ผบช.น.เผย แก๊งทรชนยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” รวมตัวเป็น “องค์กรเถื่อน” เร่งจับสมาชิก 84 คน พบมีเงินทุนเทาหนุนหลัง

เมื่อเวลา 11.25 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เผยคืบหน้าสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยฆ่าน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ว่า ที่ผ่านมาตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนขอศาลออกหมายจับ พร้อมเข้าตรวจค้นจับกุมช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ย.) โดยมีผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังคงหลงเหลือบุคคลหลบหนี ก็กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ลักษณ์เพื่อความชัดเจนว่าใครคือมือปืน เนื่องจากไม่มีใครยอมรับสารภาพ


โดยผู้ต้องหาในคดีนี้ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีเก่าเมื่อช่วงต้นปีที่ยิงปืนใส่นักเรียนต่างสถาบัน ที่สำคัญยังพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้เรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพใด แต่มีแกนนำสร้างกลุ่มตามความเชื่อขึ้นมา และเช่าที่พักอาศัยร่วมกัน พร้อมหาแนวร่วมนักศึกษาสถาบันต่าง ๆ ออกมาอยู่ในโลกเสมือนไม่ได้อยู่ในโลกความเป็นจริง เป็นการสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา มีการสร้างแรงฮึกเหิมปลุกใจในกลุ่มด้วยการนำรูปผู้เสียชีวิตต่างสถาบันมีติดไว้ในที่ซ่องสุ่มของกลุ่ม และจะถอดรูปแบบการก่อเหตุในแต่ละครั้งเพื่อพัฒนาการลงมือและการหลบหนี ซึ่งที่ผ่านมายังได้สร้างสถานการณ์เพื่ออำพรางคดีลักษณะเดียวกันที่ย่านมีนบุรี


ผบช.น.กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งกำหนดมาตรการดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศ ยืนยันไม่หนักใจแม้ชั้นศาลอาจตัดสินยกฟ้องผู้ต้องหา


ขณะที่พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยในคดีครูเจี๊ยบ และ นักศึกษาอุเทนถวาย ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


จากตรวจสอบพบรถยนต์อเนกประสงค์ สีทองสลับฟ้าที่ถูกนำมาซุกซ่อนในป่าไผ่ ริมถนนโยธาธิการวัดต้นเชือก คลองหนึ่ง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จุดนี้พบว่าไม่มีบ้านเรือนประชาชนและไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในละแวกใกล้เคียง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจพบ ซองปืน ยาปฏิชีวนะ ป้ายทะเบียนรถ กุญแจรถจักรยานยนต์ และบุหรี่ อยู่ในรถคันดังกล่าว จึงเก็บไปตรวจสอบเพื่อหาลายนิ้วมือแฝง


นายอมรเทพ โกศลเวช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทวีวัฒนา เปิดเผยว่าช่วงเวลา 10.30 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบรถคันดังกล่าว ถูกนำจอดทิ้งไว้ ตรวจสอบภายในเห็นแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์หนึ่งแผ่น เมื่อสอบถามชาวบ้านไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ จึงไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรไทรน้อย


พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า รถที่เจอในวันนี้เป็นรถที่กลุ่มอาชญากรใช้ขนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขี่สำรวจเส้นทางและเป็นรถยนต์ที่ใช้รับส่งผู้ร่วมขบวนการและอาวุธ ส่วนจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุใช้ พบว่าถูกนำไปเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสถานที่เปลี่ยนสีรถ


สำหรับแนวทางการสืบสวน พบว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมที่แข็งแรง การทำงานที่ซับซ้อน โดยมีสมาชิกที่มีอุดมการณ์เดียวกันถึง 84 คน และมีการแต่งตั้งหัวหน้าองค์กร ที่ตำรวจมีข้อมูลสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปถึงผู้ลงมือก่อเหตุแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้


ส่วนการลงพื้นที่ตรวจค้น 6 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพ และ นนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ทำการขององค์กรกลุ่มนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่มีตำแหน่ง เหรัญญิก ทำหน้าที่เก็บรวบรวมเงินสีเทา จากสมาชิก เพื่อนำไปทำกิจกรรมตามอุดมการณ์ขององค์นี้


นอกจากนี้พบว่ายังมีองค์กรในลักษณะคล้ายกับองค์กรนี้อีกหลายกลุ่ม ซึ่งหากครั้งนี้ตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ก็จะทำให้องค์กรอื่นเข้มแข็งตามไปด้วย