เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 29 พ.ย.66 นายกฯ ลุยแก้หนี้นอกระบบ - เด้งอธิบดี DSI - ผกก.เมากร่าง ด่าชาวต่างชาติ

1. เด้งฟ้าผ่า! พล.ต.ต.สุริยา จากอธิบดี DSI เป็น รองปลัด ยธ.

ครม.สั่งเด้ง พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม คาดสังเวยปมหมูเถื่อน เจ้าตัวโพสต์ วิถีราชการ ทำใจอยู่ตลอดเวลา เลือกทางเดินนี้เอง ไม่เสียใจ ทำเต็มที่แล้ว นายกเศรษฐา โบ้ย รมว.ยุติธรรมเสนอมา ตามความเหมาะสม ปัดตอบโยกย้ายเอี่ยวหมูเถื่อนหรือไม่?

2.จนท.คุมประพฤติ ขับแจ๊สพุ่งชนชาวบ้าน จนพลิกคว่ำ

ระทึกกลางกรุง จนท.คุมประพฤติ ขับแจ๊สพุ่งชนท้ายรถชาวบ้านไม่ยอมลงมาดู ยังขับจี้ท้ายพุ่งชนอย่างแรง สุดท้ายพลิกคว่ำในอุโมงค์ท่าพระ ด้านตำรวจสุดมึนขณะคุมตัวมาสอบปากคำ ในมือยังถือกระป๋องเบียร์ แต่เครื่องตรวจ ตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ 2 ครั้ง ผลเป็น 0% ขณะที่เจ้าตัว ยันวูบไม่รู้สึกตัว ยืนยันไม่ได้เมา ยืนยันไม่ได้ดื่มเหล้าเบียร์ พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหาย ด้านเพื่อนร่วมงานเผย ผู้ก่อเหตุป่วยเบาหวานเคยน้ำตาลตก น็อกกะทันหันมาแล้ว

3. ตั้ง กก.สอบ ผกก.เมากร่าง ด่าชาวต่างชาติกลางร้านอาหาร

ฉาววงการสีกากี ผู้กำกับเมากร่างด่าทอชาวต่างชาติเป็นเอเลี่ยน ไม่รู้เข้าไทยถูกต้องหรือไม่? หลังถูกต่อว่าสูบบุหรี่ในร้านอาหาร แจ้งสายตรวจ 2 นายมาระงับเหตุกลับอาละวาดไม่หยุด ด้านภรรยาชาวต่างชาติ ลั่นไม่สนใจ คู่กรณียศใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว หากจะมาขอโทษก็ไม่ติดใจ แต่อยากให้เปลี่ยนทัศนคติใหม่ เพราะร้านอาหารเป็นที่ๆที่คนมีสิทธิ์เท่าเทียมหมด อย่าเบ่ง ผู้การฯ จังหวัดมหาสารคาม สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันใช้เวลาไม่นาน และยังไม่เจอตัวชายในคลิปที่ถูกกล่าวหา ลั่นไม่ปกป้องคนผิด

4.สารเคมีระเบิด ดับสลด 2 ศพ คาสวนลำไยเชียงใหม่

บึ้มสนั่นสวนลำไยเมืองพร้าว ดับ 2 ศพ คาสวนลำไย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ แรงระเบิดทำเอาร่างกระเด็นติดกิ่งไม้ แขนขากระจัดกระจาย ส่วนอีกรายบาดเก็บสาหัส คาดเกิดจากคนงานเร่งผสมสารโพแทสเซียม และสารยูเรีย เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นปุ๋ยต้นลำไย ขณะที่นักวิชาการเกษตรชี้ คาดคนงานผสมสารน่าจะสูบบุหรี่ขณะผสม ด้านนายอำเภอสั่ง ล้อมคอก เร่งสำรวจข้อมูลเกษตรกรที่เก็บสารอันตราย หวั่นสกัดเหตุระเบิดซ้ำ

5.ปฏิบัติการจู่โจมบุกค้นบ้าน แม่ยาย-น้าสาว ล่าตัวเสี่ยแป้ง

ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.พัทลุง เข้าค้นบ้านภรรยา และแม่ของ "เสี่ยแป้ง" จำนวน 2 หลัง เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือบุคคลตามหมายจับ ขณะที่ ผบ.ตร.เผย กระสุนปืนที่เสี่ยแป้ง ใช้ปะทะบนเขาบรรทัด ตรงกับเหตุการณ์หลายพื้นที่ ขอให้เชื่อมั่นตำรวจ แม้ยังไม่จับคนช่วย ก่อนสั่งจเรตำรวจ สอบปม นายพล ก.ไก่ ช่วยผู้ต้องหาหลบหนี ด้าน รอง ผบ.ตร. อุบตอบยังอยู่ในประเทศ

6.ชายคลั่ง ถือมีดพร้าบุกโรงเรียน – ครู นร. แตกตื่นหนีกระเจิง

อีกแล้ว! ชายคลุ้มคลั่ง ถือมีดพร้าขนาดใหญ่ เดินเข้าไปโรงเรียน ในอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานีก่อนส่งเสียงโวยวาย ถามหา ผอ. ขณะที่ครูและนักเรียนแตกตื่น วิ่งหนีตายจ้าละหวั่น ตำรวจระงับเหตุคุมตัวทันควัน ญาติแจงชายคลั่งนานกว่า 1 ปี คาดวันนี้เสพยาบ้าเลยก่อเหตุ ขณะที่ครูแฉซ้ำ ผู้ก่อเหตุเคยบุกมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง จี้หน่วยงานรัฐหามาตรการป้องกันในสถานศึกษา หวั่นเหตุการณ์รุนแรง

7. กยศ.แจง นศ.พยาบาล กู้เงินไม่ผ่าน

กยศ.แจง นักศึกษาพยาบาลร้องศูนย์ดำรงธรรมกู้เงินกองทุนไม่ผ่าน เพราะตรวจพบคุณสมบัติไม่สอดคล้องกับข้อมูล บางรายไม่ให้ข้อมูลเพิ่ม บางคนรับรองรายได้ให้หลายครอบครัวที่ต่างภูมิลำเนากัน ยันส่งเอกสารหรือ ปรับแก้ข้อมูลถูกต้อง จะอนุมัติได้ภายใน 7 วัน

กลุ่มนักศึกษาพยาบาลเตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ เพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์กับ รมว.คลัง พร้อมโต้ กยศ. ถ้ารู้ว่าเอกสารไม่ถูกต้องควรรีบแจ้งไม่ใช่ดองเรื่องนาน 8 เดือนจนเดือดร้อน



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯ ชี้ปัญหาหนี้นอกระบบ คือการค้าทาสยุคใหม่

เรื่องปัญหาหนี้นอกระบบ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี แถลงประกาศเป็นวาระแห่งชาติ บูรณาการภาครัฐ เข้ามาร่วมแก้ปัญหา ที่นายกฯบอกว่า เป็นเหมือนการปลดปล่อยการค้าทาสยุคใหม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง / และพล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ร่วมกันแถลงข่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งแนวทางหลักๆ จะเป็นการใช้มาตรการ ธนาคารของรัฐ ที่มีอยู่แล้ว เช่น ธนาคารออมสิน / ธนาคาร ธกส. เพราะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เข้ามาช่วยเหลือ เพียงแต่ภาครัฐ จะเข้ามาเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย กับเจ้าหนี้นอกระบบ เพื่อนำลูกหนี้เข้าสู่ระบบ

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาครัฐจะบูรณาการร่วมกัน และทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ ให้เป็นไปตามกฎหมาย คือหนี้ไหนที่ดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี จะเข้าไปไกล่เกลี่ยให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ประชาชนกลับไปอยู่ในวงจรหนี้นอกระบบอีก โดยจะดูแลทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ อย่างเป็นธรรม

นายกรัฐมนตรี มองว่า หนี้นอกระบบที่เป็นปัญหากัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องใหญ่ของคนไทย ดังนั้น เราจะเอาจริง กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ คืนศักดิ์ศรี สร้างความมั่นคงให้กับคนไทยทุกคน โดยจะร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับครัวเรือน ถึงมหภาค ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ให้กลับไปเป็นหนี้ซ้ำ

เพราะคนที่เป็นหนี้นอกระบบ "พวกเขาไม่สามารถแม้กระทั่งจะฝัน ถูกปิดโอกาสการเติบโต ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน ผมถือว่าเรื่องหนี้นอกระบบ คือการค้าทาสยุคใหม่ พรากอิสรภาพไปจากผู้คน"

สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการแก้หนี้นอกระบบ จะเริ่มวันที่ 1 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป โดย กระทรวงมหาดไทย จะเปิดให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบ ทั้งช่องทางของศูนย์ดำรงธรรม และระบบออนไลน์ ส่วนการไกล่เกลี่ย จะเป็นหน้าที่ของ นายอำเภอ และ ผู้กำกับสถานีตำรวจในพื้นที่ และนำลูกนี้จะเข้าสู่การขอสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน กับ ธนาคาร ธกส. เพื่อไปชำระ เจ้าหนี้นอกระบบ ซึ่งช่องทางออนไลน์ ประชาชนสามารถ ลงทะเบียน เข้าร่วมได้ ผ่านทาง แอปพลิเคชันไทยดี ของกรมการปกครองด้วย



-ข้าราชการเฮ! ครม.ไฟเขียว ปรับฐานเงินเดือน 18,000 บาท

อีกเรื่องที่เรียกได้ว่าเกิดขึ้นรวดเร็วทันใจ หลังจาก ครม.มีมติ เมื่อ 31 ต.ค. ให้ รองนายกฯ ปานปรีย์ ไปพิจารณาดำเนินการ เงื่อนไขการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ในที่สุดที่ประชุม ครม. เมื่อวานนี้ มติเห็นชอบ ปรับฐานขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ เป็น 18,000 บาท แล้ว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เสนอ

โดยในส่วนข้าราชการบรรจุใหม่ การปรับฐานขึ้น ปีละ 10% เป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มปีงบประมาณ 2567 และปีงบประมาณ 2568 จะทำให้ข้าราชการบรรจุใหม่ ที่จบปริญญาตรี มีเงินเดือนแตะ 18,000 บาท ในปีที่ 2 คือ ถ้าได้บรรจุ ปี 2567 ปีที่ 2 คือ ปี 2568 ถึงจะได้ฐานเงินเดือนถึง 18,000 บาท ส่วนคน ที่ จบ ปวช. จะได้รับการปรับ เป็นเดือนละไม่น้อยกว่า 11,000 บาท

ซึ่งมาตรการนี้ จะมีผล ผล 1 พ.ค. 2567 ดังนั้น ระหว่าง รอการปรับฐานขึ้นเงินเดือน ในช่วงนี้จะมีเงินช่วยค่าครองชีพเข้าไปช่วยก่อน ด้วย

ส่วน ข้าราชการเดิม จนถึง ระดับ ระดับชำนาญการพิเศษซี 8 จะมีการปรับฐานตาม ข้าราชการบรรจุใหม่ ด้วย แต่จะยกเว้น ข้าราชการระดับผู้เชี่ยวชาญ ซี 9 หรือ ระดับผู้อำนวยการ จะไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน เพราะมีฐานเงินเดือนที่สูงอยู่แล้ว



-ชัยธวัช คุยทุกฝ่ายดันนิรโทษกรรม เผยธนาธร สละสิทธิ์นิรโทษคดี ม.112

เรื่องการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง เมื่อวานคุณชัยธวัช หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยว่ากำลังเดินสายคุยทุกฝ่าย ยอมรับต้องการให้นิรโทษคดี มาตรา112 ด้วย ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อพวกพ้อง ซึ่งนายธนาธร และแกนนำพรรคอนาคตใหม่ที่โดนคดี ม.112 จะสละสิทธิ์ไม่รับการนิรโทษกรรม

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล ที่ตอนนี้เป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากปรากฏภาพนายชัยธวัช ไปคุยกับนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสอ้อน้อย จ.นครปฐม และอดีตแนวร่วม กปปส.

นายชัยธวัช กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลเชื่อว่าการนิรโทษกรรมคดีที่เกิดจากความเห็นต่างทางการเมืองจะเป็นประตูบานแรกในการสร้างความปรองดองในชาติ โดยต้องการให้มีการนิรโทษกรรมในคดีความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 ด้วย เพราะมีพื้นฐานมาจากเรื่องแนวคิดทางการเมืองเช่นกัน ยอมรับว่า เป็นเรื่องยาก จึงเป็นสาเหตุที่ต้องเดินสายพูดคุยกับทุกฝ่าย เพื่อหาจุดที่เห็นร่วมกัน

ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมความผิดตามมาตรา 112 เพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำพรรค เกี่ยวกับเรื่องนี้ เชื่อมั่นว่านายธนาธร และแกนนำพรรคอนาคตใหม่ที่โดนคดี มาตรา 112 จะยื่นขอสละสิทธิ์ไม่รับการนิรโทษกรรม

นายชัยธวัช ระบุว่า หากพูดคุยกับฝ่ายต่าง ๆ จนได้ข้อสรุปที่ตกผลึกร่วมกันแล้ว จะไปพูดคุยกับทางรัฐบาล เพื่อให้เสนอร่างกฎหมายเรื่องนี้มาประกบกับร่างของพรรคก้าวไกล เพราะหากฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วย โอกาสที่ร่างกฎหมายของฝ่ายค้านจะผ่านก็เป็นได้ยาก

ทั้งนี้ เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่อยากแตะเรื่องการนิรโทษกรรม เพราะมีบาดแผลเรื่องนี้ แต่ก็ขอถามกลับว่า ถ้ามีคนที่ทำผิดแต่ไม่ต้องรับโทษอยู่คนเดียว จะก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ ตนมองว่า การที่มีแค่คนใดคนหนึ่งได้รับกระบวนการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชน จะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง



-ประเสริฐ ขอดูเนื้อหาร่างนิรโทษกรรมของก้าวไกล วอนอย่าพาดพิง คนชั้น 14

ส่วนทางพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค ออกมาบอกว่าขอดูรายละเอียดกฎหมายนิรโทษกรรมที่ก้าวไกลเสนอ ว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ และขออย่าพาดพิงถึงคนชั้น 14 เพราะไม่ได้มีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลเดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า พรรคเพื่อไทยต้องขอดูรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ก่อน พร้อมย้ำว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง ไม่เคยพูดถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการดำเนินการเรื่องใดจะต้องไม่เกี่ยวกับมาตรา 112

ส่วนที่มีข้อสังเกตที่ว่าวันนี้มีการเปรียบเทียบมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม ระหว่างผู้ต้องขังทั่วไป กับบุคคลที่อยู่ชั้น 14 นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการพาดพิงคนที่อยู่ชั้น 14 เพราะสิ่งที่ได้รับเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้สิทธิพิเศษแตกต่างจากบุคคลอื่น จึงไม่อยากให้นำไปเป็นประเด็นการเมืองมากนัก

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ถึงกรณีพรรคก้าวไกลเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง รวมไปถึงมาตรา 112 ว่า "ภูมิใจไทยมีจุดยืนอยู่แล้ว 112 แตะไม่ได้"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-8kzMyoAcCI