สังคม

จับสาวแสบดูแลผู้ป่วยติดเตียง แอบลักบัตร ATM กดเงินเกลี้ยง รับติดพนันออนไลน์

โดย panwilai_c

3 พ.ย. 2566

159 views

บุกรวบสาวแสบมหาภัย อาศัยอาชีพรับดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ลักเอาบัตร ATM ไปแอบถอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี มูลค่าความเสียหายกว่า 500,000 บาท



กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี รอง ผกก.1 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.มณเฑียร ธงเทียน รอง สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.,  และ จ.ส.ต.นพพล พุแค ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.อุบลรัตน์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา

ที่ 3794/2566 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566



ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”



โดยจับได้บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร



ซึ่งบิดาของผู้เสียหาย อายุ 81 ปี เป็นผู้ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทางครอบครัวจึงได้จ้างบริษัทแห่งหนึ่ง ให้จัดส่งคนมาดูแลคนป่วย โดยช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2566 ทางบริษัทดังกล่าวได้ส่ง

น.ส.อุบลรัตน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้มาดูแลบิดา และให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย



กระทั่งวันที่ 19 ตุลาคม 2566 น้องสาวของผู้เสียหายได้นำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากของบิดาผู้เสียหาย ไปกดเงินสด 1,700 บาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย แต่ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากมีเงินในบัญชีไม่พอ ทั้งที่ความจริงแล้วเงินในบัญชีเงินฝากมีอยู่ถึงประมาณ 700,000 บาท ทางผู้เสียหายจึงได้แจ้งเรื่องไปยังธนาคารเพื่อขอตรวจสอบ



จนทราบว่าระหว่างเดือนกันยายน 2566 ถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ได้มีรายการเดินบัญชีถอนเงินออกจากบัญชี โดยที่ทางฝ่ายผู้เสียหายและบุคคลในบ้านไม่ได้ถอนเงิน จึงเชื่อว่าจะต้องมีคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มนี้ไปถอนเงิน จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง



ต่อมา กก.1 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนทราบว่า ในการกระทำผิดผู้ต้องหาได้ลักเอาบัตรเอทีเอ็มของบิดาผู้เสียหายไปกดถอนเงินและโอนเงินไปยังบัญชีอื่น โดยไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้เอทีเอ็มหลายสาขาต่อเนื่อง มูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาท ซึ่งในการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มนั้น มีภาพจากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของผู้ต้องหาในขณะก่อเหตุไว้ได้ จนได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา และเข้าทำการจับกุม น.ส.อุบลรัตน์ ที่บ้านของผู้เสียหาย



เบื้องต้น รับสารภาพว่า ตนอยากมีเงินใช้เยอะๆ ประกอบกับตนเคยเล่นพนันออนไลน์แล้วได้ผลตอบแทนดี โดยขณะที่ตนดูแลบิดาผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สูงอายุป่วยติดเตียงนั้น ตนได้ทราบรหัสผ่านบัญชีธนาคารของบิดาผู้เสียหาย จึงได้แอบกดเงินสดออกมา เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ แต่สุดท้ายเสียอย่างต่อเนื่อง จึงได้ลักลอบเข้าแอปพลิเคชันธนาคารดังกล่าว แล้วทยอยโอนเงินเข้าบัญชีเว็บพนัน เพื่อเล่นอีก จนเงินในบัญชีผู้เสียหายหมด และเงินที่ลักมาเล่นพนันก็หมดไปเช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ