เลือกตั้งและการเมือง

'ปานปรีย์' ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กต. กลับจากอิสราเอลหลังช่วยอพยพแรงงาน

โดย panisa_p

6 พ.ย. 2566

44 views

“ปานปรีย์” ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กต. กลับจากอิสราเอลหลังช่วยอพยพแรงงาน หลายคนเล่าภูมิใจ ช่วยเหลือคนไทยกลับบ้าน


นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศชุดแรกจำนวน 9 คน ที่เดินทางกลับจากปฏิบัติหน้าที่ ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ในการช่วยเหลือประสานงานส่งแรงงานไทยในสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา


นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอบคุณข้าราชการทั้ง 9 คน เพราะนอกเหนือจากทูตแล้ว จะได้รับฟังข้อมูลจากผู้ที่ได้ไปสัมผัสจริง จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่ทำหน้าที่ครั้งนี้ แม้เป็นหน้าที่ที่ทำงานอยูาแล้ว แต่ก็ถือว่าทำมากกว่าที่ทำปกติ ไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ดังนั้น จึงขอขอบคุณทั้งหมด ทั้งในนามตนเอง และข้าราชการผู้ใหญ่ของกระทรวง ที่ทั้งหมดได้อาสาสมัครและเดินทางไปยังอิสราเอล เพื่อมีส่วนช่วยในการนำคนไทยกลับประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าได้ตามเป้าที่เราตั้งใจ ขณะนี้ทราบว่า ไม่มีคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับมาแล้ว นอกจากคนที่กลับมาแล้ว จึงต้องขอขอบคุณและชื่นชมอีกครั้ง


ด้านนายพงศธร จุฑาสมิทธิ์ ผอ.กองรับรอง กรมพิธีการทูต เล่าถึงการทำงานที่ ศูนย์อพยพ ในกรุงเทลอาวีฟ ว่า มีเจ้าหน้าจากกระทรวงการต่างประเทศที่เดินทางจากไทยทั้งหมด 14 คน โดยมีการเดินทางกลับมาชุดแรก 9 คน ทุกคนปลอดภัย แข็งแรงกันดี โดยการปฎิบัติงานจะอยู่ที่ศูนย์อพยพ รร.เดวิด อินเตอร์คอนติเนนตัล เป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยลักษณะการทำงาน จะเป็น ติดต่อ ประสานงานอิสราเอลในการนำตัวแรงงานไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาที่ศูนย์อพยพ รวมถึงเรียกรถสาธารณะ นำแรงงานไทยมาส่งยังศูนย์พักพิงและสนามบิน เพราะบางพื้นที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ ทำได้เพียงส่งน้ำและอาหารเข้าไป ซึ่งทำงาน 24 ชั่วโมง สลับกันพักคนละ 3-4 ชั่วโมงในช่วงแรก


ซึ่งมีความยากลำบากในการส่งแรงงานยังสนามบิน ซึ่งจะได้เที่ยวบินหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปถึงตี 5 แต่โขคดีว่ากลางคืนไม่มีการสู้รบ มีการสู้รบในช่วงกลางวัน ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเจ้าหน้าที่ที่อยู่ช่วยงานสถานทูตอีก 5 คน เพื่อรองรับภารกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากมีการปล่อยตัวประกันออกมา โดยเหลือคนไทยในอิสราเอลอีกกว่า 20,000 คน ถ้ามีสถานการณ์ก็พร้อมส่งเจ้าหน้าที่กลับไปสนับสนุนทันที โดยขณะนี้แม้จะมีการปิดศูนย์พักพิง แต่สถานทูตยังเปิดทำการตามปกติ ซึ่งสะดวกในการติดต่อสื่อสาร และมีพื้นที่รองรับแรงงานไทย รวมถึงมีสำนักงานแรงงานในการดูแลสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของแรงงานไทยด้วย


ด้านนายศุภโชค เย็นทรวง นักการทูตชำนาญการที่ปรึกษา กล่าวว่า เคยประจำการในกรุงเทลอาวีฟมากว่าสิบปี แต่สถานการณ์ขณะนั้นแค่กราดยิง แต่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดความเสียหายมากที่สุดในรอบ 50 ปี


ด้านนายนรเศรษฐ์ ศรียมก นักการทูตปฏิบัติการ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเป็นน้องใหม่รับราชการได้เพียง 2 ปี และเป็นการออกปฏิบัติงานครั้งแรกท่ามกลางสถานการณ์สู้รบ กล่าวว่า ภูมิใจและดีใจที่ได้ช่วยแรงงานไทยกลับบ้าน โดยเฉพาะเวลาที่เห็นแรงงานไทยขึ้นเครื่องบินเดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัย มีความสุขมากที่แรงงานเหล่านั้น ส่งรูปทางไลน์กลับมา และถ้าหากมีความจำเป็นจะต้องเดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจที่อิสราเอลอีก ก็พร้อมเดินทาง เพราะเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในการทำงานทั่วไป

คุณอาจสนใจ

Related News