รรท.น.5 ประชุมชุดสืบคดีวัยรุ่ยยิงเด็กช่าง เผย วันนี้ยังไม่ออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุยิง “ครูเจี๊ยบ” ดับ

รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เผย วันนี้ยังไม่ออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุยิง “ครูเจี๊ยบ” ดับ เพราะยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งความชัดเจนเรื่องรูปพรรณสันฐานและเส้นทางการหลบหนี เชื่อมีข่าวดีเร็วๆ นี้



ความคืบหน้าคดีสองคนร้าย ก่อเหตุไล่ยิงกลุ่มเด็กช่าง แต่ปรากฎว่ากระสุนพลาดไปโดนนางสาวศิรดา สินปราเสริฐ หรือ ครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนแห่งหนึ่งที่กำลังเดินไปกดเงินหน้าตู้ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เสียชีวิต ส่วนน้องหยอด(นามสมมติ) อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย



ล่าสุดเช้าวันนี้พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วยพันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฑ ได้เดินทางมาร่วมประชุมความคืบหน้าคดีนี้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ใช้เวลาในการประชุมนาน 2 ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ได้ประชุมทีมคณะทำงาน และได้สรุปผลการปฎิบัติงานเมื่อวานนี้

ยืนยันว่า “มีความคืบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว” หลังจากนี้ก็จะเร่งรัดการดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมา พร้อมมั่นใจว่าขณะนี้ได้ระดมนักสืบมือดีจากทุกฝ่าย ทั้งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล

กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และ สน.ทุ่งมหาเมฑ เพื่อทำคดีนี้ เชื่อว่าจะมีความคืบหน้า และมีข่าวดีเร็วๆ นี้ แต่ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน



เมื่อถามว่าขณะนี้มีความชัดเจนเรื่องรูปพรรณสันฐานของคนร้ายแล้วหรือไม่ พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ระบุว่า เท่าที่ได้ ก็มีความคืบหน้าแล้ว แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ และอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน-ข้อมูลอยู่ โดยเฉพาะเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นเราได้ข้อมูลในระดับหนึ่ง



ส่วนประเด็นเรื่องคนร้ายได้วางแผนมาก่อนหรือไม่ก่อนที่จะก่อเหตุนั้น พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ตอบว่า เรื่องนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน จึงจะมีความชัดเจน เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังคงให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของ “ความขัดแย้งของสถาบัน” แต่ยังไม่สรุปว่าเป็นสถาบันคู่อริที่มีปัญหากันมายาวนานหรือที่ไหนอย่างไร อยู่ระหว่างสืบทราบ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง



โดยจากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และเพื่อนของคนเจ็บ ราว 6-7 ปากแล้ว เบื้องต้นเพื่อนคนเจ็บ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับใคร เพราะเป็นรุ่นน้องปี 1 เพิ่งเข้ามา ส่วนพยานก็พอให้การเป็นประโยชน์ในเรื่องรูปพรรณสันฐานได้ แต่อาจจะยังไม่ชัดเจน เนื่องจากคนร้ายสวมเสื้อแขนยาว สวมหมวกกันน็อค ปิดบังใบหน้า



เมื่อถามย้ำจากข้อมูลการสืบสวน ตัวคนร้ายหลบหนีออกนอกพื้นที่หรือยังอยู่ในพื้นที่นั้น พันตำรวจเอกวิทวัฒน์ ระบุว่า “อยู่ในขั้นตอนการสืบสวน” รวมถึงประวัติของคนร้ายว่าเคยก่อเหตุในคดีลักษณะนี้มาแล้วหรือไม่