สังคม

'เศรษฐา' สั่งดูแลให้ดี ปมขบวนการค้ากามเด็ก - ตร.พัทยาแจงยิบ ปมผู้ต้องหาหนี - ผู้ประกอบการชี้สื่อนอกตีข่าวเกินจริง

โดย nattachat_c

4 ธ.ค. 2566

242 views

จากกรณี สื่อเยอรมนี นำเสนอสารคดีข่าว 'ขบวนการค้าประเวณีในไทย' และมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน จ่ายเงิน 1 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี และหลบหนีออกนอกประเทศไป


เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 3 ธันวาคม ที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีที่สื่อดังในเยอรมนีเผยแพร่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างว่าผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คน จ่ายสินบน 1 ล้านบาท แล้วหลบหนีไปได้แล้ว อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจะอุดรอยรั่วตรงนี้อย่างไรว่า ได้มีการพูดคุย และสั่งการ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าให้ดูแลเรื่องนี้ให้ดี


นายกฯกล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็ต้องแก้ไข เพราะเป็นหน้าที่ของเรา อย่างที่บอกนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาพวกนี้เราก็แก้ไขกันไป อย่างที่ตนลงไปที่ จ.ภูเก็ต ไปดูการซักซ้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ตรงนี้เราให้ความมั่นใจว่าเราจะทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด
------------

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ศูนย์ราชการ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร) กล่าวถึงกรณีสื่อดังในเยอรมนีตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คน จ่ายสินบน 1 ล้านบาท แล้วหลบหนีไปได้ ว่า ในฐานะที่ตนรับผิดชอบคดีขณะนั้น คดีนี้เกิดในพัทยา ได้มีการสั่งให้จับกุมและขยายผล ซึ่งเดิมเรื่องนี้เกิดจากกรมการปกครองเข้าไปจับกุมการค้าประเวณีเด็ก พบว่ามีชาวเยอรมัน 2 คน เป็นผู้ใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 2 คน ในฐานะที่ตนกำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฏหมาย ต่อมาทราบว่าศาลให้ประกันตัวไปแล้ว ซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก็ได้ขึ้นแบล๊กลิสต์ไว้แล้ว ว่าห้ามออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ แล้วศาลอนุญาต เมื่อศาลอนุญาตก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า กรณีนี้ส่วนของตำรวจขณะนี้กำลังตรวจสอบ เพราะถ้าตามระเบียบแล้วทันทีที่มีการจับกุมชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนต้องแจ้งต่อ ตม.ให้ทราบ เพราะหากประกันตัวออกมาแล้วจะต้องถูกควบคุมตัวที่ห้องขังของ ตม. ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองพัทยา มีการรายงานตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 4 ธ.ค.ก็จะทราบผล และจะแถลงข่าวในวันที่ 5 ธ.ค. ทั้งนี้ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียหาย


ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาชาวต่างชาติเดินทางออกนอกประเทศแล้วจะสามารถเรียกตัวกลับมาได้หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เรื่องนี้อัยการสั่งฟ้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบ อัยการก็คัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ให้ประกันตัว และศาลอนุญาตให้ออกนอกประเทศ เขาจึงมีสิทธิออกนอกประเทศ แต่ตามขั้นตอนแล้วต้องกลับมาขึ้นศาล ซึ่งตำรวจทราบว่าสัปดาห์หน้ามีกำหนดการขึ้นศาล แต่หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นหมายแดง (อินเตอร์โพล)


เมื่อถามว่า ถือว่าตำรวจบกพร่องหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนได้รายงานไปที่ สตม.หรือไม่ เพราะกรณีชาวต่างชาติถูกจับประกันตัวในชั้นโรงพักไม่ว่าจะประกันตัวในชั้นโรงพักหรือชั้นศาล ก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังของ ตม.ไม่สามารถออกไปเพ่นพ่านได้ แต่ถ้าพนักงานสอบสวนไม่รายงานการจับกุมไปที่ สตม. ทางศาลก็ไม่ทราบเรื่อง คดีนี้คล้ายกับผับจิ้นหลิง เมื่อไม่มีการแจ้งไปยัง สตม. ผู้ต้องหาก็ออกมาเดินเพ่นพ่านได้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ารับสินบนนั้น วันนี้ (3ธ.ค.) ได้สั่งให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย หากพบความผิดก็ต้องนำมาดำเนินคดี ยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดรายบุคคลไม่ใช่กระบวนการ เพราะเป็นเรื่องของการซื้อบริการไม่ใช่เรื่องของการค้ามนุษย์


เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถือว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจทำดีก็มีเยอะ แต่ทำไม่ดีก็มีเยอะ ดังนั้น ต้องแยกน้ำเสียออกจากน้ำดีให้ได้ ตำรวจคนไหนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ในสถานการณ์ปัจจุบันตำรวจต้องปรับพฤติกรรม วันนี้ระบบตรวจสอบมีเยอะไม่เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ผู้กระทำผิดกลับไปอยู่เยอรมนีก็ยังโพสต์ได้เลย ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ถ้าผิดก็ต้องดำเนินคดี

-------------

  วานนี้  (3 ธ.ค.66) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ชี้แจงกรณีสื่อเยอรมัน ทำสกู๊ปข่าวการค้าประเวณีเด็กในประเทศไทย โดยอ้างว่ามีผู้ต้องหาชาวเยอรมันถูกจับที่พัทยา แต่ติดสินบนเจ้าหน้าที่ 1 ล้านบาทแล้วหนีกลับประเทศได้ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก


โดยตำรวจ สภ.พัทยา ตรวจสอบข้อมูล และชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า เหตุดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.ย.65 เวลาประมาณ 23.45 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้าน Cobra Beer Bar ซ.บัวขาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


จากการตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายบริการทางเพศ ระหว่างลูกค้าที่มาใช้บริการกับพนักงานของร้าน  ซึ่งทางร้านมีส่วนรู้เห็นและได้รับส่วนแบ่งจากการซื้อขายบริการดังกล่าว จึงได้ดำเนินคดีกับ น.ส.อรทนา โยธี อายุ 42 ปี  และ นายแทคเกอร์ ฟิลลิป จอห์น อายุ 60 ปี สัญชาติอังกฤษ   ในความผิดฐาน ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ฯ ตามกฎหมาย  ต่อมา สภ.เมืองพัทยา, เจ้าหน้าที่กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (กก.คธม.บช.ทท.) และ ตม.จังหวัดชลบุรี ร่วมกันขยายผลว่า มีลูกค้าคนใดมาซื้อขายบริการทางเพศกับพนักงานของร้านหรือไม่


ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า มีนายเจน คริช (Mr.jens kirch) อายุ 55 ปี สัญชาติเยอรมัน   เคยมาซื้อบริการทางเพศกับพนักงานของร้าน  วันที่ 24 ก.ย.65 พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยาเพื่อออกหมายจับนายเจน คริช (Mr.jens kirch)  ในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี  ซึ่งศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 24 ก.ย.65 และในวันเดียวกันสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณถนนพัทยาสายสอง   ต่อมาในวันที่ 26 ก.ย.65 พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา


ระหว่างผู้ต้องหาถูกฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวและได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และได้รับอนุญาตให้เดินทางออกราชอาณาจักร ตามหนังสือของศาลจังหวัดพัทยาที่ ศย.302.012/11324 ลงวันที่ 7 พ.ย.65 ซึ่งส่งไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในวันที่ 7 พ.ย.65 และในวันเดียวกัน เวลา 20.36 น. ผู้ต้องหาได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไป ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีกำหนดเงื่อนไข ให้กลับมารายงานตัวในวันที่ 14 พ.ย.65 และมีการวางหลักประกันตัวเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดนัดรายงานตัว ผู้ต้องหาไม่มาตามกำหนดนัด และหลบหนีไป


ในส่วนของสำนวนการสอบสวนพนักงานสอบสวน  ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาเสนอไปยังอัยการจังหวัดพัทยาไว้แล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป   ในส่วนของการดำเนินการกับร้าน Cobra Beer Bar เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สั่งปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

-------------

  วานนี้  (3 ธ.ค.66)  นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากทราบกระแสข่าวสกู๊ปของสื่อต่างประเทศนั้น ตนเองและกลุุ่มผู้ประกอบการได้ประสานหาข้อมูลจนทราบว่า ชาวต่างชาติรายนี้ได้จ่ายเงินให้กับทนายความจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อไปดำเนินการขอประกันตัวออกนอกประเทศ  โดยทางทนายได้ทำหนังสือคำร้องขอประกันตัว ซึ่ งทางชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว และนำตัวผู้ต้องหาชาวเยอรมันรายนี้ ส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ทางศาลได้พิจารณาว่า ผู้ต้องหา มีที่พักเป็นหลักแหล่ง มีธุรกิจอยู่ที่เมืองไทย และมีภรรยาเป็นชาวไทย และจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเรื่องธุรกิจ ศาลจึงพิจารณา ให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ และวางเงินประกันตัว 5 แสนบาท และให้กลับมารายงานตัวในวันที่ 14 พ.ย.65 แต่แล้วชาวต่างชาติรายนี้กลับหลบหนีไปไม่มาตามนัดหมายศาล ซึ่งหากผู้รับชมคลิปวิดีสกู๊ปข่าวนี้ จะเข้าใจผิดว่า ตำรวจเป็นผู้ปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่โดยทางขั้นตอนแล้ว เป็นคำสั่งของศาล


ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ ส่งผลกระทบให้เสียหายในหลายด้าน โดยเฉพาะภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และตำรวจท้องที่เมืองพัทยา  ส่งผลให้ตำรวจที่ปฎิบัติงานหน้าที่หมดกำลังใจ  อีกทั้งภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการกลางคืนเสียหายเป็นอย่างมาก  ซึ่งตนเองมองว่า สกู๊ปข่าวดังกล่าวนำเสนอเกินความเป็นจริง ไม่เป็นธรรมสำหรับเมืองพัทยา จึงอยากให้ภาครัฐตรวจสอบคดีนี้อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเป็นตัวอย่างให้สื่อต่างประเทศ ไม่ควรนำเมืองไทยไปปู้ยี่ปู้ยำ ทำลายชื่อเสียงแบบนี้


ทั้งนี้ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการกลางคืนเมืองพัทยา ได้รณรงค์ป้องกันไม่ให้มีการค้ามนุษย์และเด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดในสถานประกอบอยู่ตลอดเรื่อยมา ล่าสุดจะจัดทำคลิปวิดีโอสั้น เกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์ และบทลงโทษที่จะเกิดขึ้นหากกระทำผิด เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ตามสื่อและช่องทางต่างๆ เพื่อปลูกฝังให้ผู้ประกอบการมีจิตสำนึก เกรงกลัวต่อกฎหมายและโทษของการค้ามนุษย์ จนไม่กล้าที่จะกระทำผิดอีกต่อไป  ในส่วนของการดำเนินการกับทางร้าน Cobra Beer Bar บาร์เบียร์ต้นเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สั่งปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.65

-------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7mVqoSyN1DY


คุณอาจสนใจ

Related News