ระทึก! น้ำป่าซัดกระบะข้ามสะพานตกคลอง คนขับ-ผู้โดยสารรีบออกมาจากรถ ชาวบ้านช่วยปลอดภัย

เมื่อเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) เวลาประมาณ 09.00 น.ภายหลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ของจ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะที่น้ำตกสองรักหรือน้ำตกวังลุง ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุระทึกหวาดเสียว เมื่อขณะที่นายสรัญธร อายุ 25ปี อาชีพรับเหมาติดฝ้าเพดานชาวอำเภอร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช กำลังขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุดิแม็ก สีบรอนซ์ ทะเบียน 6437 นครศรีธรรมราช พร้อมเพื่อนคนงานติดฝ้าเพดานรวม 3 คน เพื่อจะไปทำงานติดฝ้าเพดานที่ในหมู่บ้าน ม.1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี


ปรากฏว่าขณะกำลังขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวข้ามเขื่อนสะพานน้ำล้น คลองวังลุง รอยต่อระหว่าง ม.1 กับ ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ขณะนั้นได้มีน้ำป่าไหลหลากจากน้ำตกสองรักหรือน้ำวังลุง กำลังไหลหลากลงมาด้านล่างอย่างเชี่ยวกรากผ่านเขื่อนสะพานน้ำล้นอย่างรุนแรงทันที


คนขับรถยนต์กระบะกำลังขับรถถึงกลางสะพานไม่สามารถขับข้ามพ้นไปได้ทัน ทำให้ถูกน้ำป่าซัดตกคลองทันที จนรถถูกน้ำป่าพัดไหลไปติดก้อนหินกลางลำคลอง


หลังเกิดเหตุทั้งสามคนพยายามตะเกียกตะกายออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล ก่อนที่จะมีชาวบ้านในพื้นที่และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งพรหมคีรี เข้าให้การช่วยเหลือนำร่างคนงานทั้งสามคนขึ้นฝั่งมาได้อย่างปลอดภัยทั้ง 3 คนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถยนต์กระบะต้องรอน้ำป่าลดลงก่อนถึงจะนำรถยกมากู้ซากรถต่อไป


โดยผู้สื่อข่าว รายงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งเวลา 22.00น.ได้เกิดพายุงวงช้างบริเวณทะเลอ่าวไทย แล้วลมพายุงวงช้างดังกล่าวได้พัดขึ้นฝั่งบริเวณหมู่บ้านตำบลแหลมตะลุมพุก ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช


โดยได้พัดใส่บ้านเรือนของราษฎรหลังคาปลิวเสียหายจำนวน 2 หลัง ได้แก่บ้านของนางไพจิตร อายุ 65 ปี และนส.ทิพาวรรณ อายุประมาณ 40 ปี 2 แม่ลูก โชคดีไม่มีได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่ได้อพยพไปอยู่บ้านญาติในที่ปลอดภัยแล้ว และพบต้นไม้หลายต้นถูกพายุพัดล้มขวางถนนหลายต้น


ซึ่งเจ้าหน้าที่อบต.แหลมตะลุมพุก ได้เข้าตัดต้นไม้เพื่อเปิดทางสัญจรต่อไปแล้ว โดยหลังเกิดเหตุนางสาวนันทวรรณ กำนัน ต.แหลมตะลุมพุก ได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นไปยังนายกิตติพง นายอำเภอปากพนัง และต่อมาในช่วงเช้าได้มีกำลังทหารจากค่ายวชิราวุธ กองทัพภาค4 ร่วมกับนายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว