สังคม
หม้ายสาวลูก 2 สายเปย์ ถูกหนุ่มหลอกจดทะเบียนสมรส ทิ้งหนี้ไว้ให้ 2 แสน
โดย nutda_t
26 ธ.ค. 2566
378 views
ทีมข่าวช่อง 3 เดินทางไปพบกับนางสาวพี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี หญิงสาวที่เขียนจดหมายมาถึงหนุ่ม กรรชัย เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังตกหลุมรักหนุ่มคนหนึ่งผ่านทางแอปฯติ๊กต็อก จนตกลงปลงใจจดทะเบียนสมรสกัน และเธอเป็นสาวเจ้าบุญทุ่ม ทุ่มเททั้งใจ และทุ่มเททั้งเงินทองทรัพย์สินต่างๆเพื่อดูแลฝ่ายชาย จนกลายเป็นหนี้ จู่ๆ ฝ่ายชายตีตัวออกห่าง และขาดการติดต่อ ทิ้งหนี้ไว้ให้รับผิดชอบเพียงคนเดียว
นางสาวพี บอกว่า ตอนเดือนกันยายน 2564 สมัครเล่นแอปฯติ๊กต็อกเป็นครั้งแรกและเลื่อนไปสะดุดผู้ชายรายหนึ่ง ชื่อคุณชายปอ กำลังไลฟ์อยู่ ซึ่งเป็นหนุ่มหน้าตาดี พูดจาไพเราะ โปรไฟล์หรู ดูดีไปหมดทุกอย่าง เธอจึงเข้าไปติดตามดูไลฟ์คุณชายปอ ยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจ จึงกดติดตามและส่งข้อความไปหาบอกว่า "น่ารักจัง"
หลังจากนั้นก็ทำความรู้จัก แลกไลน์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนตัดสนใจคบหาเป็นแฟนกัน ซึ่งฝ่ายชายก็ทราบว่าเธอเคยมีลูกติดมาแล้ว 2 คน แต่ฝ่ายชายบอกว่ารับได้ ต้องการสร้างอนาคตลงหลักปักฐานร่วมกัน พอคบกันได้เพียงเดือนเดียว เธอตัดสินใจดาวน์รถ Honda City มือสอง 15,000 บาท ให้คุณชายปอ ต่อมาพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 นางสาวพี ขายทองและกู้เงินมาอีกกว่า 120,000 บาท ใช้จ่ายด้วยกัน และส่วนหนึ่งให้ฝ่ายชาย อ้างว่าจะลงทุนสร้างเนื้อสร้างตัวทำกิจการเกี่ยวกับรถ
ระหว่างนั้นก็คบหากันเป็นปกติ เดือนมกราคม 2565 นางสาวพี ซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้ฝ่ายชายเป็นของขวัญปีใหม่ หลังจากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ก็มีลายสาวปริศนาชื่อ "เจ๊ไก่" ทักมาหาคุณชายปอ ว่า "เบื่อเมียหรอ" นางสาวพี ก็งง และพยายามถาม แต่ฝ่ายชาย อ้างว่าเป็นญาติทักมาคุยปกติไม่มีอะไร เธอก็เลยปล่อยผ่านไม่อยากเซ้าซี้
จากนั้นอีก 1 เดือน ฝ่ายชายชวนเธอไปจดทะเบียนสมรสเพื่อให้สบายใจ เธอจึงตกลง จดทะเบียนสมรสด้วยตอนเดือนแห่งความรัก กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากจดทะเบียนสมรส นางสาวพี ก็จับได้มาตลอดว่าฝ่ายชาย แอบคุยเล่นกับสาวๆในโซเชียลอยู่เป็นประจำ ที่หนักคือ ฝ่ายชายพาแฟนเก่ามาเช่าห้องอยู่ข้างๆติดกันกับห้องของนางสาวพี โดยอ้างว่า เป็นญาติ เป็นน้องสาว ซึ่ง นางสาวพี มารู้ภายหลังและผู้หญิงคนนั้น ยังด่าเธอด้วยว่า "โง่" ผู้ชายพาแฟนเก่ามาอยู่ข้างห้อง 2 เดือน ไม่รู้เรื่อง หลังด่าเสร็จ ผู้หญิงคนนั้นเก็บของย้ายออกทันที ซึ่งฝ่ายชายก็อ้างและแก้ตัวว่า อย่าไปสนใจ อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ แฟนเก่าก็คือแฟนเก่า ต่างคนต่างอยู่ นางสาวพี ก็ให้อภัย คิดว่าฝ่ายชายจะแก้ไขปรับปรุงตัวเองดีขึ้น
หลังจากนั้น นางสาวพี ก็พยายามขอเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอม ต่อมากันยายน 2565 นางสาวพี ลาออกจากงานได้เงินมา 120,000 บาท ก็แบ่งให้ฝ่ายชายครึ่งหนึ่ง เพราะฝ่ายชายพูดว่า พอมีเงินแล้วก็จะทิ้งกันไปแบบนี้หรอ พอ นางสาวพี แบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง ฝ่ายชายก็ทำตัวดีขึ้นมาได้พักหนึ่ง
จากนั้นข้ามมาถึงปี 2566 นางสาวพี พยายามหางานใหม่ทำ เงินที่ได้มาเริ่มหมด ความรักความสัมพันธ์กับฝ่ายชายก็เริ่มจืดจางลง กระทั่งเมษายน 2566 นางสาวพี ตัดสินใจทักเฟซบุ๊กคนชื่อ "เจ๊ไก่" ปรากฏว่าได้รู้ความจริงอีกว่า เจ๊ไก่ที่ฝ่ายชายอ้างว่า เป็นญาติ แท้จริงแล้วคือแฟนเก่าอีก 1 คน ซึ่งคุ นางสาวพี ได้คุยกับเจ๊ไก่ ยิ่งรู้วีรกรรมของฝ่ายชาย เพราะเจ๊ไก่ แฉหมดเปลือกว่า ผู้ชายคนนี้ จะอยู่กับผู้หญิงที่มีเงินคอยซัพพอร์ตให้เท่านั้น บอก นางสาวพี เลิกโง่ได้แล้ว
นางสาวพี บอกว่า หลังจากนั้น ตนเองพยายามขอเลิก แต่ฝ่ายชาย ไม่ยอมเลิก กระทั่ง กรกฎาคม 2566 ฝ่ายชายโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า "เบื่อแล้ว CITY อยากขับ Mazda" นางสาวพี เลยบอกว่า ส่งรถคันเก่าให้หมดก่อน ฝ่ายชายแสดงท่าทีไม่พอใจ จากนั้น ตุลาคม 2566 ฝ่ายชายไปออกรถใหม่ Mazda โดยที่ไม่บอกนางสาวพี และไม่รู้เอาเงินที่ไหนไปออกรถ รู้อีกทีคือฝ่ายชายเอารถ CITY มาคืน และไม่ยอมผ่อนต่อ เหลือยอดอีก 200,000 กว่าบาท และเก็บเสื้อผ้าออกจากห้องไปอยู่ร้านคาร์แคร์ ที่ทำงาน
และ นางสาวพี ได้เจอกับฝ่ายชายครั้งสุดท้าย พฤศจิกายน 2566 "คืนวันลอยกระทง" และฝ่ายชายก็หายไปเลย ขาดการติดต่อ บล็อกทุกช่องทาง ทิ้งภาระหนี้สิน ต่างๆไว้ให้ นางสาวพี รับผิดชอบเพียงคนเดียว ซึ่ง นางสาวพี บอกว่าเธอเองรู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้มาก ตอนนี้พ่อของเธอ ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ และยังต้องเลี้ยงลูกอีก 2 คน อยากให้คุณชายปอ หันหน้ากลับมาคุยกันและรับผิดชอบหนี้สิน เธอบอกไม่ขออะไรมาก ขอแค่เงิน 80,000 บาทเท่านั้น และมาหย่ากันให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
ขณะที่ทีมข่าวติดต่อหา คุณชายปอ ฝ่ายชายที่ถูกกล่าวหาว่า ทิ้งภรรยาและทิ้งหนี้ไว้ให้ฝ่ายหญิงรับผิดชอบ โดยคุณชายปอ ยอมรับว่าตลอด 2 ปีที่คบกันมา ตนเองก็รักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจัง จึงพากันไปจดทะเบียนสมรส ส่วนเรื่องเงินทอง ยอมรับว่าฝ่ายหญิงกู้หนี้ยืมสินมาจำนวนหลายบาท แต่ก็เป็นการใช้จ่ายร่วมกัน
ซึ่งเงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ ตนเองยกให้ฝ่ายหญิงดูแลทั้งหมด เรื่องรถ Honda City ฝ่ายหญิงดาวน์ให้จริง แต่ตนเองเป็นคนผ่อนมาตลอด 2 ปี ซึ่งชื่อก็เป็นชื่อฝ่ายหญิง ตอนนี้ตนเองซื้อรถคันใหม่แล้ว จึงเอา Honda City ไปคืนให้ฝ่ายหญิง แต่ก็บอกกับฝ่ายหญิงแล้วว่า ถ้าไม่เอา ตนเองก็ยินดีที่จะรับผิดชอบผ่อนต่อ แต่ขอให้โอนชื่อมาเป็นของตนเอง
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ทะเลาะกันก็มาจากเรื่องเงินทองใช้จ่ายไม่พอ ตนเองก็ต้องดูแลพ่อแม่เหมือนกัน จึงขอแยกทางออกมา ซึ่งปัญหาที่ยังคาราคาซังคือเรื่องหนี้สิน ยอด 80,000 กว่าบาท ถ้าจะเอาเงินสด คุณชายปอ บอกว่า ตนเองไม่มีให้ ขอทยอยผ่อนคืน ซึ่งที่ผ่านมาก็โอนคืนให้ทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 โอนคืนไปแล้วประมาณ 10,000 บาท และพยายามขอให้ฝ่ายหญิงมาเซ็นใบหย่า แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม
ส่วนเรื่องแฟนเก่าที่มาเช่าห้องอยู่ข้างๆ คุณชายปอ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปนานแล้ว ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย คิดเป็นแค่เพียงพี่น้อง แต่ทางฝั่งคุณพี เป็นคนคิดมากและชอบคิดไปเองเรื่องบรรดาสาวๆ คุณชายปอ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เกาะผู้หญิงกิน และทุกวันนี้ทำงานมีเงินเดือนมากกว่าฝ่ายหญิงอีก
แท็กที่เกี่ยวข้อง สาวสายเปย์