เตือนภัยเพจขายแบรนด์หรู สุดท้ายได้ของเก๊ ซ้ำเปิดช่องมิจฉาชีพ เก็บข้อมูลผู้ซื้อใช้ต่อ

ข่าว 3 มิติ มีเรื่องเตือนภัยใกล้ตัวจากการซื้อขายของออนไลน์ที่ทีมข่าวของเราสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น ในการโฆษณาชวนเชื่อ จึงได้ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ล่อซื้อเพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้า ก่อนมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ซึ่งจนถึงตอนนี้โฆษณาดังกล่าวยังปรากฏบนช่องทางต่าง ๆ และเปลี่ยนรูปแบบสินค้าไปเรื่อย ๆ



สินค้าที่ทีมข่าวได้รับ แม้ภายนอกตั้งแต่กล่องจะเหมือนกันทุกอย่าง แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้ว หากไม่มีสินค้าจริงจากร้านถูกลิขสิทธิ์มาเปรียบเทียบก็คงแยกออกได้ยาก เพราะหูฟังระหว่างร้านค้าลิขสิทธิ์กับที่สั่งออนไลน์ในครั้งนี้ ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่พื้นผิว และ วัสดุ ของสินค้า ตัวโลโก้ รวมไปถึงวิธีการเชื่อมต่อใช้งาน ไปจนกระทั่งการออกแบบตัวหูฟัง บริเวณจุดชาร์จ



พล.ต.ต. นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ระบุว่า นี่เป็นวิธีการหลอกขายสินค้าออนไลน์รูปแบบหนึ่งประเภทสินค้าลอกเลียนแบบ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และ เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยี



อย่างกรณีนี้ มีการใช้โฆษณาผ่านเฟซบุ๊กที่อ้างตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการสั่งซื้อ โดยอ้างส่วนลดมากถึง 70%



หากกดเข้าไปที่หน้าเว็บ ก็จะมีตัวเวลานับถอยหลังการได้สิทธิ์ลดราคา หากเหยื่อหลงเชื่อ กรอกข้อมูลไป วันรุ่งขึ้น ก็จะมีโทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อยืนยันการจัดส่ง และจะต้องชำระเป็นเงินสดเท่านั้น



กระทั่งวันนี้ ที่นับจากวันที่ทีมข่าวพบหน้าเพจดังกล่าว ก็ยังคงนับถอยหลังตามเดิม แม้จะเลยวันที่กำหนดมาแล้วหลายสัปดาห์ ซึ่งหากเหยื่อหลงเชื่อและกรอกข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ และ เบอร์โทรไป ก็อาจเป็นข้อมูลให้มิจฉาชีพนำไปใช้ต่อได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก่อนซื้อคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเพจหรือร้านค้าให้ละเอียดโดยเฉพาะการสั่งสินค้าออนไลน์ เพราะตามข้อเท็จจริงแล้วสินค้าลิขสิทธิ์มักไม่ลดราคามากขนาดนี้



สถิติการแจ้งความออนไลน์ช่วงปีที่ผ่านมา ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤศจิกายน มีคดีออนไลน์มากถึง 375,986 เรื่องจาก 405,194 เรื่อง และ เกือบครึ่งเป็นคดีที่เชื่อมโยงกัน สูงที่สุดยังคงเป็นคดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 152,993 คดี คิดเป็นร้อยละ 40



โดยหากเทียบในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีคดีประเภทนี้เกิดขึ้นมากเกินกว่าครึ่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 13,260 ล้านบาท จากเดิมที่ 4,408 ล้านบาท



และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อเนื่อง ประชาชนจึงควรระวังมิจฉาชีพออนไลน์ทุกประเภท อย่างเช่นกรณีนี้ ที่ยังปรากฏสินค้าอื่น ๆ ที่หลอกขายออนไลน์ในรูปแบบเดียวกันอีกหลายประเภท