ศาลฎีกาฯ เลื่อนฟังคำพิพากษาคดี "ยิ่งลักษณ์" ย้าย "ถวิล" โดยมิชอบ ไปเป็น 29 พ.ย.

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบ โดยเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาจากวันนี้ ไปเป็นวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. เนื่องจากมีองค์คณะผู้พิพากษา 1 ท่าน ไม่มา โดยมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ จึงไม่สามารถทำคำพิพากษาในวันนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการมาฟังคำพิพากษา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ มาเป็นตัวแทนในการรับฟัง พร้อมเผยว่า ก่อนมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งมาทำหน้าที่ตามที่ศาลได้นัดหมายไว้

เมื่อถามว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ และทีมทนายความ มีความกังวลกับคดีนี้หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ทนายความได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด มีความมั่นใจในการสู้คดี

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ลงนามในคำสั่งให้ นายถวิล ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ครม.มีมติแต่งตั้ง พลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขา สมช. ซึ่ง นายถวิล ได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดและศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย และป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอัยการสูงสุด จึงได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกา และมีการออกหมายจับ นางสาวยิ่งลักษณ์ เนื่องจากไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล