สังคม

โค้ช-อดีตนายทหาร รับสารภาพ อนาจารเด็กชาย ด้านญาติยังช็อก ทำทีมฟุตบอลมาเกือบ 30 ปี ไม่เคยมีมลทิน

โดย thichaphat_d

17 ธ.ค. 2566

325 views

กรณีข้าราชการที่ จ.อุดรธานี ผันตัวเป็นโค้ชเปิดสโมสรฟุตบอล อคาเดมี่ รับสมัครเด็กๆ ฝึกฟุตบอล แต่เกิดเรื่องฉาวขึ้นเมื่อโค้ชและผู้สนับสนุนฯ ทำอนาจารข่มขืนเด็กหลายคน จนผู้ปกครองร้องมูลนิธิปวีณา และตำรวจ ปคม.เข้าช่วย

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (16 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นำตัวนาย สมภรณ์ โพธิวันพัง อายุ 43 ปี ข้าราชการเกษตรอำเภอ ในจังหวัดอุดรธานี และเป็นโค้ชทีมฟุตบอลเด็ก และพันตรี เกียรติศาสตร์ สัจจาอัครมนตรี อายุ 64 ปี อดีตนายทหารเกษียณราชการ เป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังผัดแรกโดยกล่าวหาว่า

-ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี

-กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

-ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร

-ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ

-ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย

-ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร

-ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก กรณีผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกันกระทำชำเราเด็กชายอายุ 10 ปี 4 คน ในทีมฟุตบอล

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวจากศาล  แต่ปรากฎว่าไม่มีใครมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

----------------------------------------------

ญาติประสานเสียงโค้ชเป็นคนดี 30 ปี วอนขอความเป็นธรรมบ้าง ขณะที่เด็กในสังกัด ผวาหนักเตรียมย้ายทีมหนี

นางสุภาพ อายุ 73 ปี แม่โค้ช เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายจะทำแบบนี้ แต่สำหรับผู้พันเวลามาพักที่บ้านลูกชาย จะเห็นเรียกเด็กๆ เข้าไปนอนในห้องด้วย เพราะมีเด็กมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ 3 คน ส่วนจะทำอนาจารหรือไม่ตนก็ไม่รู้ ย้อนไป 30 ปีที่ลูกชายทำทีมฟุตบอล ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีแบบนี้เลย เพราะตนเองก็อยู่บ้านหลังเดียวกันกับลูกชาย ตอนนี้สงสารลูกชาย อยากจะขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย อยากให้ตร.ทำเรื่องนี้พิสูจน์อย่างกระจ่าง หากเขาทำผิดก็ดำเนินตามกฎหมาย แต่หากลูกชายไม่ผิดก็ขอความเป็นธรรมด้วย

นางทองคำ น้าสาว บอกว่า หลังจากดูข่าว และเห็นตำรวจมาจับกุมหลานชาย เศร้าใจและช็อกมาก เห็นแล้วรู้สึกสงสารหลานชาย กว่า 30 ปีที่เขาทำทีมฟุตบอลไม่เคยมีเรื่องมาก่อน และเชื่อว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่งของครอบครัว ครอบครัวอาศัยจากหลานคนนี้ เพราะเขารับราชการคนเดียว เขาช่วยเหลือพี่น้องทุกคนและช่วยเยาวชนที่ติดยาเสพติดมาเล่นฟุตบอล นิสัยส่วนตัวเหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ เรียนก็ได้เกรดเฉลี่ยดีมาก ญาติพี่น้องชื่นชม

ส่วนที่เขารู้จักกับผู้พัน เขารู้จักกันกันทางไลน์และเฟซบุ๊ก มาได้ 3 ปีแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานแบบนี้ ยืนยันหลานเป็นคนดีคนหนึ่ง เราอยู่ด้วยกันตลอด อยากให้ความเป็นธรรมกับหลานชายคนนี้ด้วย น้าเคยบอกและเตือนหลานว่า หล่าเอ๊ยอย่าทำดีกับคนอื่นดีหลาย หากวันใดโชคไม่เข้าข้างเรา หลานก็บอกว่า คงไม่เป็นไรหรอก เราคนดีผลกรรมดีก็จะตอบสนองเราหรอก

นางทองคำ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาผู้พันจะมาบ้านหลานตลอด หากมีการแข่งขันฟุตบอล ยืนยันตั้งแต่หลานชายทำทีมฟุตบอลมาเกือบ 30 ปี ไม่เคยมีมลทินมาก่อนเลย ชาวบ้านก็ยกย่องเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่มาคบกับผู้พันคนนี้มีเรื่องขึ้นมาเลย แต่ไม่ได้ปรักปรำใคร ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้  

นางหนูแดง อายุ 54 ปี พี่สาวโค้ช บอกว่า เรื่องนี้ตนสงสารน้องชาย เพราะจากที่รู้จักกับเขา เขาตั้งทีมฟุตบอลเพื่อดึงเอาเด็กๆ มาทำทีม 30 ปี ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีเลย ก็แปลกใจอยู่ตั้งแต่มารู้จักผู้พันคนนี้ ส่วนที่เขาเป็นคนโสดไม่แต่งงาน เขาก็บอกว่าเคยมีสาวๆ มาติด แต่เห็นสภาพครอบครัวของพี่สาวหลายคนเขาก็เลยไม่อยากมีภรรยา ส่วนเรื่องที่น้องจะทำแบบนี้ ขอให้พูดความในใจว่า เรื่องเอาเด็กมาทำทีมฟุตบอลผู้ปกครองมารับมาส่งตลอด ไม่คลาดสายตา แต่ก็ผิดสังเกตและตนก็ไม่ได้ใส่ร้ายใคร หลังจากผู้พันรู้จักน้องชายก็มีปัญหา ไม่เฉพาะผู้พันสนับสนุน ก็มีอบต.ในท้องที่สนับสนุนเช่นกัน

หลังเกิดเรื่อง ตนเองนอนไม่หลับเลย สงสารน้องชายมาก ส่วนเรื่องส่วนตัวของน้องชายไม่รู้จริงๆ จะจริงหรือไม่จริง ส่วนที่มีข่าวว่าน้องชายไปเอาเด็กจากผู้ปกครอง ไม่ใช่เลย มีญาติของผู้ปกครองมาส่งลูกถึงบ้านเลย น้องชายทำทีมมา 30 ปีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ หรือจะเป็นคราวเคราะห์ของน้องชาย ไม่เคยคิดว่าน้องชายจะมาเสียเพราะเรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมาน้องชายเป็นคนดีมาตลอด ช่วยเหลือคนมาตลอด เห็นเด็กๆ ติดยา น้องก็มารับเลี้ยงและฝึกฟุตบอลหวังให้ห่างไกลยาเสพติด ส่วนเด็กๆ ที่มาอยู่กับน้องชาย ก็เห็นบ้างที่เด็กๆ เขาอาบน้ำร่วมกัน ส่วนน้องชายเขาก็จะอาบน้ำคนเดียว ตอนนี้ญาติและพี่ๆ สงสารน้องเหลือเกิน พ่อแม่สั่งสอนมาดีไม่ใช่มาให้ทำแบบนี้ จะโทษคนที่มาคบกับน้องชายก็ไม่กล้าว่า หรือว่าจะเป็นเพราะน้องชายทำจริง หากน้องชายทำจริงก็ต้องยอมรับ และอยากให้น้องชายต่อสู้และขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายด้วย

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่งใน อ.ประจักษ์ศิลปาคม โดยเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) โค้ชบอลมีกำหนดการจะแข่งขันกับทีมฟุตบอลอีกหลายทีม แต่มาถูกจับก่อน พบกับเด็กๆ ทีมฟุตบอลอีกหลายทีม เมื่อเด็กๆ ทุกคนรู้ข่าวว่าโค้ชบอล ต่างพากันตกใจและช็อคกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า เรื่องโค้ชบอลที่เป็นเกษตรอำเภอฯ คนนี้มาทำทีมฟุตบอลข่มขืนเด็กๆ ในทีมฯ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 รู้เรื่องมาตลอด เกิดขึ้นมานานแล้ว และทาง ผู้ปกครองของเด็กๆ มาร้องเรียนทางสำนักงานฯ ว่าลูกหลานถูกทำอนาจารและข่มขืน และทางญาติไม่กล้าพาไปแจ้งความกับตร.ในพื้นที่ เพราะโค้ชเป็นข้าราชการเป็นคนมีอิทธิพลและกลัวจึงฟ้อง ก่อนถูกตำรวจ ปคม.บุกจับในที่สุด



https://youtu.be/mLizqyop3Bw

คุณอาจสนใจ