"ธรรมนัส" มอบหมายที่ปรึกษาฯ แจ้งความเพจดัง โพสต์พาดพิงกรมปศุสัตว์-กรมประมง ปมหมูเถื่อน สร้างความเสียหาย

เมื่อเวลา 13.00 น. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง รักษาการแทนอธิบดีกรมประมง เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กับเพจเครือข่ายเพื่อนตำรวจ ที่โพสต์พาดพิงทำให้กรมปศุสัตว์ และกรมประมง เสียหาย


นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการมาแจ้งความเอาผิดกับเพจที่โพสต์ข้อความถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ ว่าเป็นบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายเรื่องหมูเถื่อน แต่ยังไม่โดนโยกย้าย


โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาอธิบดีกรมปศุสัตว์มีความตั้งใจในการทำงาน ดังนั้น หากมีหลักฐานตามที่กล่าวหา ก็ขอให้ไปยื่นที่สำนักงานรัฐมนตรี จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนของระบบราชการ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานแล้วมากล่าวหาว่าร้ายเช่นนี้ ก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดี


โดยเพจดังกล่าว ได้โพสต์ภาพข่าวการสั่งย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมข้อความระบุว่า “ต้นทางมาจากกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง 2 กรมย้ายไปแล้ว เหลือแต่กรมปศุสัตว์ที่ยังไม่ถูกเด้ง ตัวปัญหาไม่ย้ายแต่...มาย้ายคนทำคดี ไม่เป็นไร ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจลับ รับรองมีสะเทือนแน่”


ด้าน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 ก็ได้ปราบปรามเรื่องสินค้าเถื่อนร่วมกับตำรวจ ดำเนินการอย่างเข้มงวด จนยกระดับเป็นคดีพิเศษ มีการร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน แต่ก็มีบุคคลมาให้ร้ายป้ายสี สกัดกั้นการดำเนินการทำลายหมูเถื่อน ซึ่งอาจถูกชักใยโดยผู้เสียผลประโยชน์ มาบิดเบือน ทำให้ข้าราชการที่ตั้งใจทำงานเสียขวัญกำลังใจ ตนในฐานะผู้นำหน่วยและได้รับผลกระทบโดยตรง จึงยอมไม่ได้ และยืนยันว่าตนและกรมปศุสัตว์ พร้อมให้ตรวจสอบตามขั้นตอนของระบบราชการ หากมีเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดกฎหมาย ผิดกฎระเบียบ ก็ต้องลงโทษโดยเด็ดขาด


ส่วนความคืบหน้าเรื่องหมูเถื่อน ได้รายงานรัฐมนตรีฯ แล้ว และทางกรมปศุสัตว์ก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบไว้อยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการสอบสวน และจะทำหนังสือรายงานผลไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนที่มีคำกล่าวอ้างออกมาว่า ในสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องชัดเจนนั้น ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่ก็ยืนยันว่า หากมีเจ้าหน้าที่ผิดจริง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย


กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจสอบเอกสารการซื้อขายชิ้นส่วนหมูระหว่างบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องหากับบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) โดยทาง แม็คโคร บอกว่า เป็นการซื้อขายโดยมีเอกสารตามขั้นตอน แต่อาจเป็นเอกสารเท็จนั้น อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ตอนนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้เตรียมพร้อมที่จะตรวจสอบเอกสารใบอนุญาตเคลื่อนย้ายเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา


หากกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการประสานมา โดยจะตรวจสอบว่าเป็นเอกสารเท็จจริงหรือไม่ เกิดจากเจ้าหน้าที่ของกรมทำงานผิดพลาดอย่างไรหรือไม่ หรือมีเจตนาร่วมมือกับขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลเอกสารชุดดังกล่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งทางกรมปศุสัตว์ก็พร้อมให้ความร่วมมือตลอด ส่วนประเด็นเรื่องการทำลายหมูเถื่อนที่เหลืออีก 140 ตู้นั้น รายละเอียดขอให้ทางรัฐมนตรีฯ เป็นผู้ตอบเอง


ขณะที่ นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง รักษาการแทนอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการยกระดับการตรวจสอบให้เข้มข้นขึ้น โดยการเปิดตรวจสินค้าประมงตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง 100% โดยเมื่อขนสินค้าขึ้นที่ท่าเรือ หลังผ่านกระบวนการเอกซเรย์ของกรมศุลกากร ก็จะปิดผนึกและไปเปิดตรวจที่ปลายทางทุกล็อต ให้มั่นใจว่า ของที่นำเข้ามานั้นตรงกับสิ่งที่ต้องสำแดง


ส่วนกรณีที่จะมีการขนย้ายสินค้าบางส่วนลงไปทางใต้ ก็ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับกรมปศุสัตว์ ลงไปปราบปราม 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการออกประกาศให้ห้องเย็นประเภทสัตว์น้ำ มาขึ้นทะเบียนกับกรมประมง ภายในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ เพื่อควบคุมจำกัดเรื่องนี้อย่างจริงจัง