สังคม

เพื่อนบ้านวางมวยกันยับ ต่างฝ่ายต่างอ้างป้องกันตัว เหตุเพราะปลูกผักหน้าบ้าน

โดย kanyapak_w

23 พ.ย. 2566

951 views

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนและขอความเป็นธรรมกรณีมีครอบครัวของชายคนหนึ่งมีผู้ชาย 2 คน เด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบ และผู้หญิง 3 คน รวม เป็น 5 คน สันนิษฐานว่าเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ได้ทะเลาะกันและทำร้ายซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธ สาเหตุเนื่องจากทะเลาะกันเรื่องปลูกผักในที่สาธารณะและตรงที่ลำเหมืองตรงหน้าบ้านของคู่กรณี จนมีเรื่องบานปลายถึงขั้นลงไม้ลงมือ



นายปัญญา หรือ ลุงคำ ขอสงวนนามสกุล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการบำนาญที่เกษียณมาแล้ว 2 ปี เล่าว่า ตนซื้อบ้านจัดสรรอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวมานานแล้วก่อนที่ครอบครัวคู่กรณีจะมาอาศัยอยู่และขออาศัยพื้นที่ลำเหมืองสาธารณะเพื่อปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินและแจกเพื่อนบ้าน เหลือแจกก็นำไปขายบ้างมีรายได้เล็กน้อย ซึ่งพอครอบครัวนี้มาอยู่ ได้ทะเลาะกับตนว่าห้ามมาปลูกผักตรงข้ามหน้าบ้านของตน ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนอยู่แล้วไม่ได้เกะกะหน้าบ้านแต่อย่างใด ตอนแรกก็ไม่อยากทะเลาะก็ทำไปตามปกติเพราะเชื่อว่าไม่ผิดอะไร อีกทั้งยังทำประโยชน์จากที่ดินที่รกรุงรังให้ดูสะอาดและมีผักแจกเพื่อนบ้านด้วย



จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตนทราบว่า เพื่อนบ้านคู่กรณีไม่พอใจได้ถางเอาผักสวนครัวตนทิ้ง จึงต้องการจะไปพูดคุยสอบถาม แต่ก็โดนด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ซึ่งไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน จนลูกชายเข้ามาเพื่อจะช่วยเจรจา แต่ก็เถียงกันเริ่มรุนแรง ครอบครัวทั้ง 5 คน ก็ออกมารุมด่าลูกชายและตีด้วยเหล็กจึงชุลมุน จนตนและลูกบาดเจ็บเย็บไปหลายเข็ม ตนมีคลิปบันทึกเหตุการร์ไว้หมด ตนกับลูกแค่มีไม้แต่พวกเขามีเหล็กทั้งหมด ซึ่งทั้งพ่อหลวงและคนในหมู่บ้านเอือมระอากับครอบครัวนี้ จึงมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ต่อไป แต่ได้แจ้งความไว้แล้ว



ทางด้าน นายศุภกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนเป็นคนอนุญาตให้ลุงคำทำการปลูกผักพืชสวนครัวเพื่อให้สวนสาธารณะแห่งนี้สะอาดและลุงคำก็มีน้ำใจแจกพืชผักสวนครัวให้เพื่อนบ้านหยิบเก็บเอาไปกิน ตนเคยไปเจรจากับคู่กรณีคือ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี พร้อมครอบครัวแล้วแต่ก็โดนด่ากลับมาจนตนทนไม่ไหวได้แจ้งความไว้แล้วครั้งหนึ่งข้อหาหมิ่นประมาทด้วยซึ่งสร้างความแตกแยกในหมู่บ้านจนชาวบ้านอยู่ไม่เป็นสุขหลังครอบครัวนี้มาอาศัยอยู่ มีเรื่องกับเพื่อนบ้านแทบทุกหลังคาเรือน



ขณะที่ นายณัฐวุฒิ คู่กรณี อายุ 52 ปี เล่าว่า พ่อหลวงเข้าข้างลูกบ้านฝ่ายนั้นทั้งที่เป็นที่สาธารณะและที่สำคัญเป็นหน้าบ้านของตน เวลาลุงคำปลูกผักก็มีการใช้สารเคมีฉีดพ่นทำให้กลิ่นเข้าบ้านตนอีกทั้ง ทั้งทำให้มีงู แมลงต่าง ๆ เข้าบ้านตนด้วย ทำไมไม่ทำสวนหน้าบ้านหรือลำเหมืองของตนเองจะมาทำหน้าบ้านของตนทำไมทั้งที่ลุงคำ อยู่ถัดไปหลายหลัง



นอกจากนี้ยังทำให้เสียงดัง เวลาพูดหรือตอกเสาหลักรั้วทำสวนเสียงดังจนสร้างความรำคาญ อยากขอความเป็นธรรมให้ตนด้วยเพราะครอบครัวตนก็เพิ่งมาอยู่แค่ 2 ปีตรงหมู่บ้านนี้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตนมาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ตั้ง 30 ปี แล้ว และในวันเกิดเหตุฝ่ายลูกลุงคำเริ่มก่อนเตรียมอาวุธมาด้วยตนก็ต้องปกป้องลูกเมียของตนที่ถูกทำร้ายด้วยเช่นกัน



ขณะที่ภรรยาของนาย ณัฐวุฒิ เล่าอีกว่า เป็นใครก็ต้องปกป้องลูกที่โดนทำร้ายและลูกเป็นผู้หญิงด้วย ตนเป็นแม่เห็นลูกถูกทำร้ายก็ต้องช่วยแม้จะถูกทำร้ายกลับก็ตามซึ่งตนกับสามีก็ไปแจ้งความที่โรงพักไว้แล้วเช่นกันชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าครอบครัวหรรษาหรือ นายณัฐวุฒิ นั้นเคยมีเรื่องอื้อฉาวมาแล้วที่จังหวัดสระบุรีที่แบลคเมล์พระหาว่าพระสงฆ์ลวนลามลูกสาวจนเป็นข่าวโด่งดังและชกต่อยกับพระด้วย และได้ออกรายการโหนกระแสมาแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ