่การประธานสภาผู้แทนราษฎร จนถึงการ เลือกนายกรัฐมนตรี หักหลังฝ่ายเดียวกันเองระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล ทั้งที่ก่อนหน้านี้จับมือกอดคอกันหวานเจี๊ยบ เปรียบเสมือนโรงละครโรงใหญ่ ที่มีแต่ฉากการหลอกลวง


ขณะที่วุฒิสภา ปีนี้ได้รับฉายา “แตก ป. รอ Retire” เป็นการล้อมาจากฉายาวุฒิสภาปี 2565 ที่ ตอนนั้นได้ฉายาว่า ตรา ป. เพราะ ทำหน้าที่รักษามรดก คสช. เพื่อ ป.ประยุทธ์ กับ ป.ประวิตร แต่มาปีนี้ทั้ง 2 ป. ได้แยกทางกัน แยกพรรคกัน จึงเรียกว่า เป็นการ แตก ป. บทบาท ของ สว.ฝั่ง ป.ประยุทธ์ กับ ฝั่งของ ป.ประวิตร ก็สวนทางการในการโหวตคุณเศรษฐา ส่วน รอ Retire เพราะ สว.ชุดนี้ กำลังจะหมดอำนาจหน้าที่ในเดือน พ.ค. ปี 67 เสมือนการรอเวลาเกษียณ


ส่วนฉายา ของประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ปีนี้ ได้รับฉายา “(วัน) นอ-มินี” สะท้อนถึง การแย่งชิง ตำแหน่งนี้ของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้ข้อยุติ จนสุดท้าย พรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อคนนอกพรรค อย่าง อ.วันนอร์ จากพรรคประชาชาติ มาแทน จึงเป็นเสมือนนอมินี เพราะเคยเป็นคนของพรรคเพื่อไทยมาก่อน


ทางด้านประธานวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ปีนี้ได้รับฉายาว่า “แจ๋วหลบ จบแล้ว” เป็นการผวนคำ ที่สะท้อนถึงบทบาทของคุณพรเพชร ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่า เป็นผู้รับใช้ คสช. แต่พอมาปีนี้ เข้าสู่รัฐบาลเศรษฐา บทบาทของคุณพรเพชรก็หายไป พยายามหลบแรงปะทะ ไม่ออกสื่อ รอเวลาวุฒิสภาหมดวาระ ในเดือน พ.ค.2567


ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช ตุลาธน ปีนี้สื่อสภา เห็นควรว่า งดตั้งฉายา เนื่องจากเพิ่งได้รับตำแหน่ง


เช่นเดียวกับ ตำแหน่งดาวเด่นปีนี้ สื่อสภาเห็นว่า "ไม่มีผู้ใดเหมาะสม" และโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว (ตำแหน่ง งดมาแล้ว 2 ปี คนล่าสุดที่ได้เป็น คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเมื่อปี 2564)


ส่วนตำแหน่งดาวดับหนีไม่พ้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ฟีเวอร์อย่างมากช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จนพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง มี สส.มากที่สุด แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงดวงดาว เปรียบเหมือน สภาไม่ได้เหยียบ ทำเนียบไม่ได้เข้า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ ก็สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่อีกจากคดีหุ้นไอทีวี จากดาวที่เคยจรัสแสง ก็ดับลง


ส่วนวาทะแห่งปี 66 ได้แก่ วาทะของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพูดในสภา ตอนเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ตอนนั้นหมอชลน่านพูดถึงปัญหาจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล โดยบอกว่า “เราเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราเป็นพรรคอันดับสองยินดีร่วมมือ ด้วยสภาพบังคับของรัฐธรรมนูญแบบนี้เราไม่ร่วมมือกันไม่ได้ แต่เราก็คิดผิดเพราะว่ายิ่งเราจับมือกันยิ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้”


มาถึงเหตุการณ์แห่งปี ปีนี้สื่อยกให้ “เหตุการณ์เลือกนายกรัฐมนตรี” ที่โหวตกันมากถึง 3 ครั้ง


- ครั้งแรกคือวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ซึ่งบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ คือนายพิธา แต่คะแนนเห็นชอบไม่ถึงเกณฑ์


- ครั้งที่สองวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 แต่ปรากฎว่า มีการถกเถียงกันถึงข้อบังคับการประชุม เพราะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำ


- ครั้งที่ 3 มีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน สุดท้ายก็ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา


ส่วนคู่กัดแห่งปี ปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา งดตั้งฉายาคู่กัดแห่งปี เนื่องจากเพิ่งเปิดสมัยประชุมได้เพียงสมัยเดียว


เช่นเดียวกับคนดีศรีสภา 66 สื่อมวลชนประจำรัฐสภา มีความเห็นร่วมกันว่ายังไม่มี สส. หรือ สว.คนใด เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RNux4wTpiuw

คุณอาจสนใจ

Related News