ตำรวจค้น 6 จุด ทลายกลุ่มขายยาเสียสาว กวาดล้างก่อนลอยกระทง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงผลการปฎิบัติการระดมกวาดล้างผู้จำหน่ายยาปลุกเซ็กส์ ตัดตอนสายหื่น ปราบยาเสียสาวก่อนลอยกระทง โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร / นนทบุรี / ปทุมธานี / และนครราชสีมา ยึดของกลางเป็นยาเสียสาว และยาเสริมสมรรถภาพทางเพศกว่า 2,000 ชิ้น

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการกวาดล้างยาที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งผลการตรวจค้น 6 จุด พบของกลาง 80 รายการ จำนวน 2,000 กว่าชิ้น ในจำนวนนี้มียาเสียสาวเป็นสิ่งที่อันตราย ต้องกวาดล้างทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ โดยยาที่พบก็มีการลงโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าจะทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศมากขึ้น

พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ในช่วงเทศกาล กลุ่มวัยรุ่นมักมีการรวมตัวกันจัดเลี้ยงปาร์ตี้ที่สถานบันเทิงต่างๆ ซึ่งมักจะมีการนำยาเสียสาว ซึ่งเป็นยาที่เชื่อว่ามีสารเคมีบางชนิดที่มีผลต่อจิตและประสาท ผู้ที่รับประทานเข้าไปจะมีอาการง่วงซึม และบางชนิดจะทำให้ตื่นตัวกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ จึงได้ปฏิบัติการกวาดล้างเข้าตรวจค้น

ผลการเข้าตรวจค้น พบยาปลุกเซ็กส์หรือยาเสียสาว จำนวน 106 ชิ้น / ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ หรือ ไวอากร้า จำนวน 1,891 ชิ้น / ผลิตภัณฑ์สำหรับทากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ จำนวน 169 ชิ้น / ผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าเป็นยาเสพติดประเภทสารระเหย หรือป๊อบเปอร์ ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่มีผู้นำไปใช้เพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศลดความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ จำนวน 220 ขวด / เซ็กส์ทอยรูปแบบต่างๆ และถุงยางอนามัยอีกจำนวน 470 ชิ้น

โดยตัวยาที่ตรวจพบนั้นมีการบ่งชี้สรรพคุณว่าเป็นยาจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการส่งตัวยาที่ตรวจยึดได้ไปตรวจพิสูจน์ว่า ยาแต่ละตัวมีสารเคมีที่มีอันตรายต่อร่างกายชนิดใดบ้าง

พันตำรวจเอกสุพจน์ พุ่มแหยม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ตำรวจได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มยาดังกล่าวมาตลอด และช่วงนี้เป็นช่วงใกล้กับเทศกาลลอยกระทงที่หนุ่มสาวจะไปปาร์ตี้กันหลังลอยกระทง ทั้งในสถานบันเทิงและสถานที่ส่วนตัว จึงเป็นช่องว่างให้คนร้ายนำยาเสียสาวมาใช้ก่ออาชญากรรม ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย และเพศ

โดยจากการตรวจสอบได้พบว่ามีการโฆษณาขายยาเสียสาวยาปลุกเซ็กส์กันอย่างแพร่หลายในช่องทางออนไลน์โดยมีการโอ้อวดสรรพคุณว่าเมื่อใช้แล้วผู้หญิงจะมีลักษณะเคลิ้มมีสารคัดหลังเพิ่มขึ้นสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้มากกว่าปกติและเมื่อตื่นมาจะจำอะไรไม่ได้ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบแหล่งที่มาพบแหล่งกระจายสินค้าจึงดำเนินการขอหมายค้นและเข้าตรวจค้น โดยของกลางที่ตรวจยึดได้นั้น หลายตัวพบว่าเป็นสารที่หักใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งส่งผลรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้หากได้รับในปริมาณมากไป

และจากการเข้าตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายยาดังกล่าวได้จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายอิสรพงษ์ อายุ 26 ปี / นายบุญ อายุ 31 ปี / และนายพิทยา อายุ 30 ปี ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ยา / พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ / และความผิดตามกฏหมายอาญา ฐานขายวัตถุหรือสิ่งของลามก ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ บอกว่าเคยเป็นเด็กวิ่งรับส่งสินค้าประเภทนี้ แต่ช่วงโควิดระบาดไม่สามารถวิ่งขายได้ จึงหันมาเปิดร้านทางออนไลน์ โดยสั่งสินค้ามาจากแหล่งย่านสุขุมวิท ทำมาได้ 1-3 ปีแล้ว

เภสัชกรหญิงวรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ของกลางที่ตรวจพบนั้น ไม่เคยขึ้นทะเบียนยาอย่างถูกต้อง อย. ไม่เคยอนุมัติ ดังนั้นจึงไม่มีความปลอดภัยเพราะเราไม่รู้ว่าข้างในเป็นสารอะไรผสมอยู่บ้างถ้ามีวัตถุออกฤทธิ์ที่ไม่ได้อนุญาตให้ใช้และไม่ได้มีการควบคุมปริมาณหากรับประทานเข้าไปก็จะถึงขั้นเสียชีวิตได้และยาบางตัวก็ไม่ได้มีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศตามที่มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเพียงแต่ทำให้หลับไปเท่านั้น

ทั้งนี้ ฝากเตือนไปยังหนุ่มสาวที่ท่องเที่ยวในสถานบันเทิงว่าให้ระมัดระวังแก้วเครื่องดื่มของตนเอง และเที่ยวอย่างมีสติ เพราะตัวยาเหล่านี้ มีลักษณะใส ไม่มีกลิ่น ถ้าหยดลงไปในน้ำ จะไม่เห็นความแตกต่าง รวมถึงฝากเตือนการสั่งซื้อยาผ่านช่องทางออนไลน์ว่าไม่มีความปลอดภัย และอาจถูกหลอกได้ เพราะยาหลายตัวเป็นยาที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น