คุมตัวขอทานชาวจีนเพิ่มอีก 1 อ้างเป็นนักท่องเที่ยวแต่ทำกระเป๋าเงินหาย มานั่งขอทานหาเงินกลับประเทศ

จากกรณีที่ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยตำรวจ สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่ พม. เข้าดำเนินการจับกุมแก๊งขอทานชาวจีนหน้าเละ และมือกุด สวมใส่ชุดนักศึกษาไทย นั่งขอทานหน้าห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า และก่อนหน้านี้ก็สามารถจับกุมหญิงขอทานชาวจีนลักษณะคล้ายกัน รวมเป็น 3 ราย ท้องที่ สน.ปทุมวัน สน.บางพลัด และสน.พญาไท ซึ่งจากการตรวจค้นพบขอทานชาวจีนมีเงินสดติดตัวเป็นหมื่นบาท และมีทั้งโทรศัพท์มือถือและคีย์การ์ดห้องพัก



หลังถูกจับกุมมีล่ามคนจีนนั่งรถยนต์อัลพาร์ตสีดำมาที่ สน. นำพาสปอร์ตของขอทานชาวจีนมาให้กับเจ้าหน้าที่ และขอเคลียร์กับตำรวจ บอกที่ผ่านมาเวลาถูกจับจ่ายเงินให้ตำรวจ 10,000 บาท ก็ได้รับการปล่อยตัว



ซึ่งขณะนี้ได้ประสานทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แผนกค้ามนุษย์ เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ เพื่อขยายผลจับให้ถึงตัวการ โดยเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เพราะมีล่ามคนจีนที่พูดไทยได้เดินทางนำพาสปอร์ตมาให้เจ้าหน้าที่ และขอเคลียร์เป็นเงิน 10,000 บาท หลังจากเคลียร์เจ้าหน้าที่ได้ชาวจีนเหล่านี้ก็จะขอเดินทางกลับประเทศ ซึ่งประเด็นที่น่าสังเกต คือ แก๊งขอทานชาวจีนเหล่านี้ จะผ่านเข้าออกประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีตราประทับ ที่ด่านไทย-มาเลเซีย



วันนี้ (20 พ.ย.) กัน จอมพลัง เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี หลังได้รับเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่า พบขอทานชาวจีน อย่างน้อยอีก 1 ราย นั่งขอทานอยู่บริเวณ BTS โดยกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ในท้องที่ สน.ลุมพินี ตอนนี้ได้รับแจ้งว่าพบขอทานชาวจีนเป็นผู้หญิง 1 รายนั่งขอทาน 2 จุด คือ บีทีเอสอโศก และบีทีเอสนานา อยู่จุดละ 6 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนจุด ทำแบบนี้ทุกวัน



จากการลงพื้นที่บีทีเอสอโศกวันนี้ พบขอทานหญิงจีน 1 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ และขอทานชายชาวจีน 1 คน รายนี้ตำรวจ สน.ลุมพินีได้คุมตัวมาที่โรงพักเพื่อทำการสอบปากคำ เบื้องต้น กัน จอมพลัง ระบุว่า สำหรับขบวนการขอทานจีน ตัวเองมีลิสต์ข้อมูลขอทานรวม 7 ราย ตำรวจสามารถจับไปดำเนินคดีได้แล้วเมื่อวานนี้ 3 ราย เหลือที่ต้องตามตัวอีก 4 ราย // ส่วนชายชาวจีนที่ตำรวจ สน.ลุมพินีคุมตัวได้วันนี้ ถือเป็นขอทานนอกลิสต์ ไม่มีข้อมูลมาก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าคือขอทานขบวนการเดียวกัน เพราะนั่งขอทานอยู่จุดเดียวกับที่ได้เบาะแส



ในช่วงแรกที่ตำรวจเข้าจับกุม มีพฤติกรรมหลบหนี ทั้งที่เป็นชุดตำรวจนอกเครื่อง จึงเชื่อว่ามีคนคอยช่วยดูต้นทางให้ จากนั้นเมื่อขอดูพาสปอร์ต ชาวจีนคนนี้ บอกว่าเอกสารเดินทางหาย แต่พอค้นตัว กลับเจอพาสปอร์ตที่ไม่มีตราประทับเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งระหว่างนี้ตำรวจกำลังขยายผลต่อว่าเป็นขอทานกลุ่มเดียวกันหรือไม่ พร้อมฝากถึงคนที่รับเคลียร์ให้ชาวจีนกลุ่มนี้ให้คิดดีๆ เพราะอาจจะถูกดำเนินคดีไปด้วย



ต่อมาเวลา 13.25 น. กัน จอมพลัง และตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้เดินทางมาที่บีทีเอสศาลาแดง หลังรับรายงานว่า มีหญิงสาวใส่ชุดคล้ายนักศึกษา มีใบหน้าผิดรูปจากปกติมายืนขอทานที่บริเวณทางเข้าบีทีเอสศาลาแดง แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุกลับไม่พบหญิงสาวที่เป็นเป้าหมาย จึงเชื่อว่าขบวนการนี้ต้องมีทีมงานที่คอยมาดูลาดเลาก่อนแล้ว ถึงพากันออกจากพื้นที่



โดยวันนี้จะมาหาความจริงว่าขอทานที่มีลักษณะแขนขาด หน้าเละ ใครเป็นคนพาเข้ามา ซึ่งหลังจากนี้ใครที่มีเบาะแส สามารถแจ้งเข้ามาในทุกช่องหรือแจ้งกระทรวงพัฒนาสังคมก็ได้ จากที่ตัวเองมีข้อมูลขอทานอยู่ที่บีทีเอสอโศก ปกติจะเป็นผู้หญิงใส่ชุดนักเรียน แต่วันนี้เป็นผู้ชาย เลยคิดว่ามีการจัดคิวสลับหมุนเวียนกันมา



ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนและหลังที่ กัน จอมพลัง จะลงพื้นที่ ได้มีชายลักษณะท่าทางแปลกๆ มาเดินวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ ตรงจุดที่หญิงสาวรายดังกล่าวยืนอยู่ และมักจะถ่ายภาพและคลิปส่งไปหาปลายทาง ซึ่งไม่รู้ว่าใคร เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจสอบ พบชายดังกล่าวมีบัตรประชาชนไทย โดยอ้างว่า เป็นแฟนคลับ กัน จอมพลัง จึงอยากถ่ายภาพและเป็นไรเดอร์ อยู่ที่บริเวณดังกล่าว



แต่เท่าที่สังเกตชายคนดังกล่าว มีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่ได้มีการเข้ามาขอถ่ายรูปเหมือนแฟนคลับปกติ ภายหลังจากที่ชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจค้น ก็ได้หายออกไปจากพื้นที่ ขณะเดียวกันเมื่อสอบถามพนักงานส่งอาหารในพื้นที่ดังกล่าว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จักชายคนดังกล่าว และหากเป็นพนักงานส่งอาหารจริงก็ต้งอใส่เสื้อบริษัทส่งอาหารด้วย



ล่าสุด กัน จอมพลัง ลงพื้นที่บริเวณริมถนนสีลม เขตบางรัก หลังได้รับข้อมูลจากผู้แจ้งเบาะแสว่าพบชายมีลักษณะบาดแผลที่ใบหน้า และแขนกุดทั้ง 2 ข้าง นั่งขอทานอยู่บริเวณริมทางเท้า



ซึ่งก่อนที่กัน จอมพลังจะมาถึง ทีมข่าวได้ลองเดินไปดูก็พบกับขอทาน เป็นชาย สวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขายาวสีเทา มีขันสำหรับขอทานอยู่ข้างหน้า ที่มีทั้งเศษเหรียญและธนบัตร ข้างตัวมีกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ และจากการสังเกตเห็นว่า กำลังใช้เท้าลักษณะเหมือนกดโทรศัพท์อยู่



จากนั้นไม่นาน กัน จอมพลังมาถึง จึงได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก และ พม. เพื่อเข้าตรวจสอบชายรายนี้โดยทันทีที่ไปถึง ชายรายนี้ได้ลุกขึ้นและสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาล ลายสก็อต และพยายามจะลุกหนีไป ก่อนที่จะพูดเป็นภาษาจีน



ซึ่งมีพนักงานร้านอาหารที่สื่อสารภาษาจีนได้ ช่วยแปลให้ ใจความว่า ขอทานรายนี้ ชื่อนาย เฉาหลง อายุ 30 กว่าปี มาเที่ยวเมืองไทยแต่เงินหาย จึงมานั่งขอทานเพื่อขอเงินกลับบ้าน ซึ่งตนเองจะเดินทางกลับวันพรุ่งนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงขอดูหนังสือเดินทาง แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่มี ได้มีการถ่ายเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ แต่อ้างว่าโทรศัพท์เสียจึงไม่สามารถเปิดได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก จึงจะขอเชิญตัวไปที่ สน. แต่เจ้าตัวปฏิเสธโดยอ้างว่ากลัวโดนปรับ เพราะเคยโดนปรับมาแล้ว



ทั้งนี้เจ้าตัวยังอ้างว่า มีเพื่อนเป็นคนไทยที่ทำธุรกิจ และมีเพื่อนชาวจีนที่แนะนำให้ตนมานั่งขอทานที่บริเวณจุด เพราะมาเที่ยวไทยแล้วกระเป๋าเงินหาย จึงมานั่งขอทานหาเงินกลับบ้าน ทั้งที่ตนเองก็ทราบดีว่าผิดกฎหมาย โดยอ้างว่ามานั่งขอทานอยู่ที่นี้ได้ประมาณสามวัน และปกติจะอาศัยอยู่ในย่านเยาวราช และพรุ่งนี้กำลังจะกลับแล้ว ส่วนพาสปอร์ตไม่มี แต่ถ่ายรูปไว้ในมือถือ และมือถือตอนนี้เสีย ส่วนบาดแผลตามร่างกายเกิดจากการที่ตนเองประสบอุบัติเหตุขณะเป็นทหาร ตอนอยู่ต่างประเทศ





จากนั้น นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่บริเวณจุดที่พบตัวชายรายนี้ พร้อมสอบถาม และพูดคุยถึงที่มาที่ไป ก่อนเปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้ประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้เร่งสืบสวน กระบวนการเข้ามาถูกกฎหมายหรือไม่ จะเป็นกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาหรือไม่ เพราะการทำแบบนี้เสียหายกับไทย



ทั้งนี้ ขบวนการนี้ อาจมีความรู้กฎหมาย รู้ข้อกฎหมายว่ากระทำผิดก็แค่ส่งตัวกลับ จะให้มีการคุมตัวก่อน เพื่อนำไปตรวจสอบวีซา พาสปอร์ต เนื่องจากไม่พบว่าเป็นนักท่องเที่ยว และไม่พบพาสปอร์ตติดตัว และต้องขยายผล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก จึงคุมตัวขึ้นรถไปที่ สน. ทันที



ทั้งนี้จากที่ทีมข่าวสังเกตเห็นว่า กระเป๋าเป้ที่สะพายเป็นกระเป๋าหนัง PU สีน้ำเงิน ซึ่งคาดว่าจะนำขันที่ใส่เงินเก็บเข้ากระเป๋า โดยเจ้าตัวอ้างว่า ที่นั่งขอทานวันนี้ได้เพียง 50 บาท เพราะเพิ่งมานั่ง เมื่อเย็น



ขณะที่นายอัง ซึ่งเป็นพนักงานร้านและเป็นล่ามที่ช่วยแปล เปิดเผยว่า เห็นชายรายนี้มานั่งขอทานได้ประมาณ 3-4 วันแล้ว และเห็นมีคนทำทานให้เรื่อย ๆ และเคยเห็นว่ามีชาวต่างชาติเคยให้แบงก์พันกับชายรายนี้ด้วย แต่ไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่เพราะตอนที่เห็นเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงทำให้มองไม่ชัด