ถึงบ้านปลอดภัยแล้ว! 'น้องมิ้น' สาววัย 19 ถูกหลอกทำงานปอยเปต เรียกค่าไถ่

กรณี น.ส.พัชราพร อายุ 39 ปี ชาว ต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แจ้งความว่า น.ส.อทิตยา หรือน้องมิ้น อายุ 19 ปี ลูกสาว ถูกเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งถูกจับตัวข้ามมาที่ปอยเปต กัมพูชาแล้ว ก่อนจะขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากน้องมิ้นตั้งใจเดินทางไปทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนครู แต่เงินไม่พอ


วานนี้ (2 ธ.ค.66) เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของน้องมิ้นอีกครั้ง ภายหลังทราบจากแม่ของน้องมิ้นว่า น้องมิ้นปลอดภัยถึงบ้านแล้ว โดยมีญาติพี่น้องเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาผูกแขนเรียกขวัญน้องมิ้นกลับมาตามความเชื่อ


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น้องมิ้น เล่าว่า เริ่มแรกเลยตนเองใจว่าจะทำงานเพื่อหาเงินมาส่งตัวเองเรียน ไม่อยากให้เป็นภาระของครอบครัว เพราะบ้านก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย จึงไปโพสต์หางานในโซเชียล กระทั่งมีคนทักมา และได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับงานดังกล่าว โดยบอกรายละเอียดว่าเป็นงานออฟฟิศ แลกเหรียญ ถูกกฎหมาย ได้รับค่าตอบแทนสัญญารายสองเดือน เป็นเงินจำนวน 35,000 บาท ทำงานอยู่ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ไม่ได้ข้ามไปทำงานต่างประเทศ จึงตัดสินใจเดินทางไปตามที่พูดคุยกัน


เมื่อไปถึงที่ บขส.สระแก้ว ก็มีคนจากบริษัท พาขึ้นเรือไปกับผู้โดยสารอีกหลายคน โดยพูดเป็นภาษาไทยบอกให้ทุกคนขึ้นเรือเท่านั้น ไม่ได้อธิบายอะไร พอทุกคนขึ้นเรือไปจนหมดเรือแล่นไปได้สักพัก ก็ได้ยินเขาคุยกันเป็นภาษาเขมร ตนก็เริ่มใจไม่ดีว่าจะโดนหลอกมาทำงาน เมื่อนั่งเรือไปถึงฝั่งพบว่าเป็นอาคารคล้ายโรงแรม ด้านหน้ามีร้านเหล้า ภายในมีคาสิโน อาคารสวยงาม


ก่อนจะเข้าไปยังห้องพัก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับออฟฟิศ โดยมีบอสเป็นผู้ชายชาวจีน และมีล่ามเป็นหญิงคนไทย เมื่อไปถึงก็ถูกยึดโทรศัพท์ เหลือเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้า ไปอยู่ภายห้องพักรวมกับคนอื่น ๆ อีกเกือบ 10 คน


ช่วงที่ทำงานอยู่ในนั้นไม่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้เลย กระทั่งบอสซึ่งเป็นชายชาวจีนให้ล่ามแปลให้ฟังว่า ครอบครัวตนเองโพสต์ตามหา ทำให้ตนเองทราบว่าพ่อแม่เป็นห่วง จึงขอกลับ แต่ทางบอสไม่ยอมให้กลับ พร้อมให้ล่ามแปลภาษา ขู่ตนเองว่า "มึงอยากโดนช็อตไหม อยากโดนเหมือนแม่มึงโพสต์ไหม"


ทำให้ตอนนั้นตนเองกลัวอย่างมาก และบอกไปว่าไม่อยากโดน บอสจึงให้คุยกับแม่ว่า ให้เอาเงินมา 50,000 บาท โดยบอสเป็นคนสั่งให้พูดตาม ซึ่งขณะนั้นด้วยความกลัวก็ต้องทำตาม ก่อนจะมาเล่าให้เพื่อนในที่ทำงานฟังว่าถูกเรียกเงิน 50,000 ถึงจะได้ปล่อยตัวกลับ ซึ่งเพื่อนในที่ทำงานก็พากันช่วย โดยมีผู้คุมเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้เป็นคนช่วยเจรจากับบอสให้ เพราะเห็นโพสต์ของแม่ที่โพสต์ตามหา จนบอสยอมปล่อยตัว


โดยผู้คุมบอกกับบอสว่า ถ้าไม่อยากให้เสียธุรกิจนี้ ก็ควรปล่อยไปเพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องพัง ทำให้บอสยอมปล่อยกลับมา ซึ่งผู้คุมที่เป็นคนไทยบอกกับตนเองเพียงว่า ดีใจด้วยนะได้กลับประเทศไทยแล้ว กระทั่งตนได้แจ้งกลับมาที่ครอบครัว และแม่เดินทางมารับดังกล่าว


น้องมิ้น ยังบอกอีกว่า วินาทีที่เห็นหน้าแม่ดีใจมาก รีบกระโดดกอดแม่และขอโทษแม่ จะไม่ทำแบบนี้อีก และคงไม่คิดหางานทำอีกแล้ว เพียงเพราะแค่ตนอยากหาเงินส่งตัวเองเรียนเท่านั้น


ด้านแม่ของน้องมิ้น บอกว่า ตอนนี้ดีใจอย่างมากที่ลูกสาวปลอดภัย วินาทีที่เห็นลูกสาวดีใจอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้น้องสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์บอกว่า ลูกสาวตนเองถือว่าปล่อยตัวออกมาได้เร็วที่สุดเท่าที่มีมา

นอกจากนี้ยังมีญาติพี่น้องที่มารอรับลูกหลานที่ไปทำงานที่เดียวกันกับลูกสาวของตนเองด้วยอีกหลายคน บางคนไปทำงานเป็นเดือนก็ยังไม่ได้กลับมาก็มี ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายภาคส่วนโทรศัพท์เข้ามาขอข้อมูลไปแล้ว ซึ่งก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลืออีกครั้ง

https://youtu.be/sjTCwBk_eXQ