สังคม

เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง 'ผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจ' แก้ปีเกิด บัตรประชาชน ยืดอายุเกษียณ

โดย panisa_p

18 ธ.ค. 2566

166 views

กลุุ่มชมรมผู้รักองค์กรรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถึงกรณีความน่าสงสัยของเอกสารใบสูติบัตร ของรองกรรมการผู้จัดการใหญ่รัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง ที่พบว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ปี พ.ศ.เกิด เพื่อหวังยืดอายุเกษียณหรือไม่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ และตั้งคำถามว่ามีเจ้าหน้าที่รู้เห็นด้วยหรือไม่



นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำใบสูติบัตรของผู้บริหารระดับสูงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมมาเปิดเผย หลังได้รับการร้องเรียนจากชมรมคนรักองค์กรของรัฐวิสาหกิจ ให้ตรวจสอบผู้บริหารหญิงคนหนึ่ง โดยพบข้อพิรุธ 3 จุด จุดแรก คือ จุดที่เชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงปี พ.ศ. เกิด จากปี 2506 เป็น 2507 ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการยืดอายุเกษียณราชการหรือไม่



จุดที่ 2 คือ วันเกิดในใบสูติบัตร ที่ระบุว่า เกิดวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม ปี พ.ศ.2507 แต่ข้อเท็จจริง วันที่ 30 ธันวาคม 2507 ตรงกับ "วันพุธ" ขณะที่วันที่ 30 ธันวาคม 2506 ตามปฏิทิน จะตรงกับ "วันจันทร์" แทน ส่วนข้อพิรุธที่ 3 ในใบสูติบัตรลงวันที่ออกเอกสารไว้ในวันที่ 31 มกราคม 2507 ซึ่งล่วงหน้าก่อนวันเกิดจริง คือวันที่ 30 ธันวาคม 2507 มากถึง 1 ปี



กลุ่มองค์กรผู้ร้องเรียน จึงขอให้มีการตรวจสอบทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ ผู้แก้ไขปีเกิดในใบสูติบัตร และบัตรประชาชน รวมถึงตัวรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพราะเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายอย่าง เช่น เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากมีอำนาจเซ็นอนุมัติโครงการ ตั้งแต่ 40 - 100 ล้านบาท



นอกจากนี้ยังตั้งข้อสงสัยว่า ช่วงที่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลปีเกิด ทางรองกรรมการผู้จัดการใหญ่คนนี้อายุ 58 ปีแล้ว แต่เหตุใดจึงเพิ่งทราบว่าแจ้งเกิดผิด โดยการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายหลังจากรัฐวิสาหกิจหน่วยงานนี้ควบรวมองค์กร และให้ยื่นเอกสารใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สำเนาบัตรประชาชน ทำให้ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงปี พ.ศ.บัตรประชาชน จึงสอบถามไปที่กระทรวงมหาดไทย และได้สูติบัตรดังกล่าวมา ที่ผ่านมา ทางกลุ่มชมรมคนรักรัฐวิสาหกิจ ได้เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังบอร์ดบริหารของหน่วยงานต้นสังกัดแล้วเมื่อปี 2565 แต่ก็ไม่เป็นผล จึงต้องนำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย



นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ระบุเบื้องต้นว่า กรณีนี้เกิดขึ้นที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เป็นเทศบาลตำบลไม่ใช่อำเภอ ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นสามารถทำเรื่องการแจ้งเกิด แจ้งตาย และย้ายที่อยู่ ได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการอยู่



เบื้องต้น มีข้อมูลจากกรมการปกครอง เพิ่มเติม ว่าบุคคลดังกล่าว ได้มอบอํานาจให้พี่สาว ไปแก้ไขปีเกิดจากปี 2506 เป็นปี 2507 ที่สำนักงานทะเบียนเทศบาลตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับคำร้องแก้ไขตามสูติบัตร



ส่วนการตรวจสอบมีมาตั้งแต่ปี 2565 โดยสูติบัตรเลขที่ดังกล่าวนิ้ ระบุว่า เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 2507 แต่มีการแจ้งเกิดวันที่ 31 มกราคม 2507 ซึ่งเป็นการแจ้งเกิดก่อนวันที่เกิดจริง ขณะที่เมื่อเทียบวันเดือนปีทางจันทรคติแล้วไม่ตรงกับวันที่ 30 ธันวาคม 2507 นั้นเป็นไปได้ว่า นายทะเบียนรับแจ้งลงปี พ.ศ. ผิดพลาด ซึ่งที่ถูกต้องเป็น ปี พ.ศ. 2506 ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน



ปัจจุบัน สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบางกระทึกได้แก้ไขปีเกิดจาก พ.ศ. 2507 เป็น พ.ศ.2506 พร้อมทั้งแจ้งสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนและพ้นระยะอุทธรณ์แล้ว โดย เจ้าตัว ไม่ได้อุทธรณ์คำสั่ง ซึ่งตอนนี้ทางสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบางกระทึก กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ