‘สรวงศ์’ ยัน ‘อุ๊งอิ๊ง’ มีความพร้อมเป็นนายกฯหญิงคนต่อไป แต่ยังไม่ใช่ปีหน้า

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการสัมมนาเพื่อไทย ว่า จากที่มีการแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม 10 กลุ่ม ได้พูดคุยถึงอนาคตของพรรคเพื่อไทยหลายคนพูดไปในแนวทางเดียวกันอยากที่จะกลับมายึดโยงใจของประชาชนเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิม และหลายคนได้สะท้อนช่องทางที่จะไปถึงประชาชน รวมถึงการลดช่องว่างที่ประชาชนจะสะท้อนปัญหามายัง สส.

ส่วนช่องห่างระหว่างประชาชนถึง สส. กับ สส. ถึงรัฐมนตรี.ไหนมีมากกว่ากัน นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้สมัคร และ สส. ของพรรคลงพื้นที่มาโดยตลอดรวมถึงได้สะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาล ผ่านการประชุม สส.พรรค ตายเรื่องได้รับการแก้ไข แต่บางเรื่องอาจติดขัดเรื่องงบประมาณปี67 เพราะยังไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร พร้อม ยืนยัน ว่า หลังจากการสัมมนา พรรคเพื่อไทยกับรัฐบาลจะแน่นกว่าเดิม แต่อย่างที่เห็นเจนเนอเรชั่นในพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างมาก ซึ่งการสัมมนาก็ทำให้ทุกคนรู้จักกันดีมากขึ้น

ส่วนที่วานนี้ (6ธ.ค.) ได้พูดถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนสุดท้ายนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากเรามีหัวหน้าพรรคเป็นผู้หญิง และมีหน้าที่ในการผลักดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นใครที่จะผลักดันในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้หญิงในตอนนี้ ซึ่งหัวหน้าพรรคเราก็พร้อมเช่นกัน

ส่วนเสียงสะท้อนที่บอกว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีรับสายโทรศัพท์ สส. นั้น นายสรวงศ์ ระบุว่า ไม่มี แต่ทุกรัฐบาลก็คงมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเยอะการที่จะติดต่อสื่อสารกันอาจจะลำบากมากขึ้นซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีหลายคนเวลาที่ สส. โทรศัพท์มาแล้วไม่ได้รับก็จะมีการโทรศัพท์กลับไป ส่วน สส.เอง ก็สามารถพูดคุยปัญหาโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีได้และเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ก็อยากให้สส. ได้ มีโอกาสสะท้อน เพื่อเป็นการลดช่องห่าง ระหว่างการทำงานของ สส. กลับรัฐบาลให้น้อยลง ทางนี้มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยโดยการนำของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค สามารถที่จะเชื่อมต่อกันได้อย่างแนบชิด

เมื่อถามว่ามีการพยากรณ์ว่าปีหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนทางการเมือง นายกหญิงคนต่อไปจะมาในปีหน้าหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น อย่างที่บอกนายเศรษฐา ทำงานเร็วมีความตั้งใจในการทำงาน อีกทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอยากมุ่งเน้นเรื่องการทำงานกับพรรค เพราะอยากให้พรรคกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิม ไม่ได้เน้นเรื่องการทำงานฝ่ายบริหาร