“ชลน่าน” ปัดโต้ “โรม” เหน็บร่างกม.นิรโทษกรรมพรรคก้าวไกล-“ประเสริฐ” ขอดูรายละเอียดกม.นิรโทษกรรมที่ก้าวไกลเสนอ

“ชลน่าน” ปัดโต้ “โรม” เหน็บร่างกฎหมายนิรโทษกรรมพรรคก้าวไกล ช่วยทุกคนที่ไม่ได้รับสิทธิเหมือนคนชั้น 14 เผยจุดยืนเพื่อไทย ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ ชี้ต้องพิจารณาเนื้อหาเกิดประโยชน์โดยรวม และจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ ด้าน“ประเสริฐ” ขอดูรายละเอียดกฎหมายนิรโทษกรรมที่ก้าวไกลเสนอ ว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ ชี้อย่าพาดพิงคนชั้น 14 เพราะไม่ได้มีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาถึงเนื้อหาสาระ ซึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแต่ดูความเป็นไปได้ว่าเกิดประโยชน์กับผู้ได้รับผลกระทบจริงหรือไม่



เมื่อถามว่าจุดประสงค์ของพรรคก้าวไกล ที่จัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อนิรโทษกรรมให้กับทุกคน ทุกพรรค นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเขียนสอดรับกับวัตถุประสงค์หรือไม่ มีอะไรที่เป็นข้อจำกัด หรือจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่



ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคจะได้รับสิทธิทุกคน และพาดพิงว่าหลายคนไม่ได้รับสิทธิเหมือนคนที่อยู่ชั้น 14 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบประเด็นนี้ และย้ำว่าให้ไปดูรายละเอียดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดประโยชน์โดยรวมจริงหรือไม่

ขณะที่ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลเดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยต้องขอดูรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ก่อน ว่ามีสารสำคัญและหลักการอย่างไร ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชน ก็เชื่อว่ารัฐสภาจะพิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดใดๆ พร้อมย้ำว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง ไม่เคยพูดถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการดำเนินการเรื่องใดจะต้องไม่เกี่ยวกับมาตรา 112 แต่ถ้าเป็นความผิดเรื่องการเมืองจริงๆ และเป็นประโยชน์ ก็จะขอดูรายละเอียดก่อน



ส่วนข้อสังเกตที่ว่าวันนี้มีการเปรียบเทียบมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม ระหว่างผู้ต้องขังทั่วไป กับ บุคคลที่อยู่ชั้น 14 นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการพาดพิงคนที่อยู่ชั้น 14 เพราะสิ่งที่ได้รับเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้สิทธิพิเศษแตกต่างจากบุคคลอื่น จึงไม่อยากให้นำไปเป็นประเด็นการเมืองมากนัก ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี และต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจฝากท้อง จึงไม่อยากให้เล่นการเมืองกันมากไป พร้อมย้ำว่าอยากให้การพิจารณายกร่างกฎหมายเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่ามีวาระซ่อนเร้น หากต้องการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง