เก๋งเมาแพ้เสียงแตร ขับรถไล่ชนกระบะ 2 2 ผัว-เมียท้องแก่ ซ้ำตามทำร้าย

จากกรณีเก๋งฝ่าไฟแดงแพ้เสียงแตร ตามไล่ชนรถกระบะสองผัวเมียพังเสียหาย คู่กรณีท้องแก่ผวาหนักจอดร้านก๋วยเตี๋ยวขอชาวบ้านช่วยยังตามไปทำร้าย


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.30 น วันที่ 2 พย 66 ที่ สภ.ช้างเผือก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวน โดย ร.ต.ท.หญิง ฑิตฐิตา บัวขม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ช้างเผือก ได้ทำการสอบปากคำคู่กรณีทั้งสอง รวมทั้งตำรวจสายตรวจที่ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อกันเป็นพยานด้วย


พ.ต.ท.กรณ์ ศศิมณฑา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ช้างเผือก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องข้อพิพาทกันทางจราจร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 66 ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ โดยกระบะได้บีบแตรเตือนเก๋งคู่กรณี ทำให้เก๋งเกิดความไม่พึงพอใจที่ถูกบีบแตรใส่ ขับรถไล่ตามกันมา และมีการไปเฉี่ยวชนท้ายกระบะ คู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนท้าย จึงได้ขับรถไปขอความช่วยเหลือที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ย่านถนนรัตนโกสินทร์ ต.ช้างเผือก เชียงใหม่ ซึ่งผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 3 คน ก็ได้ลงจากรถไปแล้วไปมีปากเสียงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว


ต่อมามีการแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ช้างเผือกเข้าไประงับเหตุไปไกล่เกลี่ยและมีการเชิญตัวมา สภ.ช้างเผือก เพื่อไกล่เกลี่ย กันตอนนั้นยังเป็นเรื่องของการไกล่เกลี่ยกันในเบื้องต้น


แต่ปรากฏว่าคู่กรณีที่ไปก่อเหตุไม่ยินยอมมา และทางผู้เสียหายก็ได้บอกว่า ทางตำรวจไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ของคู่กรณีอีกฝ่ายด้วย โดยตำรวจสายตรวจให้เหตุผลว่า ในตอนนั้นกำลังพลไม่เพียงพอที่จะไประงับเหตุ จึงไม่ได้พาตัวคู่กรณีที่ก่อเหตุมาด้วย แต่ได้ทำการบันทึกภาพบันทึกวิดีโอไว้ทุกอย่าง เพื่อยืนยันตัวของอีกฝั่งหนึ่งไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ทำการไปเชิญตัวออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาภายหลัง


พ.ต.ท.กรณ์ รอง ผกก สอบสวน สภ.ช้างเผือก ยังได้เปิดเผยอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจถือว่าเป็นคนกลางที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย และได้ไประงับเหตุ ก็ได้ถูกเรียกสอบปากคำด้วยเพื่อเป็นพยาน กรณีเรื่องของการดื่มสุรา ซึ่งพบว่าผู้ขับรถมีลักษณะมึนเมาสุรา การสอบปากคำตำรวจสายตรวจที่ไประงับเหตุ ก็สามารถใช้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีที่ก่อเหตุเรื่องของ การเมาสุราและขับขี่ยานพาหนะประมาทและหวาดเสียวได้


ทางด้าน ร.ต.ท.หญิง ฑิตฐิตา บัวขม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ช้างเผือก ได้เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายแต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และบุคคลที่เป็นคนขับขี่รถไปทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ก็จะมีข้อหา ขับขี่รถโดยประมาทหวาดเสียว เพิ่มมาอีกข้อหาหนึ่งเฉพาะคนขับ รถผู้ก่อเหตุ


อย่างไรก็ตามทางตำรวจ สภ.ช้างเผือก อยากฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน อยากให้ใจเย็น ๆ ให้อภัยซึ่งกันและกัน ทุกคนก็อยากจะเดินทางไปถึงจุดหมายโดยปลอดภัยอยู่แล้ว เพียงแต่ในบางครั้งในบางอารมณ์ อาจจะมีการหัวร้อนใส่กันบ้าง ก็เย็น ๆ ใส่กัน และที่สำคัญก็คือ การดื่มสุราแล้วมาขับขี่ยานพาหนะ จะทำให้การตัดสินใจ การควบคุมอารมณ์ลดลง และไม่ถูกกฎหมายอยู่แล้ว และทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องภายหลัง ทำให้สังคมเดือดร้อน ก็ฝากเตือนไปยังประชาชนด้วยในเรื่องของการขับขี่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัย