ยึดทรัพย์ 'เครือข่ายซูฉี' ตัวการสำคัญแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน

คดีที่คนไทยตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่สุดในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา จนถึงปัจจุบัน จะเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลางส่งรายการทรัพย์สินที่ยึดได้จากเครือข่ายนายซูฉี ชาวจีน ตัวการรายสำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยยึดทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่นำมาฟอกเงินในประเทศไทย โดยซื้ออสังหริมทรัพย์ เป็นหมู่บ้านหรู และคอนโดย่านสาธร โรงแรม และสถานบันเทิง



หมู่บ้านหรูย่านกรุงเทพกรีฑา จำนวน 17 หลัง พร้อมทรัพย์สิน เป็นรถยนต์หรูอีก 12 คัน ที่ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เข้าตรวจค้น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นการยึดทรัพย์จีนเทาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายสำคัญ กลุ่มนายซูฉี หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ที่สืบทราบจนพบแหล่งฟอกเงินของกลุ่มจีนเทา ฉ้อโกงผู้เสียหายโดยอ้างเป็นหญิงสาว หรือชายหนุ่มหน้าตาดี และเข้ามาส่งแอปพลิเคชันปลอม ชวนลงทุน



โดยเงินที่เหยื่อโอนไป จะถูกแปลงเป็นเงินดิจิทัล ซึ่งเส้นทางการเงินยังถูกฟอกไปยัง น.ส.จักรีณา หรือ กีกี้แม็กซิม เป็นผู้รับโอนเงินบัญชีและเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ได้มาจากการฟอกเงิน ทั้งบ้าน รถยนต์ ที่ซื้อเป็นเงินสด โดยทรัพย์สินที่ยึดได้ทั้งหมด ตำรวจ ปอท.ได้ส่งมอบให้กับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว ทั้งหมด 133 รายการเรียบร้อยแล้ว



ล่าสุด ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้แถลงว่าหนึ่งในทรัพย์สินจากการฉ้อโกงประชาชน ในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ ได้ยึดทรัพย์มาแล้ว จำนวน 2 คดี โดยตำรวจสอบสวนกลาง เป็นคดีของนายซูฉีและ น.ส.กีกี้ จำนวน596 ล้านบาท ส่วน ตำรวจ สอท.เป็นคดีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย หลอกให้โอนเงิน มูลค่า 60 ล้านบาท ซึ่งทางคดีอาญา ทรัพย์สินที่ตกเป็นคดีอาญา ปปง.จะให้เวลาเจ้าของทรัพย์มาชี้แจง ที่มาของทรัพย์ และหากชี้แจงไม่ได้ก็จะถูกยึด ซึ่งหากเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาชี้แจงที่มาของทรัพย์ไม่ได้ ก็จะตรวจยึดทรัพย์ทั้งหมดเพื่อประกาศพิทักษ์ทรัพย์ และที่ประชาชนต้องการทราบ คือขั้นตอนการคืนทรัพย์ ที่ได้มาจากการฟอกเงิน ปปง.ก็จะต้องรวบรวมส่งฟ้องศาลแพ่ง



โดยหลังจากศาลในคดีอาญาตัดสินในคดีฟอกเงินแล้ว ศาลแพ่งก็จะตัดสินตามความผิดของคดีอาญา เพื่อยึดทรัพย์ นำขายทอดตลาด แล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหาย เจ้าทุกข์จะต้องมายื่นเพื่อขอคุ้มครองทรัพย์ ที่ ปปง. ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งใช้ระยะเวลานานพอสมควรกว่าคดีจะสิ้นสุด