เลือกตั้งและการเมือง

กมธ.มั่นคง สภา มีมติส่งผลหารือช่วยคนไทยในเมียนมาต่อ-"โรม" จี้ รัฐบาลเร่งรัดช่วยเหลือ

โดย kanyapak_w

16 พ.ย. 2566

84 views

กมธ.มั่นคง สภา มีมติส่งผลหารือช่วยคนไทยในเมียนมาต่อ รบ. “โรม” ชม ทบ. ให้ข้อมูลชัด จี้ รัฐบาลเร่งรัดช่วยเหลือคนไทยในเล้าก์ก่าย-พร้อมรับมือผู้อพยพ เปรียบเหมือนข้างบ้านไฟไหม้ คนในบ้านเราติดอยู่ในบ้านด้วย ย้ำ ความตั้งใจอย่างเดียวไม่พอ บอกคนไทยอยู่เป็นเดือนแล้ว ต้องทำให้เร็วที่สุด



16 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลประชุมในวาระพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ได้แก่ อธิบดีกรมการกงสุล เป็นตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้ากรมยุทธการทหารบก ตัวแทนผู้บัญชาการกองทัพบก



โดยนายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ. กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเราได้มีการประชุมกันในวาระที่สำคัญคือวาระในเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่าย สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ซึ่งคณะกรรมาธิการได้เชิญหน่วยงานมาชี้แจงถึงการช่วยเหลือคนไทย ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองทัพบก (ทบ.) ซึ่งข้อมูลที่เราได้รับจากรายงานที่ชี้แจงตรงกันว่าจำนวนคนไทยที่รอคอยความช่วยเหลือ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ยังอยู่ในเล้าก์ก่าย 254 คน ซึ่งในนี้ อยู่กับทางการภายใต้การควบคุมของทหารเมียนมา 165 คน และกลุ่มที่ 2 ที่จะเดินทางมาไทย 41 คน ซึ่งต้องรอกระบวนการ



นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ. ได้ฝากไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ ว่า 41 คนที่เดินทางมา ตอนนี้พอทราบอุปสรรคบางอย่างแล้ว ขอให้เร่งรัดการช่วยเหลือ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการช่วยเหลือในส่วนอื่นๆ ต่อไป ตนยอมรับว่าในการช่วยเหลือ มีทั้งเรื่องละเอียดอ่อนและต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราเองก็ตั้งใจฟังและเห็นเธออย่าพยายาม โดยเฉพาะ ทบ.



“เราเห็นถึงความตั้งใจ แต่ต้องยอมรับว่าความตั้งใจอย่างเดียวยังไม่พอ กมธ. ของเราเลยมีมติที่จะส่งเรื่องนี้ไปที่รัฐบาล โดยมติของเราให้รัฐบาลเร่งรัดเรื่องการแก้ปัญหา โดยช่วยเหลือคนไทยที่ติดที่เล้าก์ก่ายออกมาอย่างเร่งด่วนที่สุด รวมถึงตั้งวอรูมเพื่อช่วยเหลือคนไทยได้แล้ว” นายรังสิมันต์ กล่าว



นายรังสิมันต์ ย้ำว่า สถานการณ์ในเมียนมาวันนี้ จากข้อมูลที่ทุกฝ่ายให้กับเรามา ตรงกันว่าเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงและน่ากังวลอย่างที่สุด ถ้าเราไม่เร่งที่จะทำอะไร จะไม่ใช่แค่คนไทยที่อยู่ที่เล้าก์ก่าย แต่ยังมีอีกมาก วันนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าถ้าช่วยคนที่เล้าก์ก่ายไม่ได้ เราจะไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนในพื้นที่อื่นได้



ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ โฆษก กมธ. กล่าวว่า หลายประเทศได้มีการออกแถลงการณ์เตือนประชาชนในประเทศตัวเองในการเข้าพื้นที่ชายแดนและหลายเมืองในเมียนมาที่มีการปะทะกัน ตนได้หารือกับที่ประชุมในวันนี้ในการเร่งรัดประชุมเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า



ขณะที่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เลขานุการ กมธ. กล่าวว่า เราเข้าใจ แต่เราก็ไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่พี่น้องคนไทย ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ เราถึงพยายามเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเจรจาทั้งหมด ในเรื่องกรอบเวลาและมาตรการที่จะใช้ ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานเตรียมตัวให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราไม่อยากอยู่ในสภาวะที่ต้องแถลงว่าเรามีความพยายามอย่างเต็มที่ เราอยากได้ความคืบหน้า เพราะทุกเวลาที่ผ่านพ้นไป จะมีปัญหาเรื่องการอพยพ



จากนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ถ้าเทียบเคียงเป็นบ้าน วันนี้บ้านข้างๆ เราไฟไหม้ และมีคนในครอบครัวของเราที่ติดอยู่ในบ้านหลังนั้น หน้าที่ของเราต้องช่วยเหลือเขา



ช่วงท้ายการแถลงได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม ผู้สื่อข่าวถึงกรอบเวลา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่ากรอบเวลาต่างๆ ยังเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้ แต่ก็มีความเห็นว่าต้องมีการกำหนดกรอบเวลา ส่วน กมธ.ประเมินว่าควรใช้เวลาเท่าไหร่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่กล้าที่จะพูดเรื่องตัวเลขเพราะไม่ได้อยู่หน้างานโดยตรง และเป็นการเคารพหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องเสี่ยงว่าคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ อยู่มาเป็นเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ เราเคยได้รับคำตอบว่า 7 วันน่าจะช่วยคนไทย 254 คนนี้ได้ แต่วันนี้ก็ยังไม่ได้ ดังนั้นตนคิดว่าเร็วที่สุดคือสิ่งที่เราอยากเห็น





คุณอาจสนใจ

Related News