เศรษฐกิจ

นายกฯลงพื้นที่ EEC สร้างความมั่นใจนักลงทุน - ยันไม่ถอยแจกเงินดิจิทัล 10 พ.ย. ชัดทุกประเด็น

โดย panwilai_c

4 พ.ย. 2566

36 views

วันนี้ (4 พ.ย. 66) นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการน้ำ การเพิ่มศักยภาพขยายการส่งออกทุเรียน และยืนยันว่านโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทจะชัดเจนในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้



วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระหว่างเดินทางนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเรื่องความชัดเจนเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้จะรู้เรื่องหมดทุกอย่าง



ส่วนการประชุมบนรถไฟนายกรัฐมนตรีโดยได้รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เช่นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และขีดความสามารถในการรองรับสินค้าของท่าเรือแหลมฉบัง



ที่ท่าเรือแหลมฉบังระหว่างนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย รายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ถูกนายกรัฐมนตรีเบรกถึง 2 ครั้ง ให้พูดเข้าประเด็นปัญหา ไม่ต้องรายงานเรื่องอื่นพร้อมทวงถามถึงความล่าช้า ก่อนจะได้รับคำตอบว่าล่าช้าเพียง 1.8 % เหตุผลหลักมาจากการส่งมอบพื้นที่ และ เรือขุดจากประเทศจีนเข้ามาไม่ได้เพราะการระบาดโรคโควิด-19 และ คาดว่าจะเสร็จตามแผนเดือนมิถุนายน 2567



โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้จัดแถลงข่าวใหญ่ความคืบหน้าให้สังคมได้รับทราบในสัปดาห์หน้า และ กำชับให้เร่งรัดงาน เพราะเวียดนามและ อินโดนีเซียเป็นคู่แข่งสำคัญ



จากนั้นนายกรัฐมนตรีและ​คณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตำบลปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยองเพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ ให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งนายเศรษฐาระบุว่า ปัจจัยสำคัญในการเชิญนักลงทุนคือพลังงานสะอาด และแหล่งน้ำเพียงพอ



ที่ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรีได้ พบปะตัวแทนเกษตรและประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอ ถึงการขนส่งและส่งออกทุเรียน โดยนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมส่งเสริมศูนย์พัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ที่มีองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้กับประชาชนทุกคน สำหรับเรื่องการขนส่งทุเรียน จะพูดคุยกับการรถไฟ เพื่อเพิ่มตู้โบกี้ในการขนส่งในช่วงที่ทุเรียนออกผลผลิตมาก



จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 โดยนายกฯได้ขึ้นกล่าวหลังเยี่ยมชมช่วงหนึ่งว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนรถยนต์อีวีอยู่แล้ว ทั้งบีโอไอและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยกันดำเนินงานช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จนประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์รถยนต์อีวีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้เร่งต่อมาตรการระยะที่ 2-5 ออกไป ซึ่งน่าจะเป็นที่พอใจนักลงทุนต่างประเทศ



หลังการลงพื้นที่ตลอดทั้งวัน นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีได้สรุปการลงพื้นที่เพื่อมารับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดความล่าช้าของโครงการไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ พลังงานสะอาด ระบบรางการเชื่อม 3 สนามบิน เรื่องท่าเรือ โดยนายกฯยืนยันว่าโครงการเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC เป็นโครงการที่ดีมาก ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ที่จะตอบสนองรัฐบาล ว่ารัฐบาลไทยเปิดแล้ว ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ซึ่งการมาวันนี้ก็เพื่อดูปัญหาเชิงลึก และจะได้แก้ไขในแต่ละเรื่อง



โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าหากสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ ประเทศไทยก็จะเป็นแหล่งลงทุนแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่ ตนจะเดินทางไปประชุมเอเปค ที่สหรัฐอเมริกา มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันระหว่างประเทศ ซึ่งคิดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถ พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อตกลงต่างๆได้จำนวนมาก

คุณอาจสนใจ

Related News