สังคม

คุมตัวสามี สาว อบต.ชี้จุดฆ่าโบกปูนภรรยา สารภาพโมโหถูกพูดเหยียดหยาม-ภรรยาปันใจให้คนอื่น

โดย paranee_s

26 พ.ย. 2566

2.1K views

จากกรณี น.ส.กวินนา หรือ ฝน อายุ 38 ปี ข้าราชการท้องถิ่นตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี หายตัวลึกลับจากบ้านหมู่ 1 ต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร เป็นเวลาร่วม 12 วันตั้งแต่คืนวันที่ 13 พ.ย.66 นั้น


เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสอบสวนคลี่คลายคดีได้นำตัวนายประสิทธิพร สามีซึ่งหย่าร้างกับ น.ส.กวินนา ผู้สูญหาย แต่ยังพักอยู่บ้านเดียวกันมาสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากนำไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบ้านนาสาร เพื่อหาหลักฐานบางอย่าง เนื่องจากเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับ น.ส.กวินนา ก่อนหายตัวแต่ยังไม่พบหลักฐานข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดอันตราย


ต่อมา ตำรวจได้พบหลักฐานจากภาพวงจรปิดเวลาประมาณ 07.25 น.วันที่ 14 พ.ย.66 นายประสิทธิพร ใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดงของตัวเองบรรทุกฟูกที่นอนเก่าจากที่บ้านไปทิ้ง ที่ร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจาก น.ส.กวินนา หายตัวไป โดยได้มอบให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ไปตรวจสอบฟูกที่นอนเพื่อรวบรวมหลักฐาน


นอกจากนี้ ตำรวจได้สอบสวนพบนายประสิทธิพร ให้ข้อมูลมีความขัดแย้งกัน โดยเบื้องต้นระบุว่า คืนวันที่ 13 พ.ย.66 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้ขับรถกระบะคันสีแดง ไปส่ง น.ส.กวินนา ที่ซอยขุนทะเล ซอย 3 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อรับงานตรวจเอกสารวิทยานิพนธ์ให้นักศึกษา แต่ให้สัมภาษณ์ว่าไปส่งตอนดึกและกลับเข้าบ้านเวลา 02.30 น.


ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนในพื้นที่ ต.ขุนทะเล อ.เมือง สุราษฎร์ธานี ได้พบศพผู้หญิงลักษณะคล้าย น.ส.กวินนา ถูกโบกทับด้วยปูนซีเมนต์ บริเวณพื้นที่ว่างริมถนนนิคมสร้างตนเองขุนทะเล ซอย 3 สายโท จึงให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจที่เกิดเหตุเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ.และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันตัวบุคคล


จนเมื่อเวลา 19.00 น.พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ปริญญา ตันฑสุวรรณ ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สภ.บ้านนาสาร ร่วมสอบปาก คำนายประสิทธิพร จนยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ฆ่า น.ส.กวินนา อดีตภรรยาเสียชีวิต


โดยคืนเกิดเหตุวันที่ 13 นำร่าง น.ส.กวินนา มาทิ้งที่บริเวณปากท่อระบายน้ำริมถนนแล้วใช้ใบกล้วยปิดคลุมไว้ และวันรุ่งขึ้นได้ย้อนกลับนำปูนซีเมนต์มาโบกเททับศพ น.ส.กวินนา เพื่อปิดบังอำพราง ซึ่งสอดคล้องกับการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางไปยังจุดที่พบศพ โดยพบรถเก๋งต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ วิ่งมาในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งตำรวจพบว่าเป็นรถที่สามีเช่ามากระทำความ จึงคุมตัวนายประสิทธิพรไว้ทันที และจะขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป


เช้าวันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักขุนทะเล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักบ้านนาสาร ได้นำตัวนายประสิทธิพร ไปชี้จุดต่าง ๆ ที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาโดยจุดแรกที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างบริเวณถนนสุราษฎร์นาสาร ปากทางซอยขุนทะเล 10 จากนั้นได้เดินทางไปชี้จุดที่ทิ้งที่นอนบริเวณร้านรับซื้อของเก่าก่อนเข้าเมืองนาสาร และจุดที่ที่สามได้เดินทางไปยังสะพานกรอบแกรบข้ามคลองฉวางเพื่อชี้จุดที่ทิ้งโทรศัพท์ ของผู้ตายตามคำรับสารภาพ


ซึ่งจากการสอบสวนปากคำนายประสิทธิพร ให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 13 พ.ย. ตนและภรรยา มีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องความหึงหวงเนื่องจากทราบว่า ในช่วงที่ผ่านมาภรรยาได้ปันใจให้กับชายอื่น และตนถูกภรรยาใช้ถ้อยคำที่ดูถูกเหยียดหยามจนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ จึงตรงเข้าไปผลักจนภรรยาล้มลงบนที่นอน ก่อนจะตามเข้าไปบีบคอ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที จนภรรยาแน่นิ่งไป และพบว่าภรรยาเสียชีวิต


จึงได้หาทางเคลื่อนย้ายศพ เพื่อปกปิดความผิด จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้นำศพของภรรยา ขึ้นรถยนต์กระบะ วางศพไว้ที่เบาะนั่งตอนหน้าคู่กับคนขับ แล้วขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยใช้ถนนสาย นาสาร-สุราษฎร์ธานี ผ่านตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปตามถนนสาย 417 มุ่งหน้าเข้าถนนสาย 41 แล้วขับล่องใต้ไปจนถึง อ.เวียงสระ แต่ไม่สบโอกาสในการทิ้งศพ จึงได้ย้อนกลับมาตามถนนสาย นาสาร - สุราษฎร์ อีกครั้ง และตัดสินใจใช้ทางลัดมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จนพบจุดทิ้งศพ


โดยได้นำร่างของภรรยา ไปวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 14 พ.ย. จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ย. ได้นำที่นอน เพื่อไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าในเขตเทศบาลนาสาร แต่ร้านปิดจึงได้ทิ้งที่นอนไว้หน้าร้าน จนเมื่อมีผู้ทราบว่า ภรรยาได้หายตัวไปและมีผู้มาตามหาที่บ้าน จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความ ที่ โรงพักบ้านนาสาร เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันของวันที่ 15 พ.ย.


โดยหลังจากแจ้งความเสร็จแล้วตนได้ย้อนกลับมาดูที่ทิ้งศพอีกครั้ง และเกรงว่าจะมีผู้มาพบศพ จึงได้ไปจัดเตรียมซื้อปูน และทราย มาโบกศพ ภรรยาในวันที่ 16 พ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. และระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก ก็ได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา เช่นโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ ไปทิ้งตามจุดต่างๆ


นายประสิทธิพร ยอมรับด้วยว่า หลังจากที่เข้าแจ้งความคนหาย และพบว่าตำรวจยังไม่มีเบาะแส หรือพบศพภรรยา จึงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ ด้วยการสร้างสถานการณ์ ร้องขอให้เพื่อนที่อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการดำเนินการเขียนจดหมาย ในลักษณะเป็นจดหมายของภรรยาให้ส่งไปถึงเพื่อนที่อำเภอหาดใหญ่ ในลักษณะว่าภรรยาออกจากบ้านไปเอง


ด้านนายวิโรจน์ พ่อของนายประสิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่ทราบความขัดแย้งระหว่างคนสองคน เพราะเช้ามาก็ออกไปทำงานกลับมาบ้านในช่วงเย็น ส่วนนางสาวน.ส.กวินนา ก็ออกจากบ้านหลังตนในช่วงสายไปทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลและกลับเข้าบ้านอีกทีประมาณหนึ่งถึงสองทุ่มจึงไม่ค่อยได้พบเจอหรือพูดคุยกันมากนัก


ส่วนเรื่องของการทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพก็ได้เตรียมการไว้แล้วแต่ทางญาติฝั่งนางสาวจะนำกลับไปทำที่หาดใหญ่ก็ต้องให้เป็นเรื่องของเขาเพราะเป็นลูกสาวเขา

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ