สังคม

ช่วย 9 คนไทยถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต วางแผนเผาตึกหลบหนีกลับไทย

โดย paranee_s

19 ธ.ค. 2566

1.8K views

พันเอกปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตรวงษ์ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 กองกำลังบูรพา ได้รับแจ้งจากเพจเฟซบุ๊ก ช่วยเหลือคนไทยในปอยเปต และเพจเฟซบุ๊ก “ก็แค่คนธรรมดา” โพสต์ขอความช่วยเหลือให้ช่วยคนไทยจำนวน 9 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ของชาวจีนในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วถูกกักขังทุบตีทารุณ จนทนไม่ไหวรวมตัวกันหลบหนีแหกสถานที่กักขังหนีออกมาได้ หลายคนได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้รอความช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณประตูด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว


หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่12101 ไปประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลังร่วมกันไปตรวจสอบที่บริเวณประตูด่านพรมแดน จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามด่านพรมแดนปอยเปต ประเทศกัมพูชา บนสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา พบคนไทยจำนวน9 คนเป็นชาย 8 คน หญิง 1 คน สภาพเนื้อตัวมอมแมมบางคนมีบาดแผลที่แขนและขา ยืนเกาะประตูรั้วด่านพรมแดนฝั่งไทย แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ เนื่องจากประตูด่านพรมแดนยังไม่ถึงเวลาเปิดด่านเวลา 06.00 น.


โดยพบว่าหลายคนได้รับบาดเจ็บและไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันเปิดประตูด่านพรมแดนฯแล้วช่วยเหลือนำคนไทยทั้ง 9 คน มาพักที่กองร้อยทหารพรานที่1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว


จากนั้น จนท.ได้ประสานไปยัง มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมสถานอรัญประเทศฯส่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมรถกู้ชีพมารับตัวคนไทยทั้ง 9คน ไปทำแผลเบื้องต้นที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกของมีคมฟันที่ขาจำนวน 1 คน และถูกฟันที่มือ1คน และบาดเจ็บที่มือและแขนจากการถูกลวดหนามบาดจำนวน 2 คน


นอกนั้นได้รับบาดเจ็บฟกช้ำและถลอกเล็กน้อยตามร่างกาย แพทย์โรงพยาบาลอรัญประเทศฯได้ทำแผลให้ทุกคนก่อน จนท.จะนำคนไทยทั้ง9 คนกลับมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201ฯอีกครั้ง โดยมีนายจักรพงษ์ พันธ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศฯ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ. คลองลึกฯ พร้อมด้วย จนท.พม.สระแก้ว (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว) เดินทางมาร่วมซักถามด้วยตนเอง


ซึ่งคนไทยทั้ง 9 คนประกอบด้วย นาย ปรัชญามณี อายุ 27 ปี ชาวสระแก้ว, นายพุฒิพงษ์ อายุ 30 ปี ชาวสระแก้ว, นาย จักรกฤษณ์ อายุ 21 ปี ชาวเชียงใหม่, นายกมล อายุ 47 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์, นายทยากร อายุ 43 ปี ชาวฉะเชิงเทรา, นายชินดนัย อายุ 23 ปี ชาว กทม.,นาย ธนกิจ อายุ 23 ปี ชาว จ.แพร่, นายภูมิพัฒน์ อายุ 27 ปี ชาวปทุมธานี และ น.ส.นันท์นภัส อายุ 23 ปี ชาวมหาสารคาม


ทั้งนี้ นายภูมิพัฒน์ เผยว่า พวกตนทั้ง 9 คน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีชาวจีนเป็นเจ้าของ หลอกลวงอ้างว่าให้ไปทำงานบริษัทเทรดหุ้น ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้เงินเดือนสูง โดยบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมดและบอกว่าไม่ต้องมีพาสปอร์ตก็สามารถพาไปทำงานได้ โดยพาข้ามไปฝั่งปอยเปตฯ ทางช่องทางธรรมชาติ


แต่เมื่อเดินทางมาถึงฝั่งปอยเปตฯ ซึ่งบางคนถูกจับตัวเอาถุงคลุมหัวมาจากฝั่งไทยด้วย เมื่อถึงฝั่งปอยเปต กัมพูชากลับถูกจับมาขังและบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย โดยกักขังไม่ให้ออกไปไหนยึดโทรศัพท์และสิ่งของไปหมดให้นอนอยู่ในห้องแคบๆ ห้องละ 20 คน บริเวณชั้น 7 ของตึก 25 ชั้น เขาเรียกว่า ภูริกาสิโน ใกล้ตลาดน้ำพุ กลางเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา หากใครไม่ทำตามก็จะถูกซ้อมทุบตี และช็อตด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า


ซึ่งในกาสิโน มีคนไทยที่ถูกกักขังบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 200 คน และมีหญิงสาวชาวไทยบางคนถูกบังคับให้ค้าประเวณีด้วย ทำให้พวกตนทนไม่ไหวจึงรวมตัวกันได้ 11 คน ชักชวนกันหาทางหลบหนีเนื่องจากได้ข่าวว่าทางนายทุนชาวจีนกำลังจะขายพวกตนต่อไปอีก


จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 18 ธ.ค.66 พวกตนจึงใช้ไฟจุดเผาที่นอนในห้องเพื่อให้เกิดไฟไหม้ระหว่างชุลมุนจึงได้พังประตูและหน้าต่างหนีออกมา แต่ก็มาเจอกับพวกการ์ดและ รปภ.ของพวกมันจึงมีการต่อสู้กันทำให้บางคนถูกการ์ดบ่อนฯฟันด้วยมีด แต่สุดท้ายพวกตนหนีออกมาได้เพียง 9 คนเพื่อนอีก 2 คนถูก จับกลับไปได้


พอหนีมาถึงด่านพรมแดนอรัญ ประเทศ-ปอยเปตฯ พบว่าประตูด่านพรมแดนยังไม่เปิดทำให้พวกตนต้องปีนรั้วประตูด่านพรมแดนจากฝั่งปอยเปตฯมาขอความช่วยเหลือจาก จนท.ไทยอยู่ที่บริเวณประตูด่านพรมแดนฝั่งไทยพร้อมติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพจฯ” ช่วยเหลือคนไทยในปอยเปต” ให้แจ้ง จนท.ไทยมาช่วยเหลือ เมื่อเห็น จนท.ไทยมาช่วยพวกตนก็ดีใจสุดเหมือนได้เกิดใหม่แล้ว


ด้านนายจักรพงษ์ พันธ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว เผยว่าการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่หลบหนีมาจากฝั่งปอยเปตฯทั้ง 9 คน พวกนี้คือเหยื่อของการค้ามนุษย์ซึ่งจะต้องให้ความช่วยเหลือและเยียวยา ส่วนคนไทยที่ยังถูกกักขังอยู่ในกัมพูชา จะได้มีการประสานไปยัง จนท.กัมพูชาให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และจะได้มีการหารือกับกัมพูชาในการร่วมกันปราบปรามขบวนการเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็วด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ