ชี้ภาพพระนอนตักสีกา เป็นรูปเก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ลงโทษทางวินัยไปแล้ว วอนชาวพุทธตรวจสอบก่อนแชร์

รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ชี้แจงภาพฉาว พระสงฆ์นอนตักสีกาจับมือถือแขน เผยเป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในสำนักสงฆ์ติดชายแดน มีการลงโทษทางวินัยไปแล้ว ส่วนเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเป็นพระที่มาอยู่ใหม่ คนละคนกัน ฝากพระภิกษุสงฆ์ ตั่งมั่นในศีลในธรรม ประพฤติตัวให้เหมาะสม พร้อมวอนชาวพุทธก่อนแชร์ภาพหรือข่าวเสื่อมเสีย ควรตรวจสอบกับสำนักพุทธให้มั่นใจก่อน หวั่นญาติโยมเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ภาพพระสงฆ์นอนหนุนตักสีกา และยังจับมือจับแขนสีกาด้วย โดยฉากหลังเห็นฉัตรสีทองคล้ายกับอยู่ภายในวัด ซึ่งทางเพจโพสต์ข้อความว่า “หลวงพ่อบอก ออกเวรแล้วนอนได้”พร้อมกับติดแฮชแทค #เจ้าอาวาสวัดดังภาคเหนือ ภาพนี้ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระรูปนี้

วานนี้  (7 ธ.ค.66)  พระครูขันติพลาธร  รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และเจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น อ.เมือง จ.เชียงราย  เปิดเผยว่า ภาพที่เผยแพร่ในโซเชียลนั้น เป็นภาพเก่าตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว โดยพระในภาพ เป็นพระของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน  และในครั้งนั้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ได้ลงโทษทางวินัยกับพระรูปดังกล่าวไปแล้ว  และหลังจากนั้นมีพระรูปใหม่มาเป็นเจ้าอาวาสแทนจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเป็นคนละคนกับพระที่นอนตักสีกา  

รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ยังบอกด้วยว่า  การที่พระภิกษุอยู่ลำพังกับสีกาทั้งในที่ลับหรือในที่แจ้ง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร แม้จะเป็นแม่หรือญาติสนิท ถึงจะไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกันก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ เป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ถ้าปลงอาบัติก็หมดความผิด ถ้าเป็นคดีทางโลกก็ถือว่าเป็นความผิดลหุโทษ แต่ถ้าแตะเนื้อต้องตัวกันเหมือนในภาพ ถือเป็นอาบัติสังฆาทิเสส (อาบัติโทษรุนแรงรองจากปาราชิก) และถ้าถึงขั้นไปนอนด้วยกัน หรือเสพเมถุน จะถือเป็นความผิดร้ายแรง เป็นอาบัติปาราชิก

จึงฝากไปถึงพระภิกษุสงฆ์ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม สถานที่อโคจรก็ไม่ควรไป และสำหรับผู้ที่แชร์รูปภาพ หรือแชร์ข่าวในทางเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา ก็ควรตรวจสอบให้มั่นใจกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเสียก่อน เหมือนกรณีนี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานหลายปีมาแล้ว และมีการลงโทษทางวินัยไปแล้ว หากไม่ตรวจสอบให้ดี ญาติโยมก็อาจจะพากันเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ด้านนายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงราย  เปิดเผยว่าได้ประสาน กับศูนย์พระวินยาธิการจังหวัดเชียงราย หรือ ตำรวจพระ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าเป็นภาพเก่า และปัจจุบันพระในภาพดังกล่าว สึกไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งแถวชายแดนไทย-สปป.ลาว และป่วยเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/a-52dn2ix54