สังคม

ทลายแก๊งขาย 'รถไถทิพย์' รวบหัวหน้าขบวนการ สารภาพเอาเงินเปย์ผู้ชาย

โดย panisa_p

20 พ.ย. 2566

950 views

ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ "ทลายแก๊ง รถไถทิพย์ออนไลน์" หลอกเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา อ้างตัวเป็นนายหน้าติดต่อขอซื้อรถไถจากผู้ขายตัวจริง และนำภาพวีดีโอสินค้า ไปหลอกขายผู้ซื้อ เสนอราคาต่ำกว่าท้องตลาด พบมีผู้เสียหาย 53 เคส เสียหาย 3 ล้าน รวบหัวหน้าขบวนการเป็นชาย สารภาพเอาเงินไปแปลงเป็นทองคำ และ เปย์ผู้ชาย


โดยปฏิบัติการ "ทลายแก๊ง รถไถทิพย์ออนไลน์" หลอกลวงในรูปแบบที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ที่ต้องการซื้อขายรถไถนามือสองในราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยจะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายรถไถนามือสอง


พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการ สอท.3 อธิบายถึงแผนประทุษกรรมว่า ขั้นแรก จะเข้าไปสังเกตการณ์ตามกลุ่มและสร้างเพจ โดยแสดงตนว่าเป็น “นายหน้าขายรถไถ” โดยแผนประทุษกรรม ทางมิจฉาชีพ คือ นายกนกชัย หรือ เปรม อายุ 25 ปี อ้างตัวเป็นนายหน้า ติดต่อไปยังผู้ที่ประกาศขายรถไถผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนอ้างตัวว่ารับซื้อรถให้ราคาสูง


จากนั้น ก็จะให้ผู้ขาย ส่งภาพนิ่ง และวีดีโอของรถไถและรายละเอียดต่างๆของตัวรถมาให้ แล้วก็จะนำข้อมูลทั้งหมดได้ ไปโพสต์ขายอีกต่อหนึ่งทอด โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของรถ ไถ นำไปติดต่อขายให้กับชาวนา เกษตรกร โดนขายให้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 50% เฉลี่ยอยู่ 250,000 บาทถึง 300,000 บาท แล้วแต่รุ่นยี่ห้อ เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อ สนใจติดต่อขอซื้อ ก็จะแจ้งไปยังเจ้าของรถตัวจริงว่าจะซื้อ และจะว่าจ้างรถสไลด์ไปรับรถไถที่บ้าน โดยในขั้นตอนนี้ ผู้ต้องหาอาจวางเงินมัดจำกับเจ้าของรถตัวจริง หรือใจปล้ำยอมวางเงินมัดจำว่าจ้างรถสไลด์ให้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ


เมื่อรับรถออกมาแล้วก็จะนำรถไถไปส่งให้กับผู้ซื้อตามที่นัดหมายกันไว้ เมื่อรถไถไปถึงที่หน้าบ้าน ผู้ต้องหาจะเร่งให้ผู้ซื้อ รีบโอนเงินให้ โดยให้โอนเข้าบัญชีม้า และเมื่อโอนเงินมาให้เรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการตัดการติดต่อ และส่งเงินจำนวนดังกล่าวต่อ ส่วนเจ้าของรถไถตัวจริง พอไม่ได้เงิน ก็เลยติดต่อให้รถสไลด์ นำรถไถกลับมาส่งคืน


ตำรวจไซเบอร์จึงรวบรวมพยานหลักฐานลงพื้นที่สืบสวน จนทราบตัวของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดว่ามี 10 คน จึงไปขอศาลออกหมายจับ และเข้าจับกุมตัวหัวหน้าขบวนการ ซึ่งเป็นคนหลอกลวงคือนายกนกชัยอายุ 25 ปี และจับบัญชีม้าทั้ง 6 แถว รวมถึงคนรวมบัญชีม้า รวมทั้งหมด 7 คน ส่วนอีก 3 คนเป็นคนกดเงินที่ชายแดนอำเภอแม่สาย ซึ่งกลุ่มคนร้ายไหวตัวทันไม่เดินทางมากดเงิน และหลบหนี


โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว ได้เริ่มก่อเหตุมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่หลังช่วงโควิด โดยพบว่ามีผู้แจ้งความไว้ใน 5 พื้นที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ และมีการแจ้งความออนไลน์ไว้รวม 53 คดี มูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 3 ล้านบาท


จากการสอบปากคำนายกนกชัยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวจริง โดยนำวิธีการมาจากการหลอกจำนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน


ส่วนเงินที่หลอกได้ก็จะนำไปแปลงทรัพย์สิน โดยซื้อทองคำเก็บไว้ครั้งละ 2 บาท บางส่วนก็จะนำไปซื้อของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวใช้เงินและอีกส่วนหนึ่ง เอาไปเปย์ผู้ชาย ซึ่งตรงกับพยานหลักฐานที่ตำรวจสามารถยึดได้พบแชทการพูดคุยกับชายหนุ่มหลายคน โดยมีการโอนเงิน และมอบทรัพย์สินให้ ส่วนเงินบางส่วนก็จะนำไปใช้วิ่งเคลียร์ผู้เสียหายที่แจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆจึงทำให้รอดคดีมาได้หลายปี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/C4zVfQVpeZY

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ