ไม่รอด! บุกรวบเขยเจ้าสัวสวนส้ม ปล้นร้านทอง ตร.แกะรอยจากรองเท้าแพงจนเจอตัว

หนีไม่รอด ตำรวจบุกบ้านหรู เข้าจับหนุ่มลูกเขยเจ้าสัว สวนส้ม หลังสืบพบควงปืนบุกชิงทอง กวาดไป 4 ถาด หนัก 300 บาท หอบไปขายฝั่งพม่า เจอแกะรอยใส่รองเท้าแพง


จากกรณีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก ใส่เสื้อสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นพาหนะ มาจอดบริเวณลานจอด บิรเสณห้างค้าปลีก สาขาฝาง จ.เชียงใหม่ แล้วใช้อาวุธปืนบุกชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้าง กวาดทองรูปพรรณไป 4 ถาด น้ำหนักเส้นละ 6-15 บาท รวมประมาณ 88 เส้น น้ำหนักประมาณ 300 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที แล้วหลบหนีไป


ล่าสุดคดีนี้ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนนำหมายศาลฯ เข้าจับกุมตัวนายธัชเศรษฐ์ อายุ 42 ปี ภายในบ้านจัดสรรหรู ตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมของกลางเงินสด 1.4 ล้านบาท อาวุธปืน และรถจักรยานยนต์ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวน


พล.ต.ต.ธวัชชัย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจติดตามสืบสวนจนพบเส้นทางการหลบหนี / โดยหายไปบริเวณบ้านหรู แห่งหนึ่งใกล้สวนส้มชื่อดัง แม้คนร้ายจะใส่ชุดคลุมทั้งร่าง แต่ใส่รองเท้ายี่ห้อดังราคาแพง ต่อมาตำรวจสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือนายธัชเศรษฐ์ โดยใส่รองเท้าแบบเดียวกับคนร้าย และยังเดินทางออกนอกประเทศ หลังเกิดเหตุเดินทางไปประเทศเมียนมา นำทองคำหนัก 300 บาท ไปขายในราคา 4 ล้านบาท แต่เอาเงินสดกลับมาแค่ 1.5 ล้าน ส่วนที่เหลือจะกลับไปเอาเงินสดในเดือนหน้า จึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้น 4 จุด ในพื้นที่ อ.ฝาง 2 จุด และ อ.เมืองเชียงใหม่ 2 จุด พบรถจักรยานยนต์ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เงินสดที่ได้จากการขายทองกว่า 1.4 ล้าน จากนั้นขอหมายศาลฯ เข้าจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนจะคุมตัวส่งให้พื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดี


และวันนี้ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา(10.00 น.) พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ วงค์อุทัย ผู้กำกับการ สภ.ฝาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายธัชเศรษฐ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกหลังร้านข้าวมันไก่ ข้างประตูเข้าห้างค้าปลีก เป็นจุดที่ นายธัชเศรษฐ์ มาซ่อนตัวก่อนจะลงมือเข้าชิงทอง โดยมาหยุดตรงจุดนี้เพื่อสวมถุงมือสีดำ และสวมหมวกนิรภัย ซึ่งทางซ้ายมือจะเป็นร้านทองที่เตรียมการลงมือก่อเหตุ / ต่อมาจุดที่ 2 นายธัชเศรษฐ์ ได้เดินเข้าไปชิงทองที่ร้านทองห้างค้าปลีก


ต่อมาจุดที่ 3 บริเวณร้านขายของชำที่เป็นร้านที่ นายธัชเศรษฐ์ มาซื้อถุงมือสีดำก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัว นายธัชเศรษฐ์ ไปชี้จุดบริเวณบ้านพัก ใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่เก็บทองคำ และวางแผนหาตลาดจำหน่าย


โดยหลังทำแผนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายธัชเศรษฐ์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยแยกเป็นคดีชิงทอง และคดีอาวุธปืน เบื้องต้น นายนายธัชเศรษฐ์ สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปดูลาดเลาหลายครั้ง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ทั้งนี้ฝากขอโทษเจ้าของร้านด้วย ส่วนเงินที่ยึดได้จากการขายทอง ตนยินดีคืนให้เจ้าของร้านทั้งหมด

ข้อมูลจากการสืบสวนแกะรอยจนพบเบาะแสคนร้าย ตำรวจใช้เวลาประมาณ10 วัน สืบสวนหาคนร้ายทุกรูปแบบ ทั้งการติดตามจากกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนี ยานพาหนะ รูปพรรณคนร้าย จนพบว่าเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายหายไปที่บ้านหรูแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับสวนส้มชื่อดัง และพบว่าแม้คนร้ายใส่ชุดคลุมอำพราง แต่ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำยี่ห้อดัง (adidas pureboost triple black)


ต่อมาพบว่านายธัชเศรษฐ์ ผู้ต้องหาได้เดินทางออกนอกประเทศหลังเกิดเหตุบุกชิงทอง และดันใส่รองเท้ายี่ห้อแพง แบบที่คนร้ายใส่ ตำรวจจึงติดตามหาข้อมูล ก็พบว่าผู้ต้องหาไปประเทศเมียนมา เพื่อขายทองคำหนัก 300 บาทในมูลค่า 4 ล้านบาท และได้เอาเงินสดกลับมา จำนวน 1.5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะกลับไปเอาเงินสดในเดือนหน้า ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลออกหมายจับ บุกค้นจุดต้องสงสัยทั้ง 4 จุด ทั้งบ้านในอำเภอฝาง และบ้านจัดสรรหรูในอำเภอเมืองเชียงใหม่ กระทั่งไปพบตัวผู้ต้องหาในบ้านจัดสรรหรู ในตำบลสันผีเสื้อ ซึ่งขณะที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำนั้น ผู้ต้องหาพยายามใช้อาวุธปืนกรอกปากตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ตำรวจช่วยไว้ได้ทัน


จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำการเทรดหุ้น และบิตคอยน์ จึงอยากได้เงินทุน ไปต่อยอดในการเทรดต่อ จึงตัดสินใจก่อเหตุครั้งนี้


สำหรับผู้ต้องหานั้นเป็นลูกเขยของเจ้าของสวนส้มในพื้นที่ อ.ฝาง เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ร่ำรวย มีบ้านหรูหลายหลัง เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ คนในพื้นที่อำเภอฝาง ต่างพากันตกใจ ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะมาก่อเหตุครั้งนี้ เพราะปกติผู้ต้องหานั้นเป็นคนธรรมะธัมโม ถือศีลและปฏิบัติธรรม

https://youtu.be/xxjlZwF8W78