สังคม

เภสัชกรหญิง แจงถูกมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ ติดต่อโรงเรียนหลอกเลี้ยง KFC นักเรียน

โดย paranee_s

7 พ.ย. 2566

1.2K views

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า โครงการ อุ่นน้องท้องอิ่ม ในปี 2566 นี้.วันศุกร์ ที่ 3 พฤศจิกายน เป็นโครงการที่ ภกญ.อริศ อริศรา และเพื่อนๆ กลุ่มเภสัชกรและเพื่อนๆ กลุ่มรร.มัธยมศึกษา1-6 ได้จัดทำขึ้น ให้กับน้องๆ ตาม รร. ต่างๆ ทุกๆ จว. ได้รับความอบอุ่น อิ่มท้อง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุข ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นที่ จ.น่าน เป็น รร.แรก คือ โรงเรียนบ้านป่าหัด อำเภอปัว จังหวัดน่าน ทางคณะเราขอส่งมอบเสื้อวอล์ม คนละ1ชุด ให้กับน้อง ๆ ทุกคน รวม117 ชุด เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว น้องๆ จะได้รับทุนการศึกษาคนละ 1,000 บาท ทุกคนรวม117คน เพื่อใช้จ่ายในด้านอุปกรณ์การเรียน น้องๆ ได้รับความอบอุ่นแล้ว ท้องก็ต้องอิ่มด้วย ขอขอบคุณ เคเอฟซี ป.ต.ท ปัว ในด้านบริการอาหารกลางวันให้กับน้อง ๆ ทั้งหมด 117 ชุด พร้อมคณะอาจารย์ทุกท่าน และคณะทางเรา ได้อิ่มท้องแล้วพบกัน ค่ะ


และทางเพจเฟซบุ๊ก ชื่อว่า โรงเรียนบ้านป่าหัด อำเภอปัว จังหวัดน่าน ได้โพสต์ข้อความให้การต้อนรับเป็นอย่างดีและได้มีการให้เด็ก ๆ นักเรียนมาซ้อมเต้นรำเพื่อให้การต้อนรับ จนกระทั่งถึงวันที่ 3 พ.ย. 2566 ไม่มีวี่แววของทางผู้ใจบุญที่ติดต่อมาและทางโรงเรียนได้ติดต่อกลับแต่ติดต่อไม่ได้ โดยทางโรงเรียนบ้านป่าหัด ได้โพสต์เตือนภัยลงในโซเชียล โดยมิจฉาชีพได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กของ ภกญ.รายหนึ่ง ได้หลอกให้ทางโรงเรียนหลงเชื่อว่าจะมามอบทุนการศึกษาแจกของและเลี้ยงไก่ทอดเด็ก ๆ แต่ไม่มีการมาตามนัดไว้


ก่อนที่ทางโรงเรียนได้อัปเดตความคืบหน้า ว่า "วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 โรงเรียนบ้านป่าหัดขอนป่าลานขอขอบคุณที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้เด็กๆ ? #ผู้ใหญ่ใจดีโครงการ KFC เพื่อน้อง"


ต่อมาเรื่องดังกล่าวได้มีการออกข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชน โดยมีภาพที่ทางโรงเรียนจัดทำป้ายต้อนรับปรากฏชื่อนามสกุลบุคคลตามที่กลุ่มมิจฉาชีพส่งมาให้โรงเรียน ซึ่งต่อมาโรงเรียนได้รับแจ้งจากบุคคลที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำชื่อและนามสกุล แอบอ้างให้ได้รับความเสียหาย โดยที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทำให้ได้รับผลกระทบต่อชื่อเสียงส่วนตัว และหน่วยงาน ซึ่งทางโรงเรียนขอเรียนว่าทางโรงเรียนไม่ได้มีเจตนาให้หน่วยงานหรือผู้หนึ่งผู้ใดเสียหายในเรื่องดังกล่าว จึงขออภัยต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าว มา ณ โอกาสนี้ และยืนยันว่าเจ้าของชื่อและนามสกุลที่แท้จริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด


ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.พนัสนิคม ได้พบกับ ภกญ.อริศราตามที่เป็นข่าว ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับทาง ร้อยตำรวจเอกธวัชชัย ลาพันธุ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.พนัสนิคมว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


โดย นางสาวอริศรา ได้เล่าว่า ตนเป็นเภสัชกรหญิงจริงและชื่อตามที่เป็นข่าวตนอยากออกมาแก้ข่าว เพราะถูกมิจฉาชีพเอาชื่อกับตำแหน่งงานไปแอบอ้างโดยใช้เป็นบัญชีเฟซบุ๊กปลอมมาหลอกทางโรงเรียนดังกล่าว ตามที่เป็นข่าวว่าตนไปหลอกทางโรงเรียนว่าจะไปบริจาคของและเลี้ยงไก่ทอดเด็ก จนทางโรงเรียนมีการจัดงานต้อนรับแบบยิ่งใหญ่ ให้เด็กซ้อมเต้นรำรอต้อนรับและเขียนการ์ดขอบคุณ


แต่พอเป็นข่าวไปแล้วตนได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงทางสังคมและหน้าที่การงาน ตนจึงอยากแก้ข่าวและขอชี้แจงว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว


ส่วนเฟซบุ๊กดังกล่าวรูปและเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ใช่ของตนเองเลย และตนก็อยากฝากเตือนภัยและฝากถึงโรงเรียนหรือหน่วยงานต่างๆ หากมีใครติดต่อไปขอแจกของและจัดงาน ก็ควรดูให้ดีอยากให้รีเช็กให้ดีกว่านี้ ว่ามีตัวตนจริงไหมเพราะมิจฉาชีพตอนนี้มีหลายรูปแบบควรจะเช็กให้รอบคอบกว่านี้ ตอนนี้ตนเสียหายมากอยากให้ทางโรงเรียนและทางสื่อช่วยแก้ข่าวให้ตนด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ