สังคม

นายกฯ แจง 'เงิน 5 แสนในบัญชี' นับตั้งแต่ ก.ย.66 มั่นใจ 320 เสียงพรรคร่วมฯ หนุน พ.ร.บ.กู้เงินแน่นอน

โดย parichat_p

13 พ.ย. 2566

78 views

ในระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมเอเปก ที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนายกรัฐมนตรี จะให้สัมภาษณ์เรื่องโครงการแลนด์บริดจ์แล้ว ยังได้ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต แสดงความมั่นใจว่า 320 เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล สนับสนุน พ.ร.บ.กู้เงินแน่นอน แม้จะรองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจะแสดงความเชื่อมั่นว่า นโยบายนี้จะไม่เกิดขึ้นก็ตาม


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปค ณ นครซานฟานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ที่สังคมมีทั้งคนเห็นด้วย เห็นต่าง และสนับสนุน ว่า ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจน และไม่อยากให้สังคม ไทย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายตรงข้าม หรือพวกเดียวกัน ไม่อยากให้มีธง อยากให้รับฟังความคิดเห็นว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร แล้วหยิบยกมาพูดคุยกัน


ส่วนกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุโครงการดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นจริง และอาจไม่ผ่านสภา ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้รับเงินจริง นายเศรษฐา กล่าวว่า "ผมมั่นใจว่าเสียงของผม อย่างพรรคร่วมรัฐบาลมี 320 เสียง ผมว่าเสียงของผมมั่นคง และเราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน" มั่นใจว่าคนไทยจะมีโอกาสได้ใช้เงิน 10,000 บาท


ส่วนที่โครงการดีเลย์จากที่ประกาศไว้เพราะรัฐบาลต้องรับความเห็นทั้งหมด ทั้งเรื่องการออก พ.ร.บ.  การกำหนดเกณฑ์คนรวย การจำกัดรายได้


เมื่อถามว่าโครงการนี้จะมีอุบัติเหตุที่จะทำให้สะดุดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคหรือกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าทำถูกต้องทั้งหมด และทางคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะให้ข้อคิดเห็นในเชิงที่เป็นบวกและเราสามารถทำโครงการนี้ได้


นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้อยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น


ส่วนที่โหวตเตอร์พรรคเพื่อไทยบางส่วน รู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน เนื่องจากมีเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ทั้งที่เกิดจากวินัยการออม และมีรายรับไม่เกิน 7หมื่นบาท นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ แต่ต้องรับฟังทุกภาคส่วน ทั้งสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย มีความชัดเจนไม่ให้แจกคนรวย


โดยคนที่มีรายได้เกิน7 หมื่นบาท และเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท รัฐบาลได้ออกโครงการอีรีฟัน (E-refund)หากมีการใช้จ่ายจะได้เงินคืนประมาณ 1 หมื่นบาท เทียบเท่ากับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทีมงานคิดมาแล้ว


ส่วนเรื่องเกณฑ์เงินในบัญชี 5 แสนบาท ซึ่งมีการถามกันว่าจะเริ่มต้นนับเมื่อไหร่ เพราะบางคนก็เตรียมไปยักย้ายเงินออกจากบัญชี นายกฯ บอก เริ่มนับแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน ที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีเงินพอที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาชนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น นายกฯ กล่าวว่า " ผมเป็นนายกฯที่มาจากพรรคอะไร พรรคเพื่อไทย สื่อก็บอกว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น ผมก็มั่นใจว่าผมหาเงินได้ใช้เงินเป็น"


นอกจากนี้ นายกฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้เสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เอง


"ทางผู้ว่า ธปท.ได้บอกเองว่านายกฯกู้ดีกว่า ตอนนี้จาก 61% เป็น64% เพราะเพดานเงินกู้อยู่ที่ 70% ให้กู้เลย ถ้านำมาใส่โครงการฯบวกกับโครงการอื่น และหากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่มแต่ถ้าจีดีพีมากกว่าหนี้จะลดลง"


ส่วนคุณศิริกัญญา ตันสกุล วันนี้ออกมาสวนกลับ สส.เพื่อไทย ที่รุมโต้ เรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ว่าขอตอบให้ตรงคำถาม อย่าบิดเบือนประเด็น ก็บอกเป็นเรื่องตลก และย้อนถามว่าทำไมฝ่ายค้านต้องเป็นฝ่ายแสดงความรับผิดชอบ หากทำไม่สำเร็จ


คุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีที่ คุณอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล ออกมาท้าบวชชี และการโต้ตอบของหลายคนในฝั่งรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ว่า เป็นเรื่องตลก และย้อนถามว่าทำไมฝ่ายค้านต้องเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบ ก็บอกว่าหากถามกลับว่า "ถ้าทำไม่สำเร็จ รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร หรือคุณอดิศรจะรับผิดชอบอย่างไร"


นักข่าวถามว่ากรณีที่คุณอดิศรจะให้ไปบวชชี จะให้นายอดิศรไปบวชกลับหรือไม่ ถ้าทำนโยบายแจกเงินดิจิทัลไม่ได้ คุณศิริกัญญา บอกว่า ไม่หรอก เพราะคุณอดิศรน่าจะจบหลายเปรียญ


คุณศิริกัญญา ยังมีแซวกรณีที่ถูกรุมโต้ ว่า ตนก็นั่งอ่านเรื่องนโยบายแจกเงินอย่างเพลิดเพลินในทวิตเตอร์ มากันครบทั้งพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่


เมื่อถามว่าการที่ออกมาแบบนี้ ถือว่ามีเป้าหมายหรือไม่ คุณศิริกัญญา กล่าวว่า ใจหนึ่งคงอยากเป็นองครักษ์ แต่ก็อยากให้เป็นองครักษ์ที่ถูกต้อง คือโต้ตอบในประเด็นที่มีการหยิบยกขึ้นมา ถ้าไปโต้อย่างอื่น เป็นเรื่องอื่น มันก็ไม่ช่วยทำให้เกิดความกระจ่างชัดเจนมากขึ้น


และข้อมูลที่ออกมา เป็นเพียงการขุดอดีตไล่ความชอบธรรมว่าตนเคยเห็นด้วย ซึ่งก็ย้ำว่าทุกครั้งที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ ไม่เคยพูดคัดค้านแม้แต่ครั้งเดียว เพียงแต่ถามว่างบมาจากไหน ขอให้รัฐบาลช่วยตอบให้ตรงประเด็นว่าจะไม่ผิดกฎหมายได้อย่างไร"


อีกประเด็นสำคัญ คุณศิริกัญญา พูดถึงการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้ออก พ.ร.บ.กู้เงิน มาใช้ในการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ว่า "ยิ่งต้องดูรายงานของคณะกรรมการชุดใหญ่ว่ามีมติอย่างไร เพราะไม่เชื่อว่าผู้ว่าฯ ธปท. จะเสนอแนวทางนี้ และทุกครั้งก็คัดค้านมาตลอด"


คุณศิริกัญญา "ขอร้องว่าอย่าใช้ความรู้สึกบริหารประเทศ ต้องใช้ตัวเลขข้อมูลข้อเท็จจริง ว่าสรุปแล้วปัญหาคืออะไร ที่บอกว่าเกิดวิกฤตหนักสาหัส ขอดูตัวเลขหน่อย ว่ากำลังพูดถึงตัวเลขไหน จะได้คลายกังวลว่าใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาประเทศ"


ทั้งนี้มองว่า ไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะของท่านนายกฯ แต่น่าจะเป็นการรักษาคำพูด ซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งเหมือนกัน หลังจากไม่ได้รักษาคำพูดมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนร่วมรัฐบาล และตั้งรัฐบาลมา จึงจำเป็นต้องฟื้นความเชื่อมั่นว่าต้องทำตามที่พูดที่ได้หาเสียงไว้ได้ ซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญก็อาจจะแพ้ไม่ได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นปัญหาหนักใจเพราะตอนคิดโครงการ คิดมาไม่ถี่ถ้วน โดยตอนคิดยังบอกว่าใช้เงินจากงบประมาณ ซึ่งเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และพอหลังพิงฝาแล้วไม่มีทางออก จึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางลง


ประเด็นที่ คุณไหม ศิริกัญญา เคยตั้งข้อสังเกตเรื่องของการ ออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5แสนล้านบาท ในโครงการเงินดิจิทัล ว่าเป็นการหาทางลงหรือเปล่า เปิดทางให้บรรดานักร้องไปร้องเรียน เพราะอาจขัดรัฐธรรมนูญ


วันนี้มาแล้ว 2 นักร้อง พี่ศรี กับ พี่สน / คุณศรีสุวรรณ จรรยา กับ คุณสนธิญา สวัสดี ไปร้องให้มีการตรวจสอบการกู้เงินครั้งนี้ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่


โดยคุณศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ไปยื่นที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง หรือไม่


เพราะตามกฎหมายแล้ว การออก พ.ร.บ.กู้เงิน ต้องมีเหตุเร่งด่วน และต้องใช้ความต่อเนื่องในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ หรือมีปัญหา ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน แต่ สถานการณ์ ณ วันนี้ ไม่ได้มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องกู้เงินเลย ซึ่งการกู้เงินครั้งนี้ จะทำให้คนไทยทั้ง 70 ล้านคนจะต้องมาร่วมกันแบกรับภาระหนี้ บนความสุขสบาย ของกลุ่มทุนเจ้าของสินค้าและบริการที่อยู่เบื้องหลังกลุ่ม นายกรัฐมนตรีและพรรคพวกเท่านั้น


ขณะที่ นักร้องอีกคน คุณสนธิญา สวัสดี วันนี้ก็ไปยื่นเรื่อง ต่อ สำนักงาน กกต. เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบ นโยบายแจกเงินดิจิทัล ที่ได้แจ้งไว้กับ กกต. ว่า เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 หรือไม่ ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน


อีกทั้งตามกฎหมายพรรคการเมือง กำหนดว่า นโยบายของพรรคต้องระบุที่มาของเงิน และความคุ้มค่าของนโยบาย มาตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่ตอนนี้กลับไม่ตรงกับที่แจ้งต่อ กกต.


คือถ้าไปดูในรายการเอกสารที่พรรคเพื่อไทย แจ้งรายละเอียดต่อ กกต. ตอนหาเสียง ในส่วนของโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตอนนั้น พรรคเพื่อไทย ใช้ชื่อนโยบายว่า นโยบายสกุลเงินดิจิตอล และดิจิทัล วอลเล็ตเพื่อประชาชน ระบุที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินโครงการว่า มาจาก "การบริหารงบประมาณแผ่นดินปกติ" นอกจากนี้ยังระบุผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโนยบาย ว่า "ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งการสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน"


คุณสนธิญา ที่ไปร้อง ต่อ กกต. วันนี้ จึงตั้งคำถามไปยัง กกต. ว่าอนุญาตให้หาเสียงด้วยนโยบายนี้ได้อย่างไร ได้ตรวจสอบหรือไม่ ถ้า กกต. ยังเพิกเฉย จะยื่นเรื่องนี้ ต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของ กกต.ด้วย ว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่


คุณสนธิญา ยังบอกด้วยว่ากรณีนี้หากพิสูจน์ได้ว่า เงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ หากมีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะเข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา92 (3) ของกฎหมายพรรคการเมืองด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ