อาชญากรรม

รวบ "เจ๊ก้อย" เจ้าแม่หวยทิพย์ แอบอ้างเบื้องสูงหลอกลงทุนลอตเตอรี่ สูญกว่า 180 ล้าน

โดย nutda_t

1 พ.ย. 2566

1.4K views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุริยศักดิ์  จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ดวงกมล  หรือ เจ๊ก้อย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดกันทรลักษณ์ ข้อหากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและหมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” โดยจับกุมได้ที่ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ บัตรกดเงินสด 14 ใบ , โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และสมุดบัญชี 7 เล่ม

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2566 ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ว่าถูก น.ส.ดวงกมล แอบอ้างว่ามีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือรู้จักกับบุคคลซึ่งมีโควตาสลากฯ จึงทำให้มีผู้สนใจร่วมลงทุนด้วยเป็นจำนวนมาก ได้กำไรผลตอบแทนในช่วงแรก แต่มาภายหลังไม่สามารถติดต่อได้และบ่ายเบี่ยง กระทั่งทราบว่าไม่มีสลากอยู่จริง ทำให้สูญเสียทรัพย์สินเป็นเงินกว่า 180 ล้านบาท

จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณปลายปี 2563 ผู้เสียหายได้รู้จักกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียง อ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลของจ.ศรีสะเกษ มีโควตาลอตเตอรี่จำหน่ายในราคาถูก จึงได้ชักจูงผู้เสียหายร่วมลงทุน ผู้เสียหายจึงได้ตกลงซื้อและโอนเงินให้กับผู้ต้องหา จำนวน 300,000 บาท และได้รับลอตเตอรี่ตามที่ตกลงกันไว้ จึงเกิดความเชื่อใจ และร่วมลงทุนซื้อขายด้วยเรื่อยมา

ต่อมาเดือนมกราคม 2565 เริ่มมีปัญหา น.ส.ดวงกมล ส่งลอตเตอรี่ไม่ครบตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยอ้างว่าจะส่งเพิ่มให้ในเดือนถัดไป แต่เมื่อถึงกำหนดก็ส่งไม่ครบและพูดในลักษณะเดิมเรื่อยมาในทุกๆ งวด จนมีจำนวนลอตเตอรี่ที่คงค้างจำนวนมาก และหากต้องการลอตเตอรี่เพิ่มมากขึ้นจะต้องจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัท และต้องทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายลอตเตอรี่กับสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ทั้งยังอ้างอีกว่าสามารถหาลอตเตอรี่มาให้ผู้เสียหาย ได้ประมาณ 5,000 – 10,000 เล่มต่องวด ผู้เสียหายซึ่งเคยได้กำไรจากการจำหน่ายลอตเตอรี่ จึงได้ตัดสินใจไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2566 น.ส.ดวงกมล ได้ส่งหนังสือประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่องแจ้งให้ผู้เสียหายไปทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายจึงได้เดินทางจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาทำสัญญา แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ น.ส.ดวงกมล จึงให้บุคคลหนึ่งมารับเอกสารจากผู้เสียหาย ซึ่งไม่เคยรู้จักและไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2566 น.ส.ดวงกมล ได้มาหาผู้เสียหาย และได้ทำการบล็อกหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งในโทรศัพท์ของผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเบอร์ของเพื่อน ไม่อยากให้โทรมารบกวน ผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงได้ใช้หมายเลขโทรศัพท์อื่นโทรไป จึงทราบว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของนางสายสมร ซึ่งเป็นเพื่อนกับน.ส.ดวงกมล โดย   น.ส.ดวงกมล ได้อ้างกับนางสายสมร ว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายลอตเตอรี่ จึงทำให้นางสายสมร หลงเชื่อ โอนเงินซื้อลอตเตอรี่ให้กับน.ส.ดวงกมล สอบถามนางสายสมร จึงทราบว่าน.ส.ดวงกมล อ้างว่ามารับลอตเตอรี่จากผู้เสียหาย เพื่อไปจำหน่ายให้กับนางสายสมร ผู้เสียหายจึงทราบว่าเอกสารหนังสือสัญญาตัวแทนจำหน่ายฯ ดังกล่าวนั้นเป็นเอกสารปลอม เป็นเพียงกลอุบายสร้างเรื่องหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเท่านั้น ทำให้ได้รับความเสียหาย เป็นเงินที่จองซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับ น.ส.ดวงกมล รวมประมาณ 6,480 เล่ม และสลากดิจิทัลอีกจำนวนกว่า 20,000 เล่ม รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 180 ล้านบาท

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ดวงกมล มีการปลอมไลน์ เพื่อใช้แอบอ้างให้ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นบุคคลอื่นจริง เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อลอตเตอรี่กับตน และยังพบว่ามีการใช้ถ้อยคำและรูปภาพดูหมิ่นเบื้องสูง ในโทรศัพท์ที่ น.ส.ดวงกมล ใช้งานอยู่อย่างชัดเจน เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน น.ส.ดวงกมล จึงรับว่าเนื่องจากถูกผู้เสียหายจี้ทวงเงินอย่างหนัก จึงคิดหาทางออกโดยการแอบอ้างเบื้องสูง ที่ทำไปเพราะขาดสติ และรู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่ทำเป็นอย่างมาก

คุณอาจสนใจ