ชัยวัฒน์ลุยตรวจถ้ำมรกต อึ้งไร้เงาเจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้า สงสัยผู้ประกอบการจ่ายตรง

วันนี้ 30 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชและหัวหน้าอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ หน่วยพญาเสือร่วม 20 นาย ลงเรือตรวจการออกลาดตระเวน ทะเลตรังซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอสิเกาและอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อยู่ทางทะเลอันดามัน ประกอบด้วยป่าชายเลน หญ้าทะเล เกาะแก่ง มีหาดทรายขาวนวลเรียงยาวไปตามผืนแผ่นดินกว่า 20 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 144,292.35 ไร่ รวมไปถึง ถ้ำมรกต และเกาะกระดานด้วย

จากการราดตระเวนมาถึงบริเวณหน้าถ้ำมรกต ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะมุก เป็น Unseen Thailand และเป็นLandmark สำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องมาสัมผัส ซึ่งวันนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการ สำนักอุทยานแห่งชาติ และคณะถึงกับ อึ้ง เมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่มาลอยเรือ (ศูนย์บริการลอยน้ำ) เพื่อจัดเก็บค่าเข้าอุทยานฯ จากการสอบถามนักท่องเที่ยว คนขับเรือ ไกด์ ต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มีการจ่ายค่าธรรมเนียมในการพานักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยจะจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่โดยตรง ซึ่งในแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานหาดเจ้าไหมมาเก็บเป็นรอบๆ ที่บริเวณหน้าถ้ำมรกต แห่งนี้ โดยวันนี้จากการ ลาดตะเวรมา 2 รอบ คือเวลา 10.00 น. และเวลา 14.00 น. พบว่ามีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่จากเกาะลันตา อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ และจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรือแต่ละลำจะมีนักท่องเที่ยว เฉลี่ย 10-20 คน ต่อลำ และเรือขนาดใหญ่ 60-100 คน ซึ่งอัตราอัตราค่าเข้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อัตราค่าบริการชาวไทย เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน ชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท/คน ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน

อย่างวันนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จุดถ้ามรกต 500 คน คูณกับ ค่าบริการ 200 บาท เท่ากับ 100,000 บาท ซึ่งจุดจัดเก็บหน้าถ้ำมรกต เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากที่สุดแต่วันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บเลย กลับไปนั่งจัดเก็บที่บนฝั่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานนับแสนบาทต่อวัน จากการตรวจสอบชุดพญาเสือมาราดตระเวน 2 รอบ ไม่เจอเจ้าหน้าที่สักรอบเดียว เมื่อสอบถามนายท้ายเรือ ไกด์ ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ามีเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บทุกวัน แต่เมื่อเปิดดูรายงานวนระบบข้อมูลการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ หาดเจ้าไหม ปรากฏว่า จัดเก็บและนำส่งได้ต่ำมาก วันหนึ่ง 10,000 กว่าบาท มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติ เพียง1-2 คน ต่อวัน ก่อนหน้านี้ทาง สำนักอุทยานแห่งชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่แขวงตัวมากับนักท่องเที่ยวก็ได้ข้อมูลว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเฉพาะถ้ำมรกต มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่การรายงานการจัดเก็บกลับต่ำ วันนี้ ทางสำนักอุทยานแห่งชาติและชุดพญาเสือ ก็ได้มาเห็นกับตาแล้วว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่มาตั้งศูนย์บริการจัดเก็บค่าธรรมเนียมลอบน้ำจริงตามคำร้องเรียนของนักท่องเที่ยว

จากรายงานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 มาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ 10,070 บาท เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจุดที่ทำการ เป็นนักท่องเที่ยว 1 คน รถยนต์ 1 คัน นักท่องเที่ยวชาวไทย 18 คน ที่จุดเกาะกระดาน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 35 คน ชาวไทย 4 เรือเล็ก 3 ลำ ที่จุดท่าเรือปากเมง ชาวไทย 14 คน ต่างชาติ 5 คน เรือใหญ่ 1 ลำ รวมนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ 41 คน แต่วันนี้ที่มาเจอปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 400-500 คน ทั้งๆที่ยังมีมรสุม ฝนตกอย่างต่อเนื่อง และวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯหาดเจ้าไหม ได้ 17,310 บาท เท่านั้นเอง ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงที่ได้มาเจอด้วยตนเอง นายชัยวัฒน์ ฯ กล่าว จากนี้ไปก็ต้องให้ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมชี้แจงถึงการละเลยการปฏิบัติหน้าที่และรายงานกระบวนการวิธีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ หาดเจ้าไหมต่อสำนักอุทยานแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ ทางกรมอุทยานแห่งชาติ ได้พัฒนาระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ในการจองบัตรค่าบริการฯ ล่วงหน้า และเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต/เดบิต หรือชำระเงินผ่าน Thai QR Payment เป็นการลดภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องจัดเก็บ เก็บรักษาเงิน ลดความเสี่ยงในการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมแบบเดิม