พนง.สุดทน รองปลัด อบต.พฤติกรรมข่มขู่-คุกคาม เจ้าตัวอ้าง เป็นทหารเก่า จึงพูดตามแบบทหาร

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2566) ความคืบหน้ากรณีพนักงาน อบต.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุดจะทนกับพฤติกรรมของ รอง ปลัด อบต. ส่งคลิปร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าว ระบุว่า รองปลัด อบต.ศรีเทพ มีพฤติกรรมคุกคาม ด่าทอพนักงาน ใน อบต.เป็นประจำ จนพนักงานหลายคนทนไม่ไหว


โดยรอง ปลัด อบต. รายนี้มักใช้คำพูดไม่เหมาะสม พูดคำหยาบคายโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่า มีชายที่ถูกระบุว่าเป็น รองปลัด อบต.เปิดประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งขณะนั้นพนักงานกำลังนั่งอยู่ในห้อง กำลังพูดคุยกัน และชายที่ถูกระบุเป็นรองปลัด อบต. ก็ได้เรียกชื่อพนักงาน พร้อมพูดขึ้นว่า " อี....มึงไปพูดหรอ ว่ากูจะเอามึงออก แม่มึงด้วย" จากนั้นก็มีเสียงคนในคลิปสวนขึ้นมาว่า อัดคลิปไว้เลย ๆ รองปลัดคนดังกล่าวก็พูดต่อว่า อัดเลย ๆ แล้วก็มีเสียงโต้เถียงกัน


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ เพื่อพบกับพนักงานรายดังกล่าว ซึ่งต่อมาทราบชื่อคือ นางสาววิภาพร หรือ สาว ผู้ช่วยเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ของ อบต.ศรีเทพ พร้อมทั้งขอพบจ่าเอกชำเลียง รอง ปลัด อบต.ศรีเทพ ที่ปรากฏในคลิป รวมไปถึงขอพบ นายสุพาภรณ์ นายก อบต.ศรีเทพ และ นางจุฑามาศ ผอ.กองการศึกษา เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว


โดยทางด้านพนักงานใน อบต.ส่วนมากเผย รองปลัด อบต.มีพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม และใช้คำพูดที่ไม่สุภาพกับทางพนักงานจริง และมักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมงัดหลักฐานมาแสดง


ขณะที่ รอง ปลัด อบต.ก็ยอมรับว่า ตนเองเป็นทหารเก่า จึงพูดตามแบบของทหาร แต่เรื่องทะเลาะส่วนตัวนั้นไม่มี ขณะที่ ผอ.กองการศึกษา เผย บางครั้งเขาเคยพูดว่า เขาพกปืนมาด้วย ซึ่งไม่รู้พกมาจริงหรือเปล่า ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว และด้วยพฤติการณ์หลาย ๆ อย่าง บางครั้งเราก็กลัว เวลาเขาโกรธขึ้นมา ซึ่งก็เห็นตามสื่อโซเชียลเวลาเกิดเหตุการณ์รุนแรง ก็เลยกลัวไว้ก่อน


จากการสอบถาม นางสาววิภาพร หรือ สาว ผู้ช่วยเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ซึ่งเป็นคนส่งคลิปร้องเรียนเล่าว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนมากจะมาข่มขู่ บ่อยมาก โดยเคยมีเรื่องส่วนตัวกัน เวลาเกิดเรื่องร้องเรียนกัน ที่อึดอัดจากการทำงาน โดยงานทั่วไปตนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา


ซึ่งนอกจากตนเองแล้วก็มีคนอื่นที่โดนข่มขู่เช่นกัน วันนี้ก็ไม่อยากให้เขาอยู่ในพื้นที่แล้ว เพราะโดนกดดันหนัก ส่วนตัวไม่อยากคุยกับเขาแล้ว เพราะคล้ายจิตไม่ปกติ แต่ถ้าคุยกับคนอื่น เขาก็จะไม่เป็นไร เวลาคุยกับพวกตนก็จะมีอารมณ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่อัดคลิปเกิดขึ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ช่วงเวลาเที่ยง ที่ตัดสินใจร้องเรียน เพราะรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ


ขณะที่ จ่าเอกชำเลียง ศรีวิไล รอง ปลัด อบต.ศรีเทพ กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏในคลิปข่าว เป็นตนเองจริง ส่วนตัวไม่มีเรื่องกัน โดยเรื่องในคลิป คือตนเองได้ทราบจากชาวบ้าน ก็เลยไปสอบถามน้องเขา ซึ่งลักษณะคำพูดที่ออกไปแบบนั้น เพราะตนเป็นทหาร อุปนิสัยตนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว


แต่ถ้าดูในคลิปตอนท้าย เขาพูดตอบโต้ว่ากูไม่ได้พูด กูพูดถึงอีคลัง เขาพูดถึงผู้บังคับบัญชาเขา เพราะเขามีปัญหากันภายใน ผมแค่ไปถามเฉย ๆ ว่าเอาตนไปพูดทำไม ตนไม่รู้เรื่องเลย โดยส่วนตัวตนไม่มีอะไรเลย แค่ตนมาสอบถามเฉยๆ


ด้าน นางจุฑามาศ ผอ.กองการศึกษา เล่าว่า มีการพูดจาไม่เหมาะสม เช่น ทักน้องที่ธุรการคนหนึ่ง ว่านมใหญ่นะ ซึ่งเป็นคำที่ไม่ควรจะพูด แล้วก็คำพูดข่มขู่ ที่ผ่านมาเคยขู่ไปหากำนันผู้ใหญ่บ้าน ว่าเขาจะร้องเรื่องต่างๆ ซึ่งตนก็ไม่ได้กลัวคำขู่ แต่มันทำให้งานสะดุด


ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ได้แค่อัดคลิปเสียงไว้ จนทำให้ทุกคนอึดอัดมาก เพราะน้อง ๆ ที่เป็นผู้น้อย ไม่กล้าไปโต้แย้ง เวลาถูกด่า ก็จะก้มหน้า ไม่เถียง ยืนยันว่าไม่มีการใส่ร้าย พฤติกรรมเขาเป็นอย่างนี้จริงๆ โดยหลักฐานเท่าที่ให้ได้ ก็เป็นข้อมูลที่แคปไว้ในช่องทางไลน์ ส่วนหลักฐานอื่น ก็จะเป็นพยานบุคคลที่ประสบเหตุจริงๆ จากการกระทำถูกคุกคาม ซึ่งน้องๆ บางคน ที่ถูกคุกคามบ่อยๆ ก็จะบล็อกช่องทางติดต่อ


วันนี้ อยากให้ทางผู้ใหญ่ช่วยแก้ไขปัญหา อยากให้โยกย้ายไปไหนก็ได้ เพราะทำงานร่วมกับองค์กร กับชาวบ้านไม่ได้ ปัญหานี้เกิดมาหลายปีแล้ว อำเภอก็รู้ จังหวัดก็รู้ ร้องเรียนมาแล้ว ซึ่งทางหน่วยเหนือมองว่าเป็นเรื่องขององค์กร ไม่อยากมายุ่ง แต่เรื่องนี้มันกระทบชาวบ้าน จะพัฒนาอะไรก็ติดขัดไปหมด


ขณะที่ นายสุพาภรณ์ นายก อบต.ศรีเทพ กล่าวว่า เบื้องต้น ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาทำบันทึกรายงานขึ้นมา แล้วจะได้หารือสอบหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นทางอำเภอก็กำชับมาว่า ให้รายงานทางอำเภอให้ทราบ โดยตนก็จะได้ให้ทางปลัด ตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อจะดำเนินการแก้ไขเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ส่วนคู่กรณีที่มีปัญหา ก็มาทำงานตามปกติ อยู่ระหว่างการแก้ไข ต้องรายงานไปตามขั้นตอน และปัญหาที่ผ่านมา ก็เคยมีเจ้าหน้าที่ของทาง อบต.ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น มีการร้องเรียนเข้าไป ซึ่งตนก็ให้ไปร้องเรียนที่อำเภอ ซึ่งทางอำเภอก็สอบปากคำ และส่งไปทางจังหวัด ซึ่งตอนนี้ทราบข่าวว่า รายงานไปที่กรม อยู่