หนุ่มถูกยิงกระสุนเจาะหัวดับ ก่อนเพื่อนลากศพลงคอนโด อ้างทำปืนลั่นใส่ตัวเอง

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 66 เกิดเหตุหนุ่มวัย 20 ปี ถูกกระสุนยิงเข้าที่หัว เสียชีวิต เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ แต่แทนที่เพื่อนจะเรียกตำรวจมาตรวจสอบ กลับลากศพลงมาที่ชั้นล่าง อ้างว่าผู้ตายทำปืนลั่นใส่ตัวเอง

จากการตรวจสอบพบศพนายวีม หรือ โม อายุ 20 ปี อาชีพไรเดอร์ อาศัยอยู่ที่ชั้น 5 ของคอนโดมิเนียมดังกล่าว มีบาดเเผลถูกอาวุธปืนยิง 1 นัด เข้าที่ศีรษะข้างขวาทะลุออกฝั่งซ้าย ขณที่เพื่อนผู้ตาย 3 คน คือนายคมกริช อายุ 22 ปี , นายอธิษฐ์ อายุ 22 ปี และนางสาวณัฎฐธิดา อายุ 21 ปี อยู่ในอาการมึนเมา ยอมรับว่าเป็นผู้ลากศพเพื่อนลงจากชั้นบน พร้อมยึดปืนลูกโม่ ขนาด.38 อีก 1 กระบอก ส่วนร่างผู้ตายเจ้าหน้าที่มอบให้อาสานำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัด

จากการสอบถาม นายอนิรุท อาสาสมัครกู้ภัยฯ และผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังนั่งกินข้าวอยู่บริเวณด้านล่าง ได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า "น้องเขาเป็นอะไรหรือเปล่ามีเลือดออก" จึงวิ่งไปดู และเห็นน้องที่เป็นอาสาฯ ด้วยกัน ซึ่งอาศัยอยู่ติดกับห้องที่เกิดเหตุยืนอยู่ เพราะช่วยนำตัวคนเจ็บลงมาด้วย เมื่อถามเพื่อนคนเจ็บว่า "คนเจ็บไปโดนอะไรมา" ทีแรกไม่มีใครยอมพูดอะไร ต้องคาดคั้นอยู่สักพัก จน 1 คนในกลุ่มยอมเปิดปากบอกว่า "ผมบอกเขาแล้วว่าอย่าเล่นปืน"

เพื่อนผู้ตาย 3 คน ให้การว่า ปืนเป็นของผู้ตาย เพราะผู้ตายนำออกมาเล่นแล้วปืนลั่นใส่ตัวเอง จากนั้น นายคมกริช และนายอธิษฐ์ จึงช่วยกันพยุงร่างผู้ตายลงจากห้องพักชั้น 5 ลงมาบริเวณชั้นล่างตรงบันได เพื่อจะไปส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทัน

ขณะที่ นางถาวรณ์ อายุ 59 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อติดต่อขอเอกสารเตรียมไปรับศพลูกชายที่โรงพยาบาลศิริราช พร้อมเปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้เลยว่าลูกชายออกไปหาเพื่อนที่คอนโดดังกล่าว เนื่องจากลูกชายออกไปอยู่กับแฟนสาว มารู้อีกทีตอน 2 ทุ่ม มีพลเมืองดีโทรมาบอกว่า ลูกชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ชีพจรอ่อนมาก ให้ตนรีบเข้ามาด่วน

เมื่อตนไปถึง เห็นสภาพลูกชายที่หายใจรวยริน ก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะร้องไห้จนเป็นลม ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะเสียชีวิตกับเหตุการณ์แบบนี้ และไม่เชื่อด้วยว่าที่เพื่อนๆ ของลูกชายบอกว่าปืนเป็นของลูกชาย และลูกชายเป็นคนทำปืนลั่นใส่ตัวเองจนเสียชีวิต เพราะลูกชายไม่เคยพกปืน หรือครอบครองปืน ประกอบกับมีนิสัยเป็นคนใจเสาะ ขี้กลัว แค่ทะเลาะกับแฟนก็ร้องไห้แล้ว ไม่มีทางที่จะมาพกปืนติดตัวแบบนี้ และถ้าปืนลั่นจริง จะลากศพลูกชายลงมาทำไม แถมสภาพศพพบว่ามีรอยช้ำที่เบ้าตาด้วย

ด้าน พันตำรวจเอก อุเทน ตั้งพิทักษ์เสมอ ผู้กำกับการ สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า เพื่อนผู้ตายทั้ง 3 คน สารภาพว่า เมื่อคืน ตั้งวงมั่วสุมกันเสพยาเคกันในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องของนายคมกริช แล้วผู้ตายเอาปืนออกมาเล่น อยู่ๆ ปืนลั่น แต่ปืนเป็นของใครยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนที่อ้างว่าปืนลั่น ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งทั้ง 3 คน ไปตรวจคราบเขม่าดินปืน ซึ่งต้องรอผลประมาณ 2 สัปดาห์ หากพบว่าใครเป็นผู้ที่ยิง ก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้จะต้องส่งทั้ง 3 คน ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แต่จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาเค