ตำรวจเร่งคลี่คลายปมพบศพหญิงหมกไร่มันสำปะหลัง เผยยังหาข้อมูลไม่ได้ว่าคนตายเป็นใคร

กรณีพบศพหญิงไทย อายุประมาณ 30-40 ปี ไม่ทราบชื่อ ไม่มีเอกสารแสดงตัว อยู่ในร่องน้ำข้างไร่มันสำปะหลัง ริมถนนสาย 331 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สภาพศพสวมเสื่อคอกลมสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน คล้ายกางเกงบ็อกเซอร์ผู้ชาย ถูกห่อด้วยผ้าห่มสีชมพู ภายในศพยังพบผ้ายันต์สีเขียวเป็นยันต์ ไอ้ไข่ วัดสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช คล้ายกับต้องการสะกดวิญญาณไว้

ที่ศพมีบาดแผลถลอกยาวประมาณ 10 เซนติเมตร บริเวณต้นขาขวา เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน จนศพเริ่มเน่า ขึ้นอืด บริเวณต้นคอด้านหลัง มีการสักคำว่า "สายเถื่อน" แผ่นหลังข้างซ้าย สักรูปเศียรพ่อแก่คู่กับฤาษีตาไฟ ที่มือไว้เล็บยาวทั้ง 5 นิ้ว และสวมใส่แหวนเงินที่นิ้วกลางข้างขวา

ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ยังไม่ฟันธงว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียด แต่คาดว่าอาจถูกฆาตกรรมแล้วนำร่างมาทิ้งอำพราง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าอยู่ห่างจาก สภ.ห้วยใหญ่ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร ร่องน้ำที่ศพถูกทิ้ง เป็นร่องทางน้ำไหลข้างไร่มันสำปะหลัง และมีการพยายามอำพรางศพ ด้วยการนำแผ่นไม่อัดเก่า เศษกิ่งไม้ ต้นหญ้า และแผ่นพลาสติกเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง มากองสุมทับร่าง เพื่อปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้ใครมองเห็น มีเพียงข้อมือด้านขวาที่โผล่ออกมา

นายเขียว อายุ 50 ปี หัวหน้าคนงานไร่มันสำปะหลังและไร่สับปะรด ผู้พบศพคนแรกเล่าว่าช่วงบ่ายของวันที่ 2 ธันวาคม ตนเองพร้อมคนงาน 6 คน ได้มาที่ไร่เพื่อเก็บจุกย้ายหน่อสับปะรด จู่ ๆ คนงานชาวกัมพูชา ก็วิ่งหน้าตาตื่น มาบอกว่า เจอศพอยู่ในร่องทางน้ำไหล โดยมีเศษขยะ เศษไม้อัด วางทับร่างอยู่ ตอนแรกคิดว่าเป็นตุ๊กตา แต่พอไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นศพ จึงรีบโทรรายงานเถ้าแก่ และแจ้งตำรวจ จากนั้นรีบออกจากจุดเกิดเหตุทันที เพราะคนงานทุกคนต่างเสียขวัญ ไม่มีใครกล้าทำงานต่อ ส่วนรูปพรรณสันฐานของผู้ตาย ยืนยันว่าไม่เคยเห็นมาก่อน

นางสาวยุพิน แม่ค้าร้านของชำ ใกล้กับที่เกิดเหตุ เผยว่า ปกติจะปิดร้าน 2 ทุ่ม พอทราบข่าวว่าเจอศพผู้หญิงถูกนำมาทิ้งในไร่มันสำปะหลังใกล้ ๆ บ้าน ก็รู้สึกตกใจ จากลักษณะของผู้ตาย ยืนยันว่า ไม่ใช่คนในละแวกนี้ เชื่อว่า น่าจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิตมาจากที่อื่น และนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี อีกทั้งเมื่อคืนวันลอยกระทง ได้ยินเสียงสุนัขในละแวกแถวๆ บ้าน ส่งเสียงเห่านานเกือบ 20 นาที โดยไม่รู้ว่า เห่าอะไร หรือ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

ส่วนความคืบหน้าตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ยังอยู่ระหว่างการสืบหาว่า ผู้ตายเป็นใคร พร้อมทั้งหาจุดเชื่อมโยง เกี่ยวกับผ้ายันต์ที่พบในศพผู้ตาย และ รอยสักบนตัวของผู้ตาย เพื่อเร่งหาว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน โดยได้ประสานไปยังโรงพักต่าง ๆ ว่ามีการแจ้งความคนหายหรือไม่ พร้อมมีการประกาศขอความร่วมมือจากประชาชน ใครที่รู้จักผู้หญิง หรือเคยเห็น ผู้หญิงที่มีรอยสักในลักษณะดังกล่าว ให้โทรศัพท์มาแจ้งข้อมูลเบาะแส กับ สภ.ห้วยใหญ่ ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนผ้ายันต์ ไอ้ไข่วัดสิชล ที่พบบนตัวศพ ยังคงเป็นปริศนา ว่าเป็นการสะกดวิญญาณของผู้ตาย หรือเป็นเพียงของยึดเหนี่ยวจิตใจที่ผู้ตายพกติดตัวเท่านั้น