สังคม

ปู่คาใจ หลานสาวอยู่สถานคุ้มครองพัฒนาคนพิการ จ.ราชบุรีเสียชีวิตเป็นปี เพิ่งรู้ข่าว วอนขอความกระจ่าง

โดย paranee_s

28 พ.ย. 2566

256 views

จากกรณีมีปู่ วัย 70 ปี สงสัยสาเหตุการตายของหลานสาวที่เป็นผู้พิการ ซึ่งส่งตัวไปเข้ารับการดูแลที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ปี พศ 2563 โดยแรก ๆ ยังติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราวได้ตามปกติ ต่อมาช่วงประมาณปลายปี2564 โทรศัพท์ของปู่เกิดชำรุดไม่สามารถใช้งานได้จึงไม่ได้ติดต่อกัน



จนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 ที่ผ่านมาผู้เป็นปู่มีโทรศัพท์ใหม่จึงโทรไปหาหลานสาว ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี แจ้งว่าหลานสาวเสียชีวิตจีงจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมหลานสาวตายถึงไม่แจ้งให้ตนทราบจึงมีการสอบถามทางหน่วยงานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดหนองบัวลำภูจนเป็นข่าวขึ้น



ผู้สื่อข่าวจังหวัดหนองบัวลำภูทราบเรื่องจึงเดินทางไปสอบถามสาเหตุความเป็นมากับนายประจักษ์ และนายทวี ปู่และพ่อของนางสาวเนส ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกและหลานสาว ซึ่งหากนับถึงวันนี้นางสาวเนสจะมีอายุ 18 ปี



นายประจักษ์ หรือปู่ขว่อน วัย 70 ปี เล่าว่าหลานสาวตนป่วยด้วยโรคไบโพลาร์ช่วงอายุประมาณ 14 ปี ควบคุมตัวเองไม่ได้จึงส่งตัวให้หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดูแล และวนเวียนส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดหนองบัวลำภูครั้งละ 5-7 วันเป็นประจำ โดยพักอยู่ในความดูแลของหัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดหนองบัวลำภูกว่า 2 ปี



แต่ตนเห็นอาการไม่ดีขึ้น มีคนแนะนำให้ส่งเข้ารับการดูแลที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี เนื่องจากมีสถานรักษาพยาบาลอยู่ในบริเวณเดียวกัน จึงคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องเนสได้มากกว่า ตนจึงยอมให้ พม.พาน้องเนสไปเข้ารับการดูแลที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี



โดยในวันเดินทางไปส่ง ตนก็ไปส่งพร้อมกับเจ้าหน้าที่ พม. แต่ตนจำที่อยู่ไม่ได้ จากนั้นตนก็จะโทรไปสอบถามเป็นระยะตลอด 2 ปี จนจะเข้าปีที่ 3 โทรศัพท์เกิดชำรุด จึงไม่ได้โทรติดต่อไป ภายหลังเมื่อวันที่ 23 พย 2566 ที่ผ่านมาตนค้นเจอหมายเลขโทรศัพท์ของสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี ที่จดใส่กระดาษไว้จึงใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่โทรไปถามข่าวหลาน ปรากฏกว่าทางนั้นแจ้งว่าน้องเนสเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2565



โดยบอกว่าน้องเนสป่วยหายใจไม่ออกต้องเจาะคอจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนตกใจคิดอะไรไม่ออก ทางเจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี ถามกลับมาว่าจะให้ส่งกระดูกน้องเนสมาให้หรือไม่ ตนตัดสินใจอะไรไม่ได้เนื่องจากยังตั้งสติไม่ได้ จึงตอบไปว่ารออีก 2-3 วันจะติดต่อมาใหม่



ภายหลังตนได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดที่บ้านพักเด็กของจังหวัดหนองบัวลำภูที่เคยดูแลน้องเนส และนำน้องเนสไปส่งที่ราชบุรี เพื่อขอความกระจ่าง ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง จะสอบถามไปทางจังหวัดราชบุรีก่อน จนวันนี้ปรากฏข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้นจึงมี เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กลงมาเยี่ยมที่บ้าน แต่ยังไม่มีรายละเอียดสาเหตุการเสียชีวิตมาให้ทราบเลย



นายประจักษ์ บอกว่าตนมีความสงสัยสาเหตุการตายหลายอย่าง เช่นอาจเกิดจากการถูกทำมิดีมิร้าย หรือ ถูกรุมทำร้าย เนื่องจากการอาละวาดของหลานสาวตนที่ป่วยจากโรคไบโพลาร์หรือไม่



ปู่ขว่อนยังบอกสาเหตุที่เพิ่มความสงสัย เนื่องจากตอนที่โทรไปครั้งแรกเสียงผู้หญิงที่รับสายเหมือนเป็นเสียงเด็กสาวบอกเล่าเรื่องการตายของน้องเนสให้ฟัง แต่ไม่ทันไรก็มีผู้หญิงคนใหม่มาแย่งโทรศัพท์ไปพูดเอง จากนั้นก็มีอีกคนมาบอกว่าจะให้ส่งอัฐิกระดูกน้องเนสไปให้หรือไม่



ตนรู้สึกสงสัยว่าคนที่มารับสายอีกคนกลัวคนรับสายทีแรกจะหลุดอะไรออกมาหรือไม่ อีกทั้งเมื่อทบทวนดูทุกครั้งที่ตนโทรไปในช่วง 2 ปีแรก ตนจะได้คุยกับหลานเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น โดยทุกครั้งจะเป็นหญิงคนเดียวกันเท่านั้นที่คุยกับตน แต่วันล่าสุดที่โทรไปกลับเป็นเสียงคนอื่นไม่ใช่คนที่เคยรับสาย แล้วบอกตนว่าหลานสาวสบายดี เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย ทั้งที่ตนรู้ว่าหลานของตนเป็นเด็กอย่างไร



ส่วนเวลาที่ได้คุยกับหลาน หลานไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง มีแต่ว่าสบายดีกับร้องไห้ตลอด พร้อมบอกว่าคิดถึงปู่ ตนไม่เอะใจนึกว่าหลานคิดถึงตนเนื่องจากเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อกับแม่ของหลานแยกทางกันตั้งแต่หลาน 3 ขวบ ตนอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดให้หายสงสัย



นายทวี พ่อของน้องเนส ตอบผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตอนนี้รอดูเอกสารหลักฐานสาเหตุการตายก่อน หากไม่มีอะไรผิดปกติก็จะนำกระดูกน้องกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ บ้านเกิด





นายสุวรรณ ไข่ษรศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านม่วงแก้ว กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ปกครองของหมู่บ้าน เมื่อลูกบ้านในพื้นที่ปกครองได้รับความเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้หน่วยงานของรัฐตรวจสอบที่ไปที่มาของการเสียชีวิต ทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของหลาน ว่าเกิดอะไรขึ้นหลานถึงได้เสียชีวิต เนื่องจากเรายังไม่ได้รับความกระจ่างจากสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี



ตอนทราบข่าวอย่างนี้ ถึงกับตกใจ เนื่องจากสภาพหลานสาวคนนี้ยังไม่ปกติดี ทั้งกล่าวว่าตนเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงเบื้องต้นของหน่วยงานที่ปู่ของน้องเนสไปพบก็รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะที่เจ้าหน้าที่บอกว่าเมื่อติดต่อญาติของน้องเนสไม่ได้ภายใน 1 ปี ทางสำนักงานที่ดูแลมีสิทธิ์จะดำเนินการจัดการได้ทั้งหมด



ตนคิดว่าคำว่าติดต่อไม่ได้มันเป็นอย่างไร บ้านของปู่น้องเนส ก็อยู่ในเขตเทศบาล หน่วยงาน พม. หนองบัวลำภูก็มีตัวตน เวลากว่าปีจะติดต่อไม่ได้ดูฟังยากมาก



โดยนายสุวรรณเล่าว่าวันนี้ จนท.จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู และ นางปาลิดา คำพิบูลย์ นายกเทศมนตรีตำบลโนนสูงเปลือย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาพบ นายประจักษ์ และนายทวี โดยนำถุงยังชีพมามอบให้กับครอบครัวของสองพ่อลูกที่พิการทั้งคู่ ซึ่งอาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการมาใช้จ่ายและมีรายได้จากการเก็บของเก่าขายประทังชีพ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ่อแม่น้องเนส แยกทางกันแต่อายุ 3 ขวบ พ่อไม่มีงาน ทำร่างกายไม่แข็งแรง ปู่ซึ่งเป็นม่ายเนื่องจากแยกทางกับย่าจึงนำน้องเนสมาเลี้ยงจนอายุประมาณ 5 ขวบ น้องเนสประสบอุบัติเหตุเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเดินทางไปพร้อมกับย่าและปู่เลี้ยง (สามีใหม่ของย่า)



โดยย่าและปู่เลี้ยงเสียชีวิตทั้งคู่น้องเนสสาหัสต้องผ่าสมอง ต้องใช้เวลาในการรักษาอยู่นานและเริ่มมีอาการหงุดหงิดฉุนเฉียวไม่ปกติ แพทย์พบว่ามีอาการของโรคไบโพลาร์ อายุ11 ปี ถูกเพื่อนบ้านและเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านล่วงละเมิดทางเพศ จนกลายเป็นคดีความกันมาตั้งแต่ต้นปี 2560



หลังจากนั้นพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้นำตัวน้องเนสไปอยู่ในการดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเยียวยารักษาจิตใจและสภาพร่างกาย และภายหลังถูกส่งตัวไปที่ราชบุรีเนื่องจากปู่เชื่อจะว่ารักษาอาการโรคและพัฒนาการได้ดีกว่าจนมาพบว่าเสียชีวิต

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ