เด็กหญิงวัย 14 ร่ำไห้ อยากเจอแม่สักครั้งในชีวิต ย่าโรคภัยรุมเร้าสุดห่วง อยากให้หลานสมหวัง

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.66 นายกมล ถาน้อย รองกรรมการบริหารสภาทนายความที่ภาค5 นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่133 หมู่ที่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลังทราบว่ามีเด็กหญิงวัย14ปี อยากเจอแม่ของตนเอง เพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่แบเบาะ และไม่ทราบว่าแม่ปัจจุบันอยู่ที่ไหน


เมื่อไปถึงพบนางคำแปง อายุ 64 ปี ย่าของน้องหมวย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โดยย่าของเด็กเปิดเผยว่าเมื่อ20ปีก่อนตนเองเป็นโรคทางลำไส้ได้รับการผ่าตัดและต้องคอยล้างแผลจนถึงทุกวันนี้ เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ


นอกจากนี้ยังเป็นโรคเบาหวาน ไขมัน ความดันและเคยเส้นเลือดในสมองแตกมาแล้วแล้วยังเคยเกือบจะตายมาแล้วถึง3ครั้งแต่ที่ยังตายไม่ได้เพราะจิตเป็นห่วงหลานสาว ตนเองนำหลานมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2 เดือน เพราะพ่อและแม่เด็กเลิกรากัน ตนเองทำทุกอย่างที่คนป่วยพอจะทำได้เพื่อเลี้ยงดูหลานสาวมาตลอด ตอนนี้ตนเองเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ไม่รู้จะไปวันไหน ก่อนที่จะตายก็อยากให้หลานสมหวัง เจอแม่ของเขาสักครั้ง เพราะหลานอยากเจอแม่เขามาก


เขาเคยถามว่าพ่อ-แม่เขาก็มี ทำไมเขารู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กกำพร้า คำพูดนี้มันจุกอก และน้ำตาตกทุกครั้งที่เห็นหลานร้องไห้อยากพบแม่ แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าแม่หลานเขาอยู่ที่ไหน เท่าที่ทราบจากทะเบียนบ้านแม่ชื่อจันเพ็ญ นามสกุลเดิมคือดีไทสง แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่าเขาใช้นามสกุลอะไร


และเดิมทีเขาเป็นชาวจังหวัดสระแก้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันเขาอยู่ที่ไหน ได้แต่หวังว่าแม่ของหลานจะดูข่าวและติดต่อกลับมาหาลูกบ้าง ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานถึงเมื่อไหร่ เพราะโรคก็กำลังรุมเร้า ขนาดจะเข้าผ่าตัดก็กลัวว่าหลานจะอยู่ยังไงอยู่กับใครกังวลไปหมด อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่มีรายได้อะไร ทำได้แต่ถักพรมเช็ดเท้า และที่รองนั่งเล็ก ๆ น้อย แต่ก็ขายไม่ดี ไม่มีใครมารับซื้อ


และหากใครอยากช่วยเหลืออุดหนุนพรมเช็ดเท้าและที่รองนั่งก็มีราคาตั้งแต่ 25 บาทไปจนถึง 80 บาทขึ้นอยู่กับขนาดและลวดลาย ทั้งนี้หลานเป็นคนเรียนเก่ง แต่ตนเองไม่มีเงินส่ง จึงเสียใจมาตลอด และยังตายไม่ได้ เพราะห่วงหลาน หากมีคนใจบุญที่จะช่วยเหลือหรืออุดหนุนพรมเช็ดเท้าหรือที่รองนั่งสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร0968903872


ด้านน้องหมวย เปิดเผย ทั้งน้ำตาว่าอยากเจอแม่ แม่มาหาหน่อยได้ไหม ถ้าได้เจอก็อยากกอดแม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เขามีแม่ แต่ตนเองไม่มีโอกาสนั้นเลย ถ้าแม่มาก็อยากจะอยู่กับทั้งย่าและแม่ แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่มีโอกาสนั้น เพราะแม่คงอาจจะมีครอบครัวใหม่แล้ว ตนเองก็ต้องอยู่ดูแลย่า เพราะย่าเลี้ยงตนเองมาตั้งแต่แบเบาะ


เมื่อปิดเทอมใหญ่ปีที่แล้ว เก็บเงินได้ 3 พันบาทก็พาย่าจะไปตามหาแม่ที่จังหวัดสระแก้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่อยู่อำเภอหรือหมู่บ้านอะไร แต่ก็ยอมไปแบบไร้จุดหมาย กระทั่งเมื่อไปถึงกทม. คนที่รู้จักก็ถามว่ามีเงินเท่าไหร่จะไปตามหาแม่ ถ้ามีไม่ถึงหมื่นไม่ต้องไป เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก และให้มาทำงานพารท์ไทม์กับเขาดีกว่าไหม สุดท้ายก็ไปไม่ถึงสระแก้ว


ทั้งนี้ตนเองเป็นเด็กนักเรียนเรียนดีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7 และเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและเคยเป็นตัวแทนจังหวัดและภาคเข้าแข่งขันในระดับประเทศอนาคตอยากเป็นหมอแต่เสียดายน่าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว เพราะว่าย่าไม่มีเงินส่งเรียนส่วนพ่อเขาก็มีครอบครัวใหม่แล้วเขาต้องดูแลครอบครัวของเขาและอยากมีโอกาสเจอแม่สักครั้งในชีวิต


หลังจากที่ทุกคนได้ฟังเรื่องราวของน้องต่างพากันน้ำตาซึมไปกับน้อง โดยทนายกมลได้มอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือสองย่าหลานจำนวนหนึ่ง


ขณะที่ ดร.ทวี หอมชื่น อาจารย์ที่ฝึกสอนวอลเลย์บอลให้น้องหมวยเปิดเผยว่าน้องเป็นเด็กเรียนดี ขยัน เป็นนักกีฬาของโรงเรียนได้รับรางวัลมากมามาย แต่ทางบ้านไม่มีเงินที่จะส่งน้องเพราะที่บ้านเหลือย่าที่ป่วยคนเดียวที่ดูแลน้องอยู่ ที่ผ่านมาตนเองและทางโรงเรียนก็ช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มากอะไร โชคดีที่น้องได้ทุนการศึกษาจากบริษัท SCG มาส่วนหนึ่ง ส่วนค่ารถตู้คนขับเขาก็ไม่เก็บค่ารถให้นั่งฟรี


ส่วนตนเองก็ช่วยเหลือเด็กทุกอย่างเท่าที่ทำได้และยังนำเงินส่วนตัวมาซื้อปลาจำนวน400ตัวให้น้องเลี้ยงในสระน้ำเพื่อจะได้นำไปกินและขายเพื่อจะได้มีเงินใช้จ่ายและหากมีคนใจบุญที่จะให้ทุนการศึกษากับน้องสามารถติดต่อที่ย่าของน้องที่เบอร์โทร0968903872 หรือติดต่อมาทางโรงเรียนก็ได้จะอำนวยความสะดวกให้