ครบ 1 เดือน "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนี -เจ้าหน้าที่ ยังปักหลักล่าตัวบนเขาบรรทัด

วันที่ 22 พ.ย. 66 นับเป็นวันที่ 15 ของการไล่ล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด โดยเฉพาะรอยต่อของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.สตูล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคว้าน้ำเหลวในการไล่ล่า

ขณะที่ในวันนี้ หลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส , ชุดแดนไทย 54 ตชด.ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี , ตชด 43 หน่วยชิงก้า ตชด.44 หน่วยลาชู พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภูธรพัทลุง ยังอยู่ในที่ตั้ง และประจำตามจุด และฐานต่างๆ เพื่อรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ว่าจะค้นหาต่อ หรือถอนกำลังกลับ ขณะที่ชุดไล่ล่า ระบุว่า จากข้อมูลการข่าวของชาวบ้าน คาดว่าแป้ง นาโหนด ได้หลบหนีลงจากป่าเขาบรรทัดในวันปะทะ อาจจะเป็นเรื่องจริง เพราะเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาในพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุปะทะ 2 วัน จึงไม่พบผู้ต้องหา แม้จะมีการปิดทุกเส้นทางที่ลงจากเทือกเขา

นายสิงห์ ชนะสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านป่าพงษ์ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่า แป้ง นาโหนด หนีลงจากเทือกเขาตั้งแต่วันแรก เพราะระยะทางจากจุดปะทะมาถึงบ้านป่าพงษ์ ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถึงป่าริมหมู่บ้าน โดยวิสัยของคน ถ้าหนีแล้วต้องวิ่งหลบหาที่ปลอดภัย ถ้าวิ่งเข้าป่าลึกไป คงไม่ใช่สัญชาตญาณของคน ตนเลยเชื่อเหมือนลูกบ้านว่า แป้ง นาโหนด หลบหนีลงมาจากป่าแล้ว แต่จะไปทางไหนนั้น ตนไม่แน่ใจ

ขณะเดียวกัน ยังครบ 1 เดือน สำหรับการหลบหนีของแป้ง นาโหนด นักโทษคดีอุกฉกรรจ์เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ที่ได้หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างคืนวันที่ 21-22 เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา และจนถึงวันนี้การสอบสวนและสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ให้การช่วยเหลือ แป้ง นาโหนด หลบหนี ซึ่งจับกุมได้ทั้ง 7 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี ว่า ทั้ง 7 ราย ให้การสอดคล้องต้องกัน รวมทั้งการนำไปสู่หลักฐานต่างๆ แม้กระทั่งการไปซื้อหากุญแจที่ใช้สำหรับมาช่วยไขกุญแจข้อเท้า การใช้โทรศัพท์มือต่าง และระบุด้วยว่าในกลุ่มของผู้ถูกออกหมายจับนั้น เมื่อสอบสวนพบว่ายังพาดพิงออกไปหาผู้อื่นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าจะออกหมายจับได้อีก ทั้งในกลุ่มพลเรือน และกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งได้ประสานกับทาง บช.ภ.9 หากการสอบสวนไปถึงใคร จะต้องเอาตัวมาดำเนินคดีทุกราย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าข้อมูลจากผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช สอดคล้องกับผบ.ตร. ที่ได้เปิดเผยช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า อาจมีการดำเนินคดีกับตำรวจบางคนที่มีส่วนในการช่วยเหลือนายเชาวลิต

ส่วนในพื้นที่นั้น การสืบสวนอย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงขบวนการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกัน โดยเฉพาะการรวบรวมหลักฐาน ทางเทคโนโนโลยี ที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะการลงทุนใช้จ่ายเพื่อการหลบหนีนั้น พบว่ามีการเตรียมการอย่างดี การใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมีการจ่ายออกไปเป็นเงินสด ทำให้การตรวจสอบเส้นทางการเงินเป็นไปอย่างยากลำบาก มีรายงานเบื้องต้นว่าการใช้จ่ายเงินเพื่อการหลบหนีของนายเชาวลิต เป็นวงเงินไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท กระจายไปยังผู้เกี่ยวข้องหลายกลุ่ม