สังคม

ระทึกพายุพัดต้นไม้อายุนับร้อยปี ล้มทับศาลาวัดบาดเจ็บ 6 ราย

โดย taweelap_b

5 พ.ย. 2566

859 views

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 66 เวลา 14.00 น. นายจำนงค์ จันทร์วงศ์ ปลัดอำเภอเมืองราชบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.หนองกลางนา อ.เมือง ว่ามีเหตุพายุพัดต้นไม้ใหญ่ ล้มทับศาลาภายในวัดบางกระ มีผู้บาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งได้ประสานมูลนิธิปฐมราชานุสรณ์ มารับผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย นำส่งโรงพยาบาล ซึ่ง 1 ใน 4 ราย อาการสาหัส


ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย หลังเกิดเหตุทำให้ภายในบริเวณวัดเกิดโกลาหล ทั้งพระในวัดและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบต้นกร่างขนาด 5 คนโอบ อายุกว่าร้อยปีตั้งอยู่ข้างโบสถ์ ด้านปีกขวาได้ล้มทับศาลาที่ตั้งพระพุทธรูปให้กับประชาชนได้กราบไหว้ พังเสียหาย รถจักรยานยนต์ถูกต้นไม้ล้มทับเสียหาย 4 คัน ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คนหลบฝนอยู่ในศาลานี้ ส่วนปีกซ้ายของโบสถ์มีต้นไม้หักล้มลงมาโชคดีไม่โดนโบสถ์ และทางด้านหลังโบสถ์ ต้นไม้ใหญ่ได้หักลงมา บริเวณหน้าลานพระพุทธองค์ใหญ่ โชดดีพระไม่เสียหาย และอีกจุดที่ข้างศาลาการเปรียญ ต้นไม้ได้ล้มเฉียดศาลาไปนิดเดียว ซึ่งภายหลังเหตุการสงบลง การไฟฟ้าได้มาทำการตัดไฟ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ อบต.หนองกลางนา ฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน พระลูกวัดและทหารจิตอาสาจาก มทบ.16 จำนวน 11 นาย ได้ช่วยกันตัดกิ่งไม้เก็บกวาด เก็บซากปรักหักพังที่สามารถทำได้


นายเอกชัย ทองอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลหนองกลางนา ไวยยาวัจกรวัดบางกระ กล่าวว่า เมื่อเช้าทางวัดมีการจัดกฐิน กฐินเสร็จเรียบร้อย ประมาณ 12.30 น. หลังจากนั้น เวลาประมาณ 13.00 น. มีฝนตกลงมา และเวลาประมาณ 14.00 น. ก็มีพายุ ม้วนเข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่ของวัดเก็บของ จึงวิ่งเข้าไปหลบฝนในศาลาที่พัง เสร็จแล้ว ก็มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ของวัดล้มลงมา ทับศาลา จึงทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน สลบไป 2 คน จึงนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลราชบุรี ทั้งวัดจึงได้แจ้งไปยังหน่วยงาน ที่รับผิดชอบก็คือองค์การบริหารส่วน ตำบล หนองกลางนา และก็ทางอำเภอ และได้แจ้งไปยังท่านผู้ว่าฯ และได้สั่งการให้คุมพื้นที่ไว้ก่อน ไม่ควรให้ใครเข้าไปในที่เกิดเหตุ กลัวจะเกิดอันตรายซ้ำ โดยผู้ที่รับผิดชอบ กำลังส่งหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นจะดำเนินอย่างไรต่อไป


ทั้งนี้กำลังรอ หน่วยงานจากอำเภอ ที่ทางผู้ว่าฯ สั่งการลงมา สำหรับต้นไม้ที่ล้มลงมานี้ คาดว่ามีอายุมากกว่า 90 ปี ส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้น จุดศาลาที่เสียหาย อยู่ประมาณ 500,000 บาท แล้วก็รถมอเตอร์ไซค์ และศาลาอีกหลายแห่งก็เสียหายเยอะ เสาไฟฟ้าที่ล้ม เบื้องต้นคาดว่ากว่าล้านบาท


นายธนกิจ จันทรรักษา อายุ 59 ปี ผู้บาดเจ็บเล็กน้อยถูกพระพุทธรูปล้มทับ มีแผลถลอกที่เหนือคิ้วซ้าย กล่าวว่า ฝนมันตกหนัก และมีลมพายุม้วนจากแม่น้ำเจ้ามา ลมหนักมาก ซึ่งตนอายุจะ 60 ปี แล้วเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ก่อนหน้าพายุจะมา ฝนได้ตกลงมาก่อน ฝนตกสักพักบมก็ค่อย ๆ จากเบาเป็นแรง จากแรงที่นี้มาหนักเลย ซึ่งตอนเกิดเหตุตนนั่งหลบฝนอยู่ในศาลาจุดเกิดเหตุ หลังจากต้นไม้ล้มทับศาลาที่ตนนั่งอยู่ก็ได้วิ่งหนีออกมาแบบฉิวเฉียด ตนได้รับบาดเจ็บที่คิ้วซ้าย และที่เข่าซ้ายก็โดนพระพุทธรูปล้มทับแต่ไม่เป็นอะไรมาก ซึ่งหลังเกิดเหตุทุกคนที่อยู่ในศาลานั้นต่างหนี้อาตัวรอดกันหมด ซึ่งโชดดีที่งานกฐินเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากมีพายุช่วงมีกฐินคงจะมีคนเจ็บมากกว่านี้


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งว่ามีต้นไม้ล้มขวางถนน ซึ่งอยู่ข้างวัดคลองโพธิ์ ในพื้นที่ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่คนละฝังแม่น้ำ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบเป็นต้นขี้เหล็กล้มขวางถนนอยู่ ทางฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าราบได้ปิดถนนให้ใช้เส้นทางอื่น ก่อนที่จะนำเลื่อยยนต์มาทำการต้นกิ่งไม้เพื่อเปิดทางให้รถสามารถวิ่งไปได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

คุณอาจสนใจ

Related News