คนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ไลฟ์ของความช่วยเหลือด่วน หลังสถานการณ์สู้รบรุนแรง

คนไทย 41 คน ที่หนีจากเมืองเล้าก์ก่าย ยังอยู่ที่เมืองเชียงตุง รัฐฉานของเมียนมา ยังไม่ได้กลับประเทศไทย เนื่องจากยังติดกระบวนการภายในของเมียนมา ขณะที่คนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ไลฟ์สดของความช่วยเหลือด่วน หลังสถานการณ์สู้รบรุนแรง


ตลอดทั้งวันนี้ที่ด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับคนไทย 41 คน จากประเทศเมียนมา ตามที่มีการประสานงานมาก่อนหน้านี้ว่า 41 คนไทย ซึ่งนายจ้างปล่อยตัวจากเมืองเล้าก์ก่าย ได้หลบหนีมายังเขตปกครองพิเศษว้าแดง และทางว้าแดงได้ส่งตัวให้ทหารเมียนมา นำตัวมาที่เมืองยาง เมื่อวานนี้ 15 พฤษภาคม และนำตัวมาที่เมืองเชียงตุง รัฐฉาน แล้วจะส่งตัวมาที่ด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงรายในวันนี้ ซึ่งหน่วยงานราชการของไทยได้เตรียมความพร้อมในการรับคนไทยทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ National Referral Mechanism หรือ NSM โดยที่ด่านพรมแดนแม่สาย จะมีหน่วยแพทย์ไปตรวจสุขภาพเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลค่ายพญาเม็งรายมหาราช ตัวเมืองเชียงใหม่


และเข้าสู่กระบวนการคัดกรองก่อนให้พบญาติ ซึ่งมีการจัดสถานที่ไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 37 โดอยกองกำลังผาเมือง และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ ทีบีซี ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว แต่คนไทยทั้ง 41 คน ยังต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบประวัติของทหารเมียนมา จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ในวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพิ่มเติม โดยมีรายงานข่าวว่ากลุ่มคนไทย 41 คน ยังปลอดภัยดี แต่หลายคนค่อนข้างตกใจ เพราะระหว่างทางมาถึงเมืองเชียงตุง มีการยึดโทรศัพท์และทรัพย์สินไว้ชั่วคราว เพื่อป้องกันการเสียหาย


ขณะที่นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล ภาคประชาชนที่ประสานงานกับญาติเหยื่อค้ามนุษย์ และประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ของไทย เปิดเผยว่า คนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในเล้าก์ก่าย จะถูกชวนไปทำงานตอบแชทแอดมิน ราคาเงินเดือน 30,000 กว่าบาท หลังจากนั้นมีคนส่งตั๋วเครื่องบินมาให้เป็นบริษัทคนจีน ส่งเงินมาให้ ทำพาสปอร์ตให้ และรับจากในหมู่บ้านไปที่กรุงเทพฯ และบินต่อไปเมืองมัณฑะเลย์ ก่อนนำตัวไปมืองเล้าก์ก่าย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สถานทูตไทยและทางการเมียนมาได้ประกาศแล้วว่า ไม่ให้คนไทยเข้าไปด้านใน ทั้งหมดจึงถูกหลอกเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้น จะรู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อเดินทางถึง มีคนยืนถือปืนล้อมทางเข้าออก บังคับให้ทำงานทำงานตามสคิปต์หากไม่ทำจะถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง อดอาหาร จนบางรายเสียชีวิต หากจะกลับบ้านต้องไถ่ตัวคนละ 2 แสน 5 หมื่นบาท หรือหาคนมาทำงาน 4 คน


ขณะที่แม่ของคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ได้มาเฝ้ารอการกลับมาของลูก โดยขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ เพราะลูกถูกชักชวนให้ไปทำงานโดยไม่รู้ว่าจะเป็นงานที่ถูกบังคับ โดยเป็นผู้หญิงอายุ 20-25 ปี เป็นคนหมู้บ้านเดียวกัน 9 คน โดยถูกถูกกักขังไม่สามารถติดต่อทางบ้านได้ และหาทางขอความช่วยเหลือ จนถึงวันนี้ใช้เวลาในการขอกลับมาเกือบ 6 เดือน


ส่วนคนไทยอีก 293 คนที่ติดอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย ล่าสุด กลุ่มคนไทย 167 คนร่วมกันไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ก ขอร้องให้รัฐบาลจีนเข้ามาช่วยเหลือนำออกจากเมืองเล้าก์ก่ายโดยเร็ว เพราะอยู่ติดชายแดนที่ใกล้ที่สุด และทั้งหมดติดอยู่ที่นี่นานกว่า 1 เดือนแล้วท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบ ที่คาดว่าจะมีการสู้รบครั้งใหญ่ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ โดยทั้งหมดร้องขอพร้อมน้ำตา และมีการสื่อสารเป็นภาษาจีน เนื่องจากถูกตัดน้ำตัดไฟ ไม่มีข้าวกิน บางรายต้องคุ้ยขยะเพื่อหาน้ำกิน ส่งผลสภาพจิตใจย้ำแย่เต็มทีแล้ว ทั้งหมดยืนยันว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ขอให้รัฐบาลเห็นคุณค่าของความเป็นคนไทยและมนุษย์คนหนึ่ง


ขณะที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูประเทศ ที่มี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ที่มี 2 กลุ่ม โดยมีกลุ่ม 165 คนที่อยู่ภายใต้ควบคุมของทหารเมียนมา และกลุ่ม 41 คนที่อยู่ระหว่างการนำตัวมายังด่านท่าขี้เหล็ก ซึ่งหน่วยงานราชการไทยทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกองทัพบก ยืนยันว่าได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ปัญหานี้อาจเป็นหน้าที่รัฐบาลในการยกระดับการเจรจาเพื่อให้คนไทยได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด


นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการ มีมติทำหนังสือเร่งด่วนไปยังรัฐบาล ออกมาอย่างเร่งด่วนที่สุด รวมถึงเสนอให้ตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือคนไทยได้แล้ว เพราะสถานการณ์สงครามภายในเมียนมา เป็นสิ่งที่ต้องนำคนไทยออกมาโดยเร็วที่สุด